แพทย์เตือนเด็กไทยระดับประถมร้อยละ 6 เรียนด้อยลง สาเหตุสมองบกพร่องด้วยโรค LD

ข่าวทั่วไป Tuesday August 17, 2004 09:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--โรงพยาบาลศิริราช
แพทย์เตือนเด็กไทยระดับประถมร้อยละ 6 เรียนด้อยลง สาเหตุสมองบกพร่องด้วยโรค LD จิตเวชเด็กและวัยรุ่น ศิริราช จัดสัมมนาแนะพ่อแม่สังเกตก่อนสายเกินแก้
ผ.ศ.น.พ.ชาญวิทย์ พรนภดล หน่วยจิตเวชเด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลศิริราช เปิดเผยว่า ปัจจุบันแนวโน้มเด็กไทยจะมีปัญหาด้านการเรียนเพิ่มขึ้น ซึ่งจากการศึกษาวิจัยเด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาพบว่าประมาณร้อยละ 6-10 มีปัญหาอ่านหนังสือไม่ออกหรือเขียนหนังสือไม่คล่อง ส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้
ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความไม่สนใจเรียนหรือความเกียจคร้าน แต่มีสาเหตุมาจากหลายประการ เช่น โรคสมาธิสั้น ซึ่งพบในเด็กไทยวัยเรียนถึงร้อยละ 5 ปัญหาทางอารมณ์ ความเจ็บป่วยทางร่างกาย การเลี้ยงดูที่ขาดระเบียบวินัย หรือการเรียนการสอนที่ไม่จูงใจให้อยากเรียนรู้ สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่ผู้ปกครองคาดไม่ถึงคือ การที่เด็กมีความบกพร่องทางสมองหรือเป็นโรค LD ซึ่งผู้ปกครองหรือครูผู้สอนสังเกตเห็นได้ยาก ปัจจุบันโรค LD ถูกจัดเป็นความพิการอย่างหนึ่งของเด็ก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือดูแลเป็นพิเศษ โดยจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีการที่แตกต่างจากการสอนเด็กทั่วไป
ผศ.นพ.ชาญวิทย์กล่าวว่า เพื่อให้พ่อ แม่ รวมทั้งครูผู้สอนตระหนักและเข้าใจถึงปัญหาดังกล่าว หน่วยจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จึงได้จัดโครงการสัมมนาให้ความรู้ในหัวข้อ “วิธีช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาการเรียน” ขึ้น ในวันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม ศกนี้ ณ ตึกสยามินทร์ ชั้น 7 โดยมีจิตแพทย์เด็ก, นักจิตวิทยา และ ผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาการเรียนของเด็ก และการสังเกตโรค LD พร้อมแนะแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมทั้งพบปะพูดคุยกับผู้ที่เคยประสบปัญหาด้านการเรียนแต่ก็สามารถเอาชนะอุปสรรคมาได้
“การสัมมนาจะมีประโยชน์ต่อผู้เกี่ยวข้องกับเด็ก ทั้งพ่อแม่ ครู ที่จะช่วยประคับประคองพฤติกรรมของเด็กที่บกพร่องทางสมอง ซึ่งบ่อยครั้งที่เด็กมีปัญหาการเรียนแล้วทำให้ผู้ปกครองและครูผู้สอนรู้สึกไม่พอใจจนเกิดการตำหนิหรือลงโทษ ทำให้เด็กมีความเครียด ท้อแท้ จนอาจนำไปสู่ปัญหาทางพฤติกรรม เช่น หนีเรียน เกเร หนีออกจากบ้าน ติดยาเสพติด มีปัญหาทางอารมณ์ วิตกกังวล หรือซึมเศร้า และบางรายอาจถึงขั้นฆ่าตัวตายในที่สุด ฉะนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองรวมทั้งครูบาอาจารย์ จึงควรใส่ใจตรวจสอบบุตรหลานและลูกศิษย์ว่ามีลักษณะเป็นโรค LD หรือไม่ เพื่อหาทางร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรักษาแก้ไขอย่างถูกต้องต่อไป” ผศ.นพ.ชาญวิทย์กล่าวในที่สุด
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
หน่วยจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ตึกผู้ป่วยนอก ชั้น 6 โรงพยาบาลศิริราชโทร. 02-419-7422--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ