กรุงเทพฯ--4 ก.ย.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
? Avaya Aura Conferencing 7.0 และ Avaya Flare Experience ยกระดับการทำงานร่วมกันทางธุรกิจ (business collaboration) ด้วยระบบ audio/web conferencing ที่ใช้งานง่ายและครับครันในหนึ่งเดียว ผสานขีดความสามารถหลากหลายไว้ในโซลูชั่นกลุ่ม unified communications (UC)
? เสริมสร้างขีดความสามารถในการทำงานแบบ “share from anywhere” ที่ปลอดภัยและประหยัดค่าใช้จ่ายซึ่งเอื้อต่อการทำงานและติดต่อสื่อสารในลักษณะ mobile collaboration และ BYOD
? พัฒนาขึ้นบนมาตรฐานของสถาปัตยกรรมแบบเปิด ซึ่งออกแบบมาเพื่อขยายขอบข่ายการสื่อสารผ่าน Avaya Aura? Communication Manager และ Avaya Communication Server 1000 ให้มีประสิทธิภาพสูง พร้อมศักยภาพในการขยายระบบเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
อวาย่า (Avaya) ผู้นำระดับโลกด้านระบบ ซอฟต์แวร์ และบริการเพื่อสนับสนุนการสื่อสารและการทำงานร่วมกันทางธุรกิจ (business collaboration) เผยความก้าวหน้าอีกขั้นของการพัฒนา business collaboration ด้วยการเปิดตัว Avaya Aura? Conferencing 7.0 ซึ่งเป็นโซลูชั่นด้าน multi-modal conferencing เวอร์ชั่นล่าสุดของบริษัท นอกจากนี้ Avaya Flare? Experience ยังรองรับการทำงานของ Apple iPad, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและแล็ปท็อปที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ของไมโครซอฟท์ พร้อมกับเวอร์ชั่นใหม่ของแพลตฟอร์มในกลุ่ม unified communications อย่าง Avaya Aura กับความคล่องตัวที่มากขึ้นของ Avaya Communication Server 1000 (CS1000)
โซลูชั่น Avaya Aura Conferencing 7.0 ช่วยให้สามารถจัดประชุมทางไกลทั้งในลักษณะ unified voice และ web collaboration แบบแบ่งเป็นช่วง (session-based) ได้จากทุกที่โดยใช้เครื่องเดสก์ท็อปที่เป็น Mac หรือ PC รวมถึงแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน ทั้งนี้ Avaya Aura Conferencing 7.0 ซึ่งที่ยึดตามมาตรฐานสถาปัตยกรรม SIP แบบเปิดของ Avaya Aura 6.2 ให้ประสิทธิภาพสูง สามารถขยายเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้มาก และมีความความปลอดภัยสูง สอดคล้องกับความจำเป็นขององค์กรขนาดใหญ่ๆ ทั้งยังเอื้อให้เกิดความยืดหยุ่นในสภาพแวดล้อมของ mobile collaboration และ BYOD โดยโซลูชั่นด้าน business collaboration ใหม่นี้ให้ประโยชน์หลากหลายแก่ผู้ใช้และองค์กรธุรกิจ ดังนี้:
? การเข้าถึงจาก collaboration user interface ของ Avaya Flare Experience ผ่าน Apple iPad รวมถึงพีซีหรือแล็ปท็อปที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows ที่ชาญฉลาดได้ในจุดเดียว สำหรับการสื่อสารและการทำงานร่วมกันแบบ multimodal collaboration รวมทั้งเสียง (voice) การใช้เอกสารร่วมกัน (document sharing) IM/presence อีเมล์ และไดเร็กทอรีรวมขององค์กรและส่วนบุคคล
? Collaboration Agent client ซึ่งไม่จำเป็นต้องติดตั้ง (zero-install) และช่วยให้ผู้ร่วมประชุมสามารถสื่อสารกันได้ง่ายโดยใช้เว็บเบราเซอร์ใดก็ได้หรือ iPhone และทำงานต่อเนื่องด้วย Avaya Flare Experience client บน iPad และพีซี/แล็ปท็อปที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows
? ระบบควบคุมเกี่ยวกับภาพ (visual) และเชิงบริบท (contextual) ซึ่งช่วยขจัดเหตุหยุดชะงักส่วนใหญ่หรือทั้งหมดที่มักเกิดขึ้นโดยทั่วไปในระหว่างการประชุม เช่น การประกาศหรือระบุผู้เข้าร่วมประชุม, เ??สียงประกอบ และการแนะนำผู้พูด เป็นต้น
? สามารถขยายเพื่อรองรับการประชุมได้ถึง 7,500 นัด รองรับการใช้งานของพนักงานได้จากทุกที่เพื่อขจัดหรือลดต้นทุนการใช้บริการจากภายนอก
? มีระบบอัจฉริยะในตัวที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบเปิดและกระจายทั่วถึง ซึ่งช่วยลดและจัดการการใช้แบนด์วิดธ์ และปรับใช้ได้ตามต้องการเพื่อให้ง่ายในการใช้งานบนเครือข่ายและอยู่ในงบประมาณ
Avaya Aura Conferencing 7.0 มีวางจำหน่ายแล้วในราคา $140 ต่อยูเซอร์ (พร้อม Collaboration Agent browser interface) และ $190 ต่อยูเซอร์ (พร้อม Avaya Flare Experience สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows และ iPad) โซลูชั่นกลุ่ม business collaboration รองรับโดย Avaya Aura (6.2) เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด และสามารถเชื่อมต่อทั้งกับระบบ Avaya Aura Communication Manager หรือ Avaya CS 1000
ลูกค้า Avaya CS 1000 สามารถเพิ่ม Avaya Aura-based Collaboration Pack ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์โซลูชั่นเดียวที่มาพร้อมคุณสมบัติด้าน SIP ของ Avaya Aura และทางเลือกหลากหลายในการสื่อสารอย่างคล่องตัวแก่ผู้ใช้ CS 1000 ทั้งนี้ Collaboration Pack ดังกล่าวได้ผนวก Avaya Flare Communicator และ Avaya one-X? Mobile SIP for iOS เอาไว้ด้วย
การเปิดตัวครั้งนี้นับเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของอวาย่าต่อวิสัยทัศน์ " Power of We?" เพื่อให้การทำงานร่วมกันรวดเร็วขึ้น การตัดสินใจอย่างชาญฉลาดมากขึ้น และได้ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้น
คำกล่าว:
"เป้าหมายของเรา คือ การรวมศูนย์โซลูชั่นด้านการสื่อสารและการทำงานร่วมกันทั้งหมดของเรา และลดหรือขจัดการกระจัดกระจายของเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ทำให้สินเปลืองงบประมาณและทรัพยากรระหว่างหน่วยงานและองค์กร จากมุมมองของเรา เราเชื่อว่า Avaya Aura Conferencing 7.0 และ Avaya Flare Experience พร้อม Avaya Aura เป็นกุญแจเปิดสู่วิธีการแบบครบวงจรจากแก่นที่ให้ประสบการณ์ด้าน unified communications อย่างแท้จริงแก่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของเรา"
ดูน เชลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการเครือข่าย รัฐนอร์ทดาโคตา
"มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราชื่นชอบเกี่ยวกับ Conferencing 7.0 ที่มาพร้อม Avaya Flare Experience ซึ่งช่วยให้เกิดความสะดวกง่ายดายในการย้ายข้อมูลการติดต่อไปอยู่ในจุดที่นำไปใช้ได้สะดวกสำหรับการประชุม และเพื่อแบ่งปันเนื้อหาทุกประเภทกับบุคลที่เกี่ยวข้องและคู่ค้า เพื่อให้พวกเขาเกิดความเข้าใจที่สมบูรณ์ เรารู้ได้อย่างชัดเจนว่าใครอยู่ในวงสนทนาโดยไม่ต้องต่อสาย และสามารถปิดเสียงของสายที่เป็นเหตุเบี่ยงเบนความสนใจจากผู้เข้าร่วมประชุมที่เหลือ ถือเป็นเรื่องดีที่การสนทนาและการประชุมผ่านเว็บนั้นสามารถทำได้โดยผ่านทางอินเตอร์เฟซเดียวกัน และได้ยินเสียงชัดเจนทุกครั้ง เรากลายเป็นผู้ใช้โซลูชั่น การประชุมระบบ audio-conferencing เป็นหลัก และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นศักยภาพของระบบ web และ video conferencing ผ่านการใช้โซลูชั่นนี้ "
ดีปา คูรัป ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเครือข่าย มหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา
"Avaya Aura Conferencing 7.0 ถือเป็นส่วนสำคัญของแผนงานด้านการทำงานร่วมกันและกลยุทธ์ขององค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยถูกออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่ามียืดหยุ่นสูง เอื้อต่อการผนวกชุดแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันและธุรกิจ นอกจากนี้ยังเข้ากันได้อย่างดีกับระบบปฏิบัติการในอุปกรณ์สื่อสารไร้สายที่มีอยู่หลากหลาย ช่วยให้ทั้งพนักงานที่ปฏิบัติงานภายใต้สภาพแวดล้อมการทำงานแบบเสมือนจริงและแบบโมบายมือถือสามารถทำงานได้อย่างสะดวกรวดเร็วเช่นเดียวกัน ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้มีองค์ประกอบด้านการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่ส่งผลต่อองค์กรต่างๆ นำไปสู่การยกระดับการทำงานร่วมกัน การสร้างรายได้ และการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง"
เอเดรียน โดมินิค โฮ หัวหน้าทีมนักวิเคราะห์ แผนก Telecom and Managed Services ฝ่าย Networking Research ของ IDC Asia Pacific