สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 7, 2012 11:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,696 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,704 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.68 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,950 บาท กับ 25,050 บาท และกลับมาปิดที่ 25,100บาท กับ 25,200 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,672คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่10,981 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 18 คู่สัญญา OpenInterest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.9 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1.2 % Silver Futures เพิ่มขึ้น 0.8 % GFV12 ปิด 25,390บาท และ GFZ12 ปิด 25,510 บาท GF10V12 ปิดที่ 25,400 บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,500บาท SVV12 ปิดที่ 1,029 และ SVZ12 ปิดช่วงกลางคืนที่ 1,033 สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 11.6 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,705 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น34.5 เซนต์ ปิดที่ระดับ 32.674 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,293.14 ตัน(เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 17 เซนต์ ปิดที่ระดับ 95.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น244.52 จุด ปิดที่ระดับ 13,292 จุด Ratio Gold / Silver 52 เท่ากับ ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบหกเดือน หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีเริ่มต้นแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการเข้าซื้อพันธบัตรรอบใหม่ตามคาด โดยราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,715 เหรียญโดยประมาณในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก่อนการแถลงของนายดรากี แต่ภายหลังก็ปรับตัวลดลงมาทดสอบระดับ 1,700 เหรียญครั้งหนึ่งเมื่อนายดรากีขึ้นสู่แท่นแถลงการณ์ อย่างไรก็ตาม สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวสูงขึ้น 11.6 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,705.6 เหรียญ นายดรากีกล่าวเมื่อวานนี้ว่า สกุลเงินยูโรเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ และอีซีบีจะออกมาตรการที่เรียกว่า Outright Monetary Transactions หรือ OMTs เพื่อจัดเตรียมแผนเตือนภัยที่มีประสิทธิผลก่อนเกิดเหตุฉุกเฉินต่อวิกฤตหนี้สาธารณะ ซึ่งภายใต้แผนดังกล่าว อีซีบีมีอำนาจในการเข้าซื้อพันธบัตรอย่างไม่จำกัดด้วยอายุครบกำหนดไถ่ถอนไม่เกิน 3 ปี US-based gold trader กล่าวว่า ตลาดมีการเข้าซื้อจากข่าวลือ และเทขายเมื่อข่าวจริงออกมา โดยสกุลเงินยูโร ตลาดหุ้น และทองคำต่างปรับตัวลดลงกว่าที่เป็น เมื่อมีการแถลงข่าวของนายดรากีเกิดขึ้น แม้ว่าเขาจะมีการประกาศแผนที่ตรงกันกับข่าวที่รั่วไหลออกมาเมื่อวานนี้แล้วก็ตาม ปริมาณการถือครองทองคำของกองทุน ETFs แตะระดับสูงสุดที่ 72.1 ล้านออนซ์ หรือ 2,044 ตัน เมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลงจากการประกาศตัวเลขภาคการจ้างงานเอกชนที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 201,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน โดยตัวเลขดังกล่าวออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 142,000 ตำแหน่ง ในขณะที่การประกาศตัวเลข Unemployment Claims ของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาออกมาลดลงที่ระดับ 365,000 ราย ดีกว่าที่คาดเช่นกัน การรายงานภาคการจ้างงานของสหรัฐที่ออกมาดีขึ้นจะส่งผลลบต่อราคาทองคำ เนื่องจากเป็นการลดความคาดหวังที่ว่า เฟดอาจออกมาตรการ QE3 ในเร็วๆ นี้ โดยความสนใจต่อไปจะมุ่งไปที่การประกาศตัวเลข Non-farm payrolls ของสหรัฐในวันศุกร์ และการประชุม FOMC ครั้งต่อไปจะอยู่ในช่วงวันที่ 12 - 13 กันยายน อย่างไรก็ตาม แสตนดาร์ด แบงก์ ระบุในรายงานว่า ราคาทองคำอาจไปทดสอบระดับ 1,900 เหรียญได้ในไตรมาสที่ 3 โดยจะได้รับการขับเคลื่อนขนานใหญ่จากการอัดฉีดสภาพคล่องทั่วโลก และอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ ซึ่ง ณ จุดนี้ แสตนดาร์ด แบงก์คาดว่า ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นจากการที่เฟดจะใช้มาตรการ QE เพิ่มเติมมูลค่าอีก 2.50 แสนล้านดอลลาร์ โดยแสตนดาร์ด แบงก์ เชื่อว่า ปริมาณ QE เพิ่มเติมมูลค่า 2.50 แสนล้านดอลลาร์นี้อยู่ในระดับเป็นอย่างน้อยที่เฟดอาจมีการใช้จริง ซึ่งมุมมองของแสตนดาร์ด แบงก์มองว่า อย่างไรเสียเฟดก็จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าตลาด และแม้ว่าแผนการเข้าซื้อพันธบัตรของอีซีบีจะยังคงเป็นผลบวกต่อทองคำ ก็ยังไม่มีการอัดฉีดสภาพคล่องใหม่ที่สำคัญเข้าสู่ตลาดการเงิน นอกจากนี้ นายแดน สมิทธ์ นักวิเคราะห์จากแสตนดาร์ด แบงก์กล่าวว่า อีซีบีได้มีการส่งสัญญาณที่ทุกที่ได้ให้สัญญาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องพันธบัตร เขาคิดว่าตลาดน่าจะปรับตัวสูงขึ้น แต่เขาคิดผิดพลาด ซึ่งเราอาจเห็นการปรับตัวลดลงของทองคำในระยะสั้นบริเวณ 1,690 เหรียญในช่วงอีก 2 — 3 วัน ก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่ง ณ ขณะนี้ตลาดกำลังตรวจหารายละเอียดต่างๆ ในข่าวทั้งหมดที่ออกมา นายมาเรียโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีของสเปน และนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีได้กล่าวว่า พวกเขาไม่ได้หารือถึงเงื่อนไขต่างๆ ในการช่วยเหลือสเปน แม้ว่ามีความคาดหวังว่า นายราฮอยอาจมองหาการสนับสนุนจากเยอรมนีในการประชุมร่วมในกรุงแมดริดก็ตาม นอกจากนี้ นายมาริโอ ดรากี มีความกังวลถึงการตัดสินใจของศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนีในวันที่ 12 กันยายนนี้ว่า กองทุน ESM สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญของเยอรมนีหรือไม่ การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนีจะเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญทางฝั่งยุโรป หากมีการตัดสินออกมาในเชิงลบ อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในยูโรโซน สร้างความตื่นตระหนกให้กับตลาดพันธบัตร อย่างไรก็ตาม หากมีการตัดสินในเชิงบวกต่อกองทุน ESM ทางศาลอาจเพิ่มเงื่อนไขให้เยอรมนีให้เข้าร่วมการรวมกันของสหภาพยุโรป ส่วนเหตุการณ์ทางฝั่งสหรัฐจะมุ่งไปที่การประกาศตัวเลข Non-farm payrolls และการประชุม FOMC ตามลำดับ นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ขานรับการตัดสินใจของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในการซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศที่มีปัญหาหนี้สินในยูโรโซน เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมของประเทศดังกล่าว โดยกล่าวว่า ไอเอ็มเอฟพอใจอย่างยิ่งกับโครงการ Outright Monetary Transactions (OMT) ซึ่งเป็นกรอบการทำงานใหม่ของอีซีบีสำหรับการแทรกแซงตลาดพันธบัตรของประเทศต่างๆ ที่ยอมรับการสนับสนุนของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) และกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) เพื่อดำเนินแผนการปรับปรุงด้านเศรษฐกิจมหภาคและเดินหน้าความพยายามเชิงโครงสร้างและการคลังที่เกี่ยวข้องกัน ไอเอ็มเอฟพร้อมที่จะร่วมมือภายในกรอบการทำงาน ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 173K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 142 K ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 201K - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 374 K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 369 K ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 365K - ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 52.6 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 52.5 ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 53.7 - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.8 M ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -4.9 M ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ -7.4M - ECB President Draghi Speaks เวลา 23.30 น. ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ163K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 123K - Unemployment Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ8.3% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 8.3% วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น โดยเป็นการเก็งกำไรเพื่อรับข่าวอีซีบี โดยขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดที่ระดับ 1,715 เหรียญ ก่อนที่จะเกิดแรงเทขายทำกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดผิดหวังตัวเลข ADP Non-farm employment change ที่ออกมาดีกว่าที่คาดอย่างมากถึง 59,000 ตำแหน่ง ทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดทองคำ รวมทั้งการร่วงลงของยูโรดอลลาร์ในช่วงสั้นๆทำให้ราคาทองคำหลุดระดับ 1,700 เหรียญลงมาได้ อย่างไรก็ดี พบว่าตลาดยังมีแรงซื้อและขายสลับกันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งตลาด Gold Futures และตลาด Spot เช่นกัน ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures เมื่อวานสูงขึ้นกว่าวันก่อนอยู่ที่ 13,000 คู่สัญญา ขณะที่ตลาดเริ่มรอความคาดหวังคือตัวเลข Non-farm employment change ซึ่งจะประกาศในคืนนี้วันนี้ หากตัวเลขนี้ดีขึ้นกว่าที่คาดอีกอย่างมากเหมือนเมื่อคืนก็มีโอกาสให้ราคา ทองคำปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องได้ ราคาทองคำยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น โดยที่ตลาดมีการแกว่งตัวอย่างที่ได้เตือนไว้แล้วจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ผิด เพี้ยนไปจากทิศทางการคาดการณ์ ทองคำจะมีแนวรับแรกที่สำคัญที่ระดับ 1,690 เหรียญ และแนวรับรองอยู่ที่ระดับ 1,685 เหรียญ โดยไม่คิดว่าราคาจะตกลึกนัก ในขณะที่แนวต้านด้านบนอยู่ที่ระดับ 1,715 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเมื่อวาน Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,230 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,430 บาท Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,350 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,550 บาท Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,040 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัว โดยคาดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ ระหว่าง 1,690 -1,700 เหรียญ รอการประกาศตัวเลข Non-farm employment change คืนนี้ ขอให้นักลงทุนเตรียมความพร้อม นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) รอแนวรับลงไปที่บริเวณ 1,685 เหรียญ ซื้อเพิ่มในบริเวณดังกล่าว คาดหวังว่าเมื่อวานคงขายทำกำไรไปบางส่วนในขณะที่ราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบน คงPortfolio อยู่ที่ 30-40% เช่นเดิม นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง เป็นลักษณะการทยอยเข้าช้อนซื้อและขายทำกำไรเป็นรอบเช่นเดียวกัน คงPortfolioที่ 40% ซื้อบริเวณแนวรับที่ระดับ 1,685 เหรียญ ต่ำกว่าแนวรับของนักลงทุนรายวันเพียงเล็กน้อย บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ