ภาษาที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกกับเด็กไทยวันนี้

ข่าวทั่วไป Wednesday September 12, 2012 17:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ก.ย.--นานมี “ภาษาจีน” นับเป็นอีกภาษาที่มีความสำคัญยิ่ง และมีบทบาทอย่างมากในโลกปัจจุบัน จึงถือได้ว่าภาษาจีนเป็นภาษาที่ทรงอิทธิพลและกำลังกลายเป็นภาษาของคนทั่วโลกในการติดต่อสื่อสารและด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน ดังนั้นหากเยาวชนไทยสามารถเรียนรู้และเข้าใจในภาษาจีนอย่างลึกซึ้งย่อมได้เปรียบในด้านการรองรับการแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติ ปรีญาณี สุพุทธิพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมี จำกัด เปิดเผยว่า นานมีได้จัดโครงการประกวดทักษะภาษาจีน ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 2 ขึ้น เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันพ่อแม่ผู้ปกครองส่งเสริมสนับสนุนให้ลูกหลานได้ศึกษา เรียนรู้ภาษาจีนเพิ่มเติม อีกทั้งภาครัฐ ยังส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีน ให้แก่เยาวชน ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษา ถึง อุดมศึกษา โดยในปีนี้มีนักเรียนนักศึกษาเข้าร่วมการประกวดกว่า 500 คน จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ 120 สถาบัน ผู้เข้าประกวดได้เลือกแสดงความรู้ความสามารถตามความสนใจและความถนัดของตนเองผ่าน การท่องกลอน เล่านิทานและร้องเพลงจีน เพื่อให้สามารถนำความรู้ทางภาษามาประยุกต์ใช้ในหลายแขนง ทั้งในด้านการให้ความบันเทิงและเสริมสร้างความรู้ใหม่ การนำข้อคิดจากปรัชญาและเรื่องเล่าของจีนมาใช้ในการดำเนินชีวิต และนำมาใช้พัฒนาตนเอง สังคม และประเทศชาติ เพราะทักษะภาษาจีนเป็นรากฐานสำคัญของการติดต่อสื่อสารของคนทั่วโลก มีบทบาทอย่างมากในการดำเนินธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต นายฟัง เหวิน กั๋ว (Fang WenGuo) อุปทูตสถานเอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย กล่าวว่า จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานประเทศหนึ่งในโลก อักษรจีนมีความเป็นมาและการคิดค้นมากกว่า 50,000ปี อีกทั้งภาษาจีนยังเป็นภาษาที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก โดยเฉพาะเมื่อประเทศจีนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและมั่นคงก็ยิ่งทำให้ภาษาจีนมีบทบาทและสร้างคุณค่าแก่คนทั่วโลก โครงการประกวดทักษะภาษาจีนนี้มีความหมายอย่างยิ่งต่อการส่งเสริม กระตุ้น นักเรียน นักศึกษาทุกระดับให้เกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ เข้าใจภาษาและวัฒนธรรมจีน เพราะได้นำเอาการร้องเพลง เล่านิทาน ท่องบทกวี มาเป็นเนื้อหาในการประกวด ผู้เข้าแข่งขันได้ใช้ทักษะภาษาจีนอย่างหลากหลาย เพิ่มศักยภาพทางความคิดและจินตนาการและในขณะเดียวกัน ก็ทำให้ผู้เรียนเข้าใจวัฒนธรรมจีนมากยิ่งขึ้นผ่านทางการเรียนภาษาจีน ส่งผลให้เกิดความเข้าใจประเทศจีนอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนมิตรภาพระหว่างไทยและจีน นับเป็นประโยชน์สูงสุดของโครงการนี้ เรามาทำความรู้จักเพื่อนๆที่เก่งภาษาจีน ภาษาที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกจนได้รับรางวัลถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ชนะยอดเยี่ยมในระดับ ป.1-ป.3 คือ ด.ญ.เชิญขวัญ สิงโตนิเวศ น้องแมงปอ อายุ 7 ขวบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จากโรงเรียนสว่างบริบูรณ์วิทยา จ.ชลบุรี เล่าว่า วันนี้ใช้การเล่านิทานเรื่องความสุขในฤดูใบไม้ผลิ เป็นเรื่องราวของสารพัดสัตว์มีทั้ง กบ ไก่ กระต่าย ที่ต่างใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม บนบ่อบัวในวันที่อากาศแจ่มใสของฤดูใบไม้ผลิ ชอบนิทานเรื่องนี้เพราะสอนให้รู้ว่าเราต้องอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น ต้องรู้จักหน้าที่ และการแบ่งปันซึ่งกันและกัน ที่เลือกการเล่านิทาน เพราะเป็นคนชอบฟังนิทาน และเชื่อว่านิทานสามารถเข้าถึงใครก็ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คิดว่าคงถูกใจเพื่อนๆด้วย นิทานยังช่วยสอนให้เราเป็นคนดีผ่านข้อคิดเตือนใจ เทคนิคการเล่านิทานที่น่าสนใจคือการถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครในนิทานออกมา ทั้งน้ำเสียงที่มีจังหวะ น้ำเสียงขึ้นลง หนักเบา รวมทั้งท่าทางที่จะสื่ออารมณ์ความรู้สึกของตัวละครนั้นๆ ชอบภาษาจีนเพราะเป็นภาษาที่ได้ออกเสียงแล้วรู้สึกสนุก ฟังแล้วชัดถ้อยชัดคำมีเอกลักษณ์ ตั้งใจว่าภาษาจีนจะช่วยเบิกทางให้ได้ประกอบอาชีพเป็นไกด์ อาชีพที่ใฝ่ฝันเพราะได้ท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ส่วน ด.ญ.ปิณชา วานิชประเสริฐพร หรือน้องปู๊ปู่ อายุ 12 ปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนจิ้นเตอร์ ผู้ชนะยอดเยี่ยมในระดับ ป.4-ป.6บอกว่า ที่โรงเรียนเป็นการเรียนการสอน 3 ภาษา คือ ภาษาไทย จีน และ อังกฤษ รู้สึกชอบและเรียนภาษาจีนมาตั้งแต่เด็กทำให้ผูกพันและรักภาษาจีน ที่บ้านมีเชื้อสายจีน พ่อกับแม่บอกว่าการที่เรียนรู้ได้หลายๆภาษาจะทำให้ได้เปรียบกว่าคนอื่น ทำให้พูดคุยติดต่อสื่อสารกับคนอื่นได้ทั่วโลกได้ ตนจึงฝึกหัด ทั้งเขียนและพูด วันนี้เลือกการแสดงการร้องเพลงจีนแบบงิ้ว ในชุด มู่หลาน ซึ่งเรื่องนี้คนไทยคุ้นเคยกันดี แต่วันนี้เน้นการนำเสนอแบบงิ้วที่ต้องแสดงท่าทางแอ๊คชั่นที่โลดโผน แรงบันดาลใจมากจากคุณทวดที่บ้านมีเชื้อสายจีนชอบดูงิ้ว จึงซึบซับจุดเด่นของงิ้วที่มีการร้องที่เป็นเอกลักษณ์ เรื่องมู่หลานมีข้อคิดเรื่องความอดทนและความกล้าหาญ ซึ่งแม้เป็นหญิงแต่หากมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงก็ไม่ต้องกลัวว่าจะแพ้ผู้ชาย ทำให้กล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ในอนาคตอยากเป็นคุณหมอ เพื่อช่วยรักษาคนมากมายไม่ใช่เฉพาะคนไทยเท่านั้น แต่อยากไปทำงานต่างประเทศนำเงินตราเข้ามาประเทศไทยเยอะๆ ซึ่งคิดว่าภาษาจีนจะช่วยให้ได้เดินทางไปช่วยเหลือคนต่างชาติต่างภาษาในหลายๆประเทศทั่วโลก ปิดท้ายที่ ด.ญ. หฤฒภักษ จิวาภัทร์ น้องติน อายุ 13 ปี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวุฒิวิทยา คว้ารางวัลยอดเยี่ยมในระดับมัธยมศึกษา กล่าวว่าเรียนภาษาจีนมาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ วันนี้เลือกการเล่านิทานเรื่องราชสีห์กับหนู ซึ่งเป็นนิทานที่เข้าใจง่ายและยังได้คติเตือนใจที่ดี ใช้เวลาฝึกประมาณ 2 เดือนโดยเน้นการอ่านออกเสียงให้ชัดเจน ร่วมกับการแสดงที่ใส่ท่าทางอารมณ์ความรู้สึก สำหรับคำแนะนำในการเรียนรู้ภาษาจีนนั้น น้องตินแนะนำให้เพื่อนๆหมั่นฟังบ่อยๆ ทั้งจากการดูภาพยนตร์จีน , ซีรีส์หนังจีน และเข้าเวปไซด์ไปดูเรื่องราวต่างๆของประเทศจีน เทคนิคคือการเรียนรู้การออกเสียง ฝึกจำคำศัพท์ เรียนจากพินอินจะทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น หลังจากนั้นก็ลองฝึกผสมคำเป็นประโยค ลองหาโอกาสพูดคุยกับคนรอบข้างที่รู้ภาษาจีน ทำให้เราชินและคล่องขึ้น สำหรับอนาคตน้องติน อยากเป็นอาจารย์สอนภาษาจีน เพราะคนไทยยังไม่ค่อยรู้ภาษาจีนมากนัก จึงต้องการเผยแพร่ภาษาจีนให้แพร่หลายเพื่อใช้ติดต่อสื่อสารทำการค้ากับคนทั่วโลก โลกที่มีการเชื่อมโยงสื่อสารอยู่ตลอดเวลา ทำให้เยาวชนไทยต้องปรับตัวและเรียนรู้ ในภาษาของคนทั่วโลก นอกจากรองรับการแข่งขันแล้ว เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับน้องๆเยาวชนศึกษาถึงชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมอันดีงามของกันและกันได้ด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ