นักวิชาการด้านการเกษตรทั้งไทยและต่างประเทศ ชี้วิกฤตอาหารโลกส่อเค้ารุนแรง ยกไทยแหล่งเกษตรต้นน้ำสำคัญ

ข่าวทั่วไป Friday September 21, 2012 08:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--The Red Communication นักวิชาการด้านการเกษตรทั้งไทยและต่างประเทศ ชี้วิกฤตอาหารโลกส่อเค้ารุนแรงยกไทยแหล่งเกษตรต้นน้ำสำคัญ พัฒนาเป็นศูนย์กลางผลิตเมล็ดพันธุ์พืชส่งขายทั่วโลก นักวิชาการด้านการเกษตรทั้งไทยและต่างประเทศ ชี้วิกฤตอาหารโลกส่อเค้ารุนแรง จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงและประชากรโลกเพิ่มขึ้น สวนทางอัตราการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรกลับลดลง ชี้ไทยสามารถเป็นจุดยุทธ์ศาสตร์อาหารของโลกได้อย่างครบวงจร จากความสมบูรณ์ของพื้นที่และความสามารถของเกษตรกรไทย โดยยกประเทศไทยเป็นแหล่งเกษตรต้นน้ำสำคัญ พร้อมมุ่งพัฒนาเป็นศูนย์กลางการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชส่งขายทั่วโลก เพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าเกษตรและสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้แก่ประเทศ มร.เครก ดันน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มอนซานโต้ ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวถึงการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรในปัจจุบันว่า เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรถือเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดอนาคตในการผลิตอาหารของโลก ซึ่งต้องเพิ่มปริมาณมากขึ้นให้เพียงพอต่อประชากรโลก เพราะปัจจุบันโลกกำลังเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤตด้านอาหาร จากการประชุมองค์กรเกษตรโลกระดับภูมิภาคเอเชีย ชี้ว่าโลกกำลังอยู่ในความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุ่นแรง เนื่องจากปัจจุบันโลกมีประชากรอยู่ราว 6,000 ล้านคน ในจำนวนนี้มีประชากรโลกที่อยู่ในภาวะขาดแคลนอาหารเกือบ 1,000 ล้านคน และในปี 2050 คาดว่าประชากรโลกที่จะเพิ่มเป็น 9,000 ล้านคน แม้จะมีเวลาอีก 38 ปีจากปัจจุบัน แต่ถือเป็นระยะเวลาที่สั้นมากเมื่อเทียบกับปริมาณอาหารที่ผลิตได้ เพราะโลกกำลังประสบกับปัญหาภูมิอากาศที่แปรปรวน การเกิดภัยแล้งทำให้ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ แต่วิกฤตที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นโอกาสของประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าหลายประเทศ ไทยมีภูมิประเทศซึ่งเหมาะสมต่อการเกษตรและถือว่าที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ประกอบกับเกษตรกรไทยมีทักษะความสามารถสูง มีความซื่อสัตย์และมีคุณภาพ ทำให้ผลผลิตจากประเทศไทยมีคุณภาพดีและเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก แต่จากปัญหาพื้นที่การเพาะปลูกของประเทศไทยที่มีอยู่อย่างจำกัด การขยายตัวของพื้นที่เศรษฐกิจและที่อยู่อาศัยเป็นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ทิศทางในการดำเนินการพัฒนาด้านการเกษตรของไทยจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มผลผลิตต่อไร่และการสร้างมูลค่าของผลิตภัณฑ์เกษตรให้สูงขึ้น โดยการพัฒนาเป็นเกษตรต้นน้ำจะเป็นทิศทางที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย ซึ่ง มอนซานโต้ มีนโยบายอย่างชัดเจนที่จะช่วยผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชส่งขายทั่วโลก โดยเมล็ดพันธุ์พืชที่ผลิตขึ้นนั้นจะเป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพสูง ให้ผลผลิตที่ดี มีความต้านทางต่อโรคและแมลง เพื่อลดการใช้สารเคมีและต้นทุนการผลิตลง มอนซานโต้ มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตรสมัยใหม่ โดยเฉพาะเทคโนโลยีชีวภาพและการใช้เมล็ดพันธุ์ไฮบริด ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ในปัจจุบันมีประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรชั้นนำถึง 29 ประเทศทั่วโลก ที่เกษตรกรเลือกปลูกพันธุ์พืชที่ปรับปรุงพันธุ์ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ป้อนสู่ตลาดโลก และอีก 54 ประเทศเป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเหล่านั้นรวมทั้งประเทศไทยด้วย สำหรับยุทธ์ศาสตร์ด้านการเกษตรของไทยหลังจากเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน (AEC) นั้น ถือว่าเป็นโอกาสและก้าวสำคัญของประเทศไทย การร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำให้ อาเซียน เป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของโลก ประเทศในกลุ่มอาเซียนจะมีความแข็งแกร่งและมีความสามารถในการแข่งขันด้านการผลิตผลิตภัณฑ์การเกษตรในระดับสูง ซึ่งหากไทยสามารถเป็นศูนย์กลางในการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชตามความต้องการของโลกแล้ว จะทำให้ผลผลิตและรายได้จากภาคการเกษตรของไทยมีมูลค่าสูงขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรไทยทั้งที่เป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์และผู้ผลิตธัญญาหารมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รายได้มากขึ้น ปลอดภัยจากการใช้สารเคมีลดลง ลดการปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม ตลอดจนดึงดูดความน่าสนใจของคนรุ่นใหม่ที่จะเข้าทำการเกษตรที่ยั่งยืนมากขึ้นด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ