tk เชื่อมั่นนโยบายภาครัฐกระตุ้นตลาดสองล้อ

ข่าวยานยนต์ Monday September 24, 2012 10:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--ฐิติกร TK เชื่อมั่น โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ช่วยกระตุ้นตลาดสองล้อ - โครงการรับจำนำรอบใหม่ จะช่วยรักษากำลังซื้อให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง - เชื่อมั่น หากไม่มีปัญหาน้ำท่วม ผลประกอบการจะเติบโตได้ตามแผน บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ซึ่งเป็นผู้นำด้านบริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เชื่อมั่นการดำเนินการรับจำนำข้าวเปลือกต่อในปีหน้า จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยให้ตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง นายประพล พรประภา รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่ากรณีที่รัฐบาลขณะนี้กำลังพิจารณาที่จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้อนุมัติการต่ออายุโครงการรับจำนำข้าวเปลือกต่อไปอีกในปีหน้า โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณในวงเงินกว่า 4 แสนล้านบาท โดยจะสามารถรองรับข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการได้ราว 25 ล้านตัน ซึ่งหากคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ดำเนินการต่อไปอีก 1 ปีนั้น จะเป็นการกระตุ้นตลาดรถจักรยานยนต์ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ตลาดรถจักรยานยนต์มียอดจำหน่ายประมาณ 1.47 ล้านคัน “ต้องยอมรับว่าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลนั้น มีผลต่อตลาดรถมอเตอร์ไซค์โดยตรงในตลาดภาคกลางและภาคอีสาน โดยเฉพาะภาคอีสานซึ่งมีประชากรมากที่สุดในประเทศและเป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวที่สำคัญของประเทศไทย” นายประพลกล่าว นายประพลกล่าวว่าหากปีนี้ ประเทศไทยไม่มีปัญหาน้ำท่วมอย่างปีที่ผ่านมา และคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ต่ออายุโครงการรับจำนำข้าวเปลือกไปอีก 1 ปีนั้น จะมีส่วนกระตุ้นให้ตลาดรถจักรยานยนต์เติบโตต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าอย่างแน่นอน “และถ้าเป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้นั้น TK มีความมั่นใจมากว่าผลประกอบการของ TK ในช่วงครึ่งปีหลังจนถึงปีหน้าจะต้องดีกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน” นายประพลกล่าว บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) ได้ตั้งเป้าการเจริญเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในปีนี้ไว้ที่ 10% โดยในช่วงครึ่งปีแรก สามารถทำยอดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ 7,962 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วราว 5.1% โดยคาดว่ายอดสินเชื่อจะสามารถโตได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน ในส่วนของรายได้รวมของครึ่งปีแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,775.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว 10.85% กำไรสุทธิ 308.91 ล้านบาท และมีแนวโน้มที่ดีในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องมาจากผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมในช่วงปลายปี 2554 ได้หมดไปแล้ว และคาดว่าในปีนี้ความเสียหายจะไม่เกิดขึ้นหรือไม่มีผลกระทบเท่ากับปีที่ผ่านมา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ