กรุงเทพฯ--4 ต.ค.--ฐิติกร
TK โค้งสุดท้าย ปรับเป้าสินเชื่อจาก 10% เป็น 15%
- ภาคการผลิตรถจักรยานยนต์เข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่ปลายไตรมาส 2
- เชื่อมั่นไตรมาสสุดท้าย ยังแรงต่อเนื่องไปถึงไตรมาสแรกปีหน้า
บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ซึ่งเป็นผู้นำด้านบริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปรับเป้าเติบโตของสินเชื่อจาก 10% มาเป็น 15% ภายในปีนี้ ทั้งนี้เพราะภาคการประกอบรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยเข้าสู่ภาวะปกติ ในขณะที่ร้านค้าจักรยานยนต์เตรียมพร้อมสินค้าคงคลังรับฤดูการขายในไตรมาส 4
นายประพล พรประภา รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าจากสภาพตลาดรถจักรยานยนต์ที่ฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพตั้งแต่ปลายไตรมาที่ 2 เป็นต้นมา ผนวกกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการฟื้นตัวของตลาดรถจักรยานยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 1.47 ล้านคัน ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าตลาดรถจักรยานยนต์ในปีนี้จะสามารถเติบโตได้ถึง 2.2 ล้านคันตามเป้าหมายอย่างแน่นอน
“เรามั่นใจว่าในส่วนของ TK ก็จะต้องเติบโตเพิ่มขึ้นจากที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ สัญญาณที่เราเห็นได้ชัดว่าสภาพตลาดได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้วก็คือภาคการผลิตรถจักรยานยนต์เข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 และทยอยเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ระดับสต็อคในร้านค้ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วประเทศกลับสู่ภาวะปกติเช่นกัน พร้อมที่จะรับความคึกคักของตลาดในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า” นายประพลกล่าว
จากภาวะดังกล่าว นายประพลกล่าวว่า TK ได้ปรับเป้าหมายการเจริญเติบโตทางด้านสินเชื่อจากประมาณ 8,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 7,576 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2554 มาเป็นประมาณ 8,700 ล้านบาทสำหรับปีนี้ คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 15% เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 10%
ในช่วงครึ่งปีแรก TK สามารถทำยอดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ 7,962 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วราว 5.1% ในส่วนของรายได้รวมของครึ่งปีแรกของปีนี้ TK มีรายได้รวม 1,775.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว 10.85% กำไรสุทธิ 308.91 ล้านบาท
นายประพลกล่าวว่าทางด้านแผนการขยายงานในปีนี้ TK เตรียมพร้อมที่จะเปิดสาขาอีก 4 — 5 สาขา เพิ่มเติมจากที่ได้เปิดไปแล้วในปีนี้ 2 สาขา ซึ่งปัจจุบัน TK มี 80 สาขา ใน 46 จังหวัด และเปิดรับพนักงานเพิ่มอีก 350 ตำแหน่ง เพื่อรองรับแผนการขยายงาน โดยขณะนี้สามารถรับได้แล้วประมาณ 50 ตำแหน่ง