กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--ซีพีเอฟ
นายสัตวแพทย์ดำเนิน จตุรวิธวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟเป็นบริษัทชั้นนำของไทย ในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร คือหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์จากเนื้อสุกร ภายใต้แบรนด์ “ซีพี” โดยคำนึงถึงคุณภาพ มาตรฐาน ปลอดสาร และปลอดภัย ตลอดกระบวนการผลิต เริ่มตั้งแต่ด้านการเลี้ยงสัตว์ ไปจนกระทั้งถึงการแปรรูปเนื้อสุกรสู่ผู้บริโภค
กระบวนการผลิตเนื้อหมูสดอนามัยตราซีพี เริ่มจากการคัดเลือกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ชั้นเยี่ยม ผ่านการเลี้ยงในโรงเรือนระบบปิดที่มีการจัดการฟาร์มและการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด ที่สำคัญ มีฟาร์มสุกรของซีพีเอฟบริษัทเดียวเท่านั้นที่เป็นฟาร์มระบบปิด หรือ Evaporative Cooling System ทั้ง100% ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มของบริษัทหรือฟาร์มของเกษตรกร นอกจากนี้ซีพีเอฟยังเลือกใช้อาหารสัตว์คุณภาพสูง ทั้งยังผ่านโรงชำแหละมาตรฐานกรมปศุสัตว์ ก่อนที่จะส่งเข้ามายังโรงบรรจุหีบห่อที่รักษาอุณหภูมิตลอดเวลา ด้วยคุณภาพสด สะอาด ปลอดสาร ปลอดภัย และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
“ด้วยมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลดังกล่าว ส่งผลให้มีส่วนช่วยในการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของไทย ประกอบกับอุตสาหกรรมหมูและหมูแปรรูปยังมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น ปัจจุบันซีพีเอฟจึงไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนานวัตกรรมต่างๆโดยเฉพาะด้านการผลิต ซึ่งนอกจากเพื่อรองรับอุปสงค์ที่จะมีมากขึ้นจากการเปิดเสรีทางการค้าหรือตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ในปี 2558 แล้ว ยังนับเป็นการตอกย้ำศักยภาพความเป็นผู้นำด้านมาตรฐานในตลาด AEC อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหาโรคปากเปื่อยและเท้าเปื่อย ที่เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการส่งออกเนื้อหมูสดของไทยนั้น จำเป็นที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องควรร่วมกันพัฒนาฟาร์มสุกรของไทยทั้งระบบให้เป็นฟาร์มมาตรฐาน ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้ไทยสามารถส่งออกเนื้อหมูสดได้ในอนาคต” นายสัตวแพทย์ดำเนิน กล่าว
ด้านนายอนันต์ วงษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ ซีพีเอฟ ผู้บริหารโรงงานฯ เปิดเผยว่า นอกเหนือไปจากการคัดเลือกสายพันธุ์สุกรชั้นดี ผนวกกับระบบการเลี้ยงที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้การจัดการฟาร์ม การควบคุมป้องกันโรค และการเลือกใช้อาหารสัตว์คุณภาพสูงดังกล่าวแล้ว กระบวนการ “บรรจุเนื้อหมูซีพี” รวมถึง “การแปรรูปเนื้อหมู” ก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่บริษัทให้ความสำคัญ ก่อนที่ผลิตภัณฑ์เนื้อหมูซีพีจะถูกส่งถึงมือผู้บริโภค
โดยสุกรเนื้อจากฟาร์มของ CPF จะถูกนำเข้าสู่กระบวนการแปรรูป ภายในโรงงานที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และถูกสุขอนามัย โดยสุกรที่ผ่านกระบวนการแล้ว จะต้องผ่านขั้นตอนการทำความสะอาด ผ่านการตรวจรับรองจากกองสัตวแพทย์สาธารณสุข และลดอุณหภูมิให้เย็นลงที่ 4 องศาเซลเซียส จากนั้นจึงตัดแต่งแยกชิ้นส่วนภายในห้องที่ควบคุมความเย็นสม่ำเสมอตลอดเวลา โดยเนื้อสุกรไม่สัมผัสพื้น และไม่สัมผัสมือคนโดยตรง ก่อนบรรจุเบ็ดเสร็จจากโรงงาน ภายใต้การเก็บรักษาในรูปแบบทั้งแบบ Chill ที่ 0-4 องศาเซลเซียส และ Frozen ที่ -40 ถึง -20 องศาเซลเซียส ทั้งนี้เพื่อให้แกนของเนื้อสุกรมีอุณหภูมิที่ -18 องศาเซลเซียส ขนส่งไปยังผู้บริโภคด้วยรถห้องเย็นที่มีการควบคุมอุณหภูมิ เนื้อหมูสดอนามัยตราซีพี จึงสามารถรักษาความสด สะอาด และลดโอกาสเสี่ยงจากการปนเปื้อนที่จะเป็นอันตรายไปจนถึงมือผู้บริโภค
ลักษณะบรรจุภัณฑ์ของหมูอนามัยตราซีพี ตามโมเดิร์นเทรดทั่วไปจะอยู่ในลักษณะ CP Brand Wrap Packing, และ Top Seal ส่วนบรรจุภัณฑ์ในลักษณะ CP Brand Pouch Packing จะวางจำหน่ายอยู่ที่ ซีพี เฟรชมาร์ท ทั้งนี้จะมีเนื้อหมูปลอดสารอีกส่วนหนึ่งถูกนำไปแปรรูปเป็นเนื้อสุกรปรุงสุกหลากหลายชนิด เช่น ผลิตภัณฑ์ไส้กรอก เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับผลิตภัณฑ์มาตรฐาน ปลอดภัย เนื้อหมูสดปลอดสารตราซีพี ขณะนี้มีวางจำหน่ายที่ CP Fresh Mart , Tops, Lotus Express, Tesco Lotus, Big C, Carrefour, และ Makro
ทั้งนี้ เมื่อไม่นานมานี้ ซีพีเอฟได้เปิดตัว “หมูดำซีพี คูโรบูตะ” (CP Kurobuta Pork) ซึ่งเป็นสุกรสายพันธุ์ใหม่ ที่นับเป็นนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ที่บริษัทได้ริเริ่มพัฒนาเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย โดยจัดเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยม ที่มีลักษณะพิเศษ คือ รสชาติความอร่อยถูกปาก เนื่องจากมีความนุ่มกว่าเนื้อหมูปกติกว่า 30 % จากเส้นใยกล้ามเนื้อที่มีความละเอียดประกอบด้วยชั้นไขมันแทรก (Marbling) อย่างพอเหมาะ ทำให้ได้รสชาติที่ชุ่มฉ่ำหวาน นุ่ม และอร่อยถูกปากผู้บริโภค สามารถปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู
สำหรับหมูพรีเมี่ยม ในชื่อ “หมูดำซีพี คูโรบูตะ” นั้น บริษัทฯได้นำออกวางจำหน่ายในช่องทางโมเดิร์น เทรด ตั้งแต่ต้นปี 2553 ณ ร้านเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ทั้งแบบแช่เย็น (Chill) แช่แข็ง (Frozen) และปรุงรสแช่แข็ง (Marinate) โดยปัจจุบันมียอดขายที่ 40 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งมีอัตราการเติบโตถึง 400% ในปีนี้ ภายใต้กำลังการผลิตที่ 3,000 ตัวต่อเดือน โดยปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ที่ Max Value ตลอด 24 ชั่วโมง ร้านซีพี เฟรชมาร์ท ซุปเปอร์มาเก็ต และไฮเปอร์มาเก็ตชั้นนำทั่วไป สำหรับผลิตภัณฑ์ Premium “หมูดำซีพี คูโรบูตะ”
อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจด้านอาหาร ซีพีเอฟตั้งเป้าการจำหน่ายสุกรโดยรวมเติบโตในปีนี้ (2555) ไว้ที่ 50% ผ่านการจำหน่ายในรูปแบบของ Pack Brand ที่เพิ่มมากขึ้น จากสัดส่วนผลิตภัณฑ์เนื้อหมูซีพีแบบ Pack Brand ที่ 36% ในปีที่ผ่านมา (2554) เป็น 55% ในปีนี้ (2555) โดยมีผลิตภัณฑ์ “หมูดำซีพี คูโรบูตะ” เป็นสินค้า Premium ที่ต้องการตอกย้ำความนิยมและขยายช่องทางการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนการตลาดของผลิตภัณฑ์เนื้อหมูซีพีแบบ Pack Brand ในช่องทางพันธมิตรโมเดิร์นเทรด และมีแนวโน้มจะขยายตลาดไปยังกลุ่มพันธมิตรโมเดิร์นเทรดอื่นนอกเหนือจากนี้ต่อไป
ซีพีเอฟ ถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปของไทย มีการลงทุนและพัฒนามาตรฐานกระบวนการผลิตและแปรรูปอาหารมาอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมตั้งแต่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ไปจนถึงแปรรูปเป็นอาหาร หรือที่เรียกว่า “FROM FARM TO TABLE” และมาตรฐานสากลต่างๆ ที่ได้รับก็มีอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น GMP, HACCP, ISO 9002, ISO14001, TIS18001 และ ISO 17025