บลจ.ธนชาติ ออก“กองทุนเปิดธนชาติทวีรายได้ 8” ขนาด 5,000 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Wednesday September 8, 2004 15:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--บลจ.ธนชาติ
บลจ.ธนชาติ (National Asset Management) ออก“กองทุนเปิดธนชาติทวีรายได้ 8 (NID 8)” ขนาดกองทุน 5,000 ล้านบาท อายุโครงการ 3 ปี เป็นกองทุนเปิดผสมที่ผู้จัดการกองทุนจะคัดเลือกลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ จ่ายคืนผลตอบแทนโดยวิธีการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากการยกเว้นภาษี
นายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาติ จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการสร้างโอกาสในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทจึงเสนอขายหน่วยลงทุนของ “กองทุนเปิดธนชาติทวีรายได้ 8(NID8)” ในวันที่ 6-24 กันยายน นี้ โดย กองทุนเปิดธนชาติทวีรายได้ 8 มีขนาดกองทุน 5,000 ล้านบาท อายุโครงการ 3 ปี เป็นกองทุนเปิดผสมที่ผู้จัดการกองทุนจะคัดเลือกลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ และจะจ่ายคืนผลตอบแทนโดยวิธีการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากการยกเว้นภาษี
นายกำพล กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯประสบความสำเร็จในการเสนอทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุน จากการเสนอขายหน่วยลงทุนของ กองทุนเปิดธนชาติทวีรายได้ 4 (NID4) และ กองทุนเปิดธนชาติทวีรายได้ 5 (NID5) โดย กองทุนเปิด NID4 จ่ายผลตอบแทนในรูปการซื้อคืนอัตโนมัติ 2 ครั้ง รวมมูลค่า 8 บาทต่อหน่วยลงทุน นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2546 ในขณะที่กองทุนเปิด NID5 รับซื้อคืนอัตโนมัติครั้งที่ 1 คิดเป็นมูลค่า 3 บาท ต่อหน่วยลงทุน นับตั้งแต่จดทะเบียนกองทุนรวมเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2546 ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของทั้งสองกองทุนอยู่ในเกณฑ์ดี แม้ว่าตลาดหลักทรัพย์จะมีความผันผวนก็ตาม โดย ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2547 กองทุนเปิด NID4 มีมูลค่าหน่วยลงทุน 19.1808 บาท เพิ่มขึ้น 91.81% นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน ในขณะที่ดัชนี มาตรฐานอยู่ที่ 27.26% ส่วนกองทุนเปิด NID5 มีมูลค่าหน่วยลงทุน 14.0362 บาท เพิ่มขึ้น 40.36% สูงกว่าดัชนีมาตรฐานที่มีเพียง 9.89%
นายกำพล กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อยู่ในอัตราที่เบาบาง ไม่คึกคักเหมือนไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสอันดีของการลงทุนในตราสารทุนราคาถูก ทั้งนี้ แม้ว่าในระยะสั้นนี้ ตลาดหลักทรัพย์จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบ ไม่ว่าจะเป็น สถานการณ์ไข้หวัดนก การขึ้นราคาของน้ำมัน สถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยทั้งในและต่างประเทศอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ในระยะยาวแล้ว บลจ.ธนชาติ เชื่อมั่นว่า ภาวะการลงทุนของตลาดหลักทรัพย์ไทยมีแนวโน้มดีขึ้น เมื่อพิจารณาจากวงจรธุรกิจในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ