สถานการณ์ราคาน้ำมันประจำสัปดาห์ที่ 8 -12 ต.ค. 55และแนวโน้มในสัปดาห์นี้ ที่ 15 - 19 ต.ค. 55

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 15, 2012 12:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--ปตท. ฝ่ายบริหารความเสี่ยงราคาและวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สรุปรายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกชนิด โดยเบรนท์ (Brent) เฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.89 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 114.20 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เวสท์เท็กซัส (WTI) เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.56 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 91.38 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และดูไบ (Dubai) เพิ่มขึ้น 1.37 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ระดับ 109.86 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล นอกจากนี้ราคาน้ำมันเบนซิน 95 เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.83 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 129.18 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.75 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 129.61 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา ได้แก่ ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก - สถานการณ์ความตึงเครียดจากการเผชิญหน้าระหว่างตุรกี และซีเรียโดยตุรกีเร่งเสริมกำลังทหารและอาวุธหนักทั้งรถถังและเครื่องบินตามแนวพรมแดนที่ติดกับซีเรีย ขณะที่ NATO ประกาศเตรียมความพร้อมป้องกันตุรกีซึ่งเป็นภาคีสมาชิกกรณีที่ถูกซีเรียโจมตี ด้านเลขาธิการสหประชาชาติเห็นว่าการเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่ายเป็นสถานการณ์ที่อ่อนไหวและอันตราย ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลต่อเสถียรภาพของภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งเปราะบางอาจกระทบการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบ - กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ รายงานอัตราการว่างงานในเดือน ก.ย. 55 ลดลงจากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 7.8% และอัตราการจ้างงานในเดือน ก.ย. 55 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 114,000 ราย ต่ำสุดในรอบ 3.5 ปี - ธนาคารกลางสหรัฐฯรายงานสินเชื่อผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.82 หมื่นล้านดอลล่าสหรัฐฯ สูงสูดในรอบสามเดือน - ธนาคารกลางยุโรปเพิ่มเงินเข้ากองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรปเพื่อช่วยเหลือปัญหาหนี้ยุโรป จำนวน 5 แสนล้านยูโร - International Monetary Fund (IMF) ปรับเพิ่มระดับคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบในตะวันออกกลางและแอฟริกา (MENA) ในปี 2555 จาก 4.8% อยู่ที่ 6.6% เนื่องจากรายได้การส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้นและการกลับมาผลิตน้ำมันดิบของลิเบีย ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ - สำนักงานสารสนเทศทางด้านพลังงานของสหรัฐฯ รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบภายในประเทศสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ต.ค. 2555 อยู่ที่ระดับ 6.52 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดในรอบ 16 ปี - ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การอัตราเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจปี 55 ของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันตะวันออกและแปซิฟิกจากเดิม 7.6% อยู่ที่ 7.2% เนื่องจากจีนถูกปรับลดคาดการณ์อัตราเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจาก 9.3% มาอยู่ที่ระดับ 7.7% - ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากทะเลเหนือเดือน พ.ย. 2555 ลดลง 0.2 MMBD จากเดือน ต.ค. อยู่ที่ระดับ 1.95 MMBD เนื่องจากการซ่อมบำรุงแหล่งผลิตในทะเลเหนือล่าช้ากว่าปกติจากสภาพอากาศแปรปรวนยากต่อการลำเลียงอุปกรณ์ซ่อมบำรุง - สำนักตัวแทนพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency: IEA) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันโลกในช่วงปี 2556-2570 ลงจากที่คาดไว้เมื่อ 6 เดือนก่อน 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ระดับ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ที่ 15 - 19 ต.ค. 55 ราคาน้ำมันยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางระหว่างตุรกี และซีเรียมีความตึงเครียด และสงครามกลางเมืองในซีเรียยังคงยืดเยื้อ โดยมีรายงานรัฐบาลซีเรียใช้ระเบิดลูกปราย หรือระเบิดดาวกระจาย (Cluster Bomb) จากรัสเซีย ซึ่งประชาคมโลกส่วนใหญ่ห้ามใช้ตามอนุสัญญาสากล เพื่อยึดคืนพื้นที่ที่ฝ่ายต่อต้านครอบครองตั้งแต่สัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตามหากวิเคราะห์ตามปัจจัยพื้นฐาน อุปสงค์น้ำมันลดลง ขณะที่อุปทานเพิ่มขึ้นโดยสำนักงานสารสนเทศพลังงานของสหรัฐฯ ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในช่วง 5 ปีข้างหน้า ขณะที่ปรับคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันโลกเพิ่มขึ้น 0.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากการขยายกำลังการผลิตในอเมริกาเหนือ ลิเบีย และอิรัก ในระยะสั้นคาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า จะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 112-118 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ WTI จะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 89-95 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ควรติดตามผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปในคืนวันที่ 15 ต.ค. นี้ โดยมีวาระพิจารณาเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน อาทิการห้ามนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากอิหร่าน ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อราคาน้ำมัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ