กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--PR Network
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ร่วมกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จัดตลาดสีเขียว ให้ผู้บริโภคจับจ่ายพืชผักสมุนไพรตามฤดูกลาล เพื่อใช้บริโภคและสร้างเสริมสุขภาพ ในวันที่ 19 ตุลาคม 2555 ณ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ผู้ริเริ่มโครงการตลาดสีเขียวอภัยภูเบศร ได้กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการว่า “ที่ผ่านมาโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรส่งเสริมเรื่องการใช้ยาสมุนไพรมาโดยตลอด เพราะมองเห็นว่าจะทำให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ เช่น การส่งเสริมให้ปลูกขมิ้นชันไว้ที่บ้าน พออายุครบ 1 ปี ก็เก็บมาแปรรูป ทำให้แห้งเก็บไว้ใช้เมื่อมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ หรือเป็นแผลในกระเพาะอาหาร จากการรณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจและใช้ยาสมุนไพรอย่างถูกต้องมาเป็นเวลานานเกือบ 30 ปี สามารถพูดได้เต็มปากว่า เราประสบความสำเร็จ ประชาชนทั่วไปได้รู้จักยาสมุนไพรมากขึ้น แต่ในระยะหลังบริบทของการเจ็บป่วยเปลี่ยนไป คนทุกวันนี้เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังอย่างเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ซึ่งโรคต่างๆ เหล่านี้สัมพันธ์กับการบริโภค ซึ่งไม่นับรวมถึงโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งที่ไม่ได้เกิดจากแค่การรับประทานไม่เหมาะสม แต่ยังรวมถึงการบริโภคพวกยาฆ่าแมลงที่อยู่ในพืชผักไปด้วย
ดังนั้น ทางอภัยภูเบศรจึงคิดว่า การรักษาโรคที่ปลายเหตุหรือแก้ที่การเจ็บป่วยที่เป็นผลลัพธ์สุดท้ายคงไม่ได้อีกต่อไป แต่เราต้องเริ่มต้นแก้กันที่สาเหตุ ซึ่งเป็นที่มาของโครงการตลาดสีเขียวอภัยภูเบศร โดยเราจะออกไปให้ความรู้กับประชาชนในการเลือกบริโภคพืชผักปลอดสารพิษตามฤดูกาล เนื่องจากพืชผักที่ขึ้นตามฤดูกาลนั้น จะไม่มีการใช้สารเคมี เพราะใช้ไปก็ไม่คุ้มค่า เนื่องจากพืชสามารถให้ผลผลิตเองได้ดีอยู่แล้วตามภูมิปัญญาไทยได้กล่าวไว้ว่า พืชผักใดที่ขึ้นที่ไหน ในฤดูกาลใดก็จะใช้แก้ไขหรือป้องกันความเจ็บป่วยในฤดูกาลนั้นๆ ได้ เช่น ดอกโสน เป็นพืชที่หาได้ง่ายในท้องนาและริมคลองในเมืองไทย คนสมัยก่อนจะนำมาทำขนมดอกโสนที่รสชาติอร่อยหอมหวาน แต่ใครจะรู้ว่าขนมดอกโสนเป็นตำรับอาหารปรับธาตุในช่วงปลายฝนต้นหนาวได้ดี จากรสเย็นของดอกโสนจะช่วยระบายความร้อนที่มีมากในฤดูกาลนี้ ในขณะเดียวกันก็ใช้มะพร้าวไปลดความเย็นของดอกโสนที่อาจจะส่งผลต่อร่างกายมากเกินไป หรืออธิบายตามหลักโภชนาการสมัยใหม่ ขนมดอกโสน คือวิธีการที่จะใช้กระทิไปช่วยในการดูดซึมวิตามินเอซึ่งมีมากในดอกโสนในช่วงปลายฝนต้นหนาวนั่นเอง
นอกจากนี้ ยังมีพืชน้ำอีกประเภทหนึ่งที่หาได้ง่าย คือ บัวหลวง ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน อย่างดอกก็นำมาไหว้พระ, ดีบัว มีสารชนิดหนึ่งที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว นำมาใช้รักษาโรคหัวใจได้, เกสรบัว เข้ายาหอมเป็นยาบำรุงหัวใจ ปรับอารมณ์ให้แจ่มใส, เมล็ดใช้รับประทานเป็นอาหารรสชาติดี, เหง้าบัวหลวงใช้ปรุงเป็นอาหารได้ทั้งคาวหวาน, รากบัวขับเสมหะ และยังมีพืชผักสมุนไพรอื่นๆ อีกมากมาย ทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรจึงอยากเชิญชวนผู้บริโภคหันมาบริโภคพืชผักตามฤดูกาล ที่ให้ทั้งคุณค่าทางอาหาร และคุณค่าทางยา แถมปลอดยังสารพิษอีกด้วย”
ผู้สนใจสามารถหาซื้อพืชผักปลอดสารพิษจากเครือข่ายของอภัยภูเบศร โดยมาพบกันได้ที่ตลาดนัดกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทวงสาธารณสุข ในวันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม 2555 นี้ ตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป