กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--LEICA
ความเยี่ยมยอดของ LEICA S2 ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเซ็นเซอร์รับภาพที่ให้ความละเอียดสูงเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจากฟอร์แมต ‘S’ ที่ไม่เหมือนใครด้วยคุณสมบัติมากมาย ทั้งโฟกัสอัตโนมัติ ตัวประมวลผลภาพ Maestro ความเร็วสูง ดีไซน์ที่มีความทนทานสูง และขนาดที่พอเหมาะ ไปจนถึงการใช้งานง่ายสำหรับการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ S2 ประสบความสำเร็จในการรวมทุกอย่างไว้ในหนึ่งเดียวได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณภาพของภาพก็สูงสุดและยังอยู่ในกล้องที่ใช้งานง่ายกว่าใคร นับเป็นครั้งแรกก่อนใครในทุกๆ ลักษณะการใช้งาน ช่างภาพจึงสามารถสนุกไปกับผลลัพธ์ไร้ที่ติที่ได้รับจากกล้องซึ่งจัดการได้ง่ายๆ ตัวนี้อย่างแท้จริง ระบบ S ของไลก้าเป็นระบบกล้องสำหรับมืออาชีพเพียงหนึ่งเดียวที่ล้มเจ้าตำนานอย่างกล้อง ’35 มม.’ หรือ ‘มีเดียม ฟอร์แมต’ ได้อย่างใสสะอาด และได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับใช้ในงานดิจิตอลโดยเฉพาะ นั่นหมายความว่า S2 เร่งก้าวนำไปข้างหน้าด้วยฟอร์แมตที่เป็นของตัวเองซึ่งเน้นการใช้งานง่ายและคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมตามแบบฉบับของกล้องไลก้า S Format กล้องรูปแบบนี้ถือเป็นผู้นำในด้านคุณภาพของส่วนประกอบทุกชิ้นและความง่ายดายในการใช้ และเปิดขอบเขตในการสร้างสรรค์ให้บรรดาช่างภาพได้ตามต้องการ ข้อดีที่ชัดเจนของ LEICA S2 ก็คือผลลัพธ์จากคุณสมบัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความยืดหยุ่น ความทนทาน และการใช้งานง่ายซึ่งมาพร้อมกับความละเอียดของภาพที่อยู่นำหน้าใครๆ ในแวดวงเดียวกันตลอดจนคุณภาพของภาพ S2 เอาชนะกล้องระบบอื่นในกลุ่มมีเดียม ฟอร์แมตได้หมด และสร้างมาตรฐานใหม่ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การออกแบบเซ็นเซอร์รับภาพที่ไม่เหมือนใครเพื่อคุณภาพที่ยากจะหาใครเหมือน
โกดักพัฒนาตัวรับภาพของ S2 ขึ้นสำหรับระบบ S เป็นพิเศษ ด้วยความละเอียดถึง 37.5 ล้านพิกเซล ภาพที่ได้จึงเหมาะกับงานทุกประเภท เซ็นเซอร์รับภาพ CCD มีขนาด 30x45 มม. ที่ให้สัดส่วนจอภาพที่ 3:2 และพื้นที่ที่ใหญ่กว่าฟิล์มโบราณขนาด 35 มม. เกือบ 60% โดยคุณภาพของภาพที่ได้ก็น่าทึ่งมากด้วย ส่วนในความพยายามรักษาความคมชัดของภาพไว้ให้ได้นั้น เราเอาฟิลเตอร์แบบกรองผ่านความถี่ต่ำ (Low-Pass Filter) ในกล้องออก แล้วใช้กระบวนการส่งสัญญาณจากภายในกล้องตรวจหา Moir? effects และกำจัดมันออกไปด้วยเลนส์ความละเอียดสูงของระบบนี้แทน ลวดลายเลนส์ชิ้นเล็กๆ สุดพิเศษจะช่วยจับลำแสงที่ทำมุมบนเส้นรอบนอกของภาพได้ครบถ้วนสำหรับการใช้งานในแสงตามสภาพที่เหมาะที่สุด ด้วยความไวแสงถึง ISO 1250 ช่างภาพจึงสามารถถ่ายภาพที่มีจุดสีรบกวนต่ำ (Low-Noise) ในสภาวะแสงน้อยได้
ดีไซน์กะทัดรัดกับความรู้สึกที่คุ้นเคย
LEICA S2 มีหน้าตาและความรู้สึกเหมือนกล้องฟิล์ม SLR 35 มม. รุ่นโบราณ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นกล้องที่บรรดาช่างภาพมืออาชีพนิยม การรวมส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์กับวิธีการออกแบบที่ทันสมัยที่สุดเข้าด้วยกันทำให้ S2 มีขนาดค่อนข้างเล็กกว่ากล้องฟอร์แมตกลางตัวอื่นๆ แม้จะออกแบบให้ปุ่มควบคุมต่างๆ มีน้อยที่สุดแต่ก็ไม่ได้เป็นการจำกัดความสามารถและทางเลือกที่มีมากมายของกล้องให้น้อยลงเลย หลังจากได้ทำงานกับกล้องตัวนี้เพียงไม่นาน ช่างภาพก็จะสามารถใช้ S2 ได้อย่างอัตโนมัติ ผลลัพธ์ที่ได้คือกล้องที่มีความสมดุลดีเยี่ยมพร้อมน้ำหนักที่น่าพอใจ ช่างภาพจึงทำงานได้อย่างลื่นไหลและทันอกทันใจ และเพราะขนาดและน้ำหนักน้อยกว่ากล้องขนาดกลางอื่นๆ ที่มี CCD ความละเอียดสูงและทำงานด้วยความเร็วสูงอย่างมาก LEICA S2 จึงไม่เพียงเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับสตูดิโอ แต่ยังเหมาะนำไปใช้งานด้านนอกและใช้จับภาพโดยไม่ต้องมีขาตั้งกล้องได้
ผลลัพธ์ที่เร็วขึ้นพร้อมระบบความเร็วสูง
Maestro ชิพประมวลผลภาพความเร็วสูงกับตัวประมวลผลในการควบคุมกล้องที่เพิ่มขึ้นมาอีกตัวของ S2 ช่วยเพิ่มกำลังให้การประมวลได้อย่างยอดเยี่ยม การประมวลผลสัญญาณที่รวดเร็วอันเนื่องมาจากชิพ Maestro ทำให้เราได้ภาพ 1.5 ภาพที่ความละเอียดสูงสุดมาภายใน 1 วินาที ตัวประมวลผลคู่ทรงพลังอย่าง Maestro ทำให้เราสามารถนำไฟล์ JPEG คุณภาพสูงไปสร้างในกล้องได้ นี่เป็นกล้องมีเดียม ฟอร์แมตเพียงตัวเดียวที่มีคุณลักษณะเช่นนี้ LEICA S2 มีช่องสำหรับใส่ทั้งคอมแพคเฟลชและ SD พร้อมทางเลือกในการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบของ RAW format Adobe DNG ลงบนคอมแพคแฟลช และ JPEG ลงบน SD การ์ด ได้ทันที การทำเช่นนี้ทำให้ช่างภาพสามารถตรวจสอบภาพ ขณะที่กำลังถ่ายไปพร้อมกับประมวลผลการปรับภาพหลังการถ่ายได้อย่างรวดเร็ว การใช้ไฟล์รูปแบบ Adobe DNG เพื่อเป็นข้อมูลของภาพดิบช่วยมอบความยืดหยุ่นสูงสุดให้กับช่างภาพเพราะรูปแบบของข้อมูล open-source เช่นนี้สามารถนำไปใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์หลักสำหรับการตกแต่งและทำงานขั้นตอนอื่นๆ กับภาพได้ทุกซอฟต์แวร์ ไลก้าก็มีซอฟต์แวร์สากลอย่าง Adobe Lightroom ให้พร้อมมาในกล้องด้วย ส่วน Image Shuttle ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ของไลก้าเองจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานต่างๆ ของ S2 จากคอมพิวเตอร์ที่อยู่ระยะไกลได้ ไฟล์ภาพจะถูกบันทึกลงบนฮาร์ดไดรฟ์โดยตรงเพื่อให้ประมวลผลได้ทันที ส่วนการเชื่อมต่อ HDMI จะช่วยนำภาพขึ้นมาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ หรือโปรเจ็กเตอร์เพื่อให้ผู้ใช้ตรวจสอบภาพได้โดยตรง
เลนส์ดีที่ต้องบอกต่อ
ความสำคัญลำดับแรกสุดระหว่างการพัฒนาเลนส์ของ LEICA S คือที่สุดแห่งคุณภาพของภาพ การออกแบบที่ซับซ้อนแสดงถึงการนำกระจกและชิ้นเลนส์ทรงกลมเกรดพิเศษแก้ความคลาดเคลื่อนแบบต่างๆ มาใช้ซึ่งพบได้น้อยในเครื่องเลนส์ของกล้องขนาดเท่านี้ ยิ่งไปกว่านั้นบรรดาเลนส์ที่ผลิตขึ้นอย่างบอบบางมากด้วยการใช้มือหาจุดกึ่งกลางให้เลนส์แต่ละชิ้นย่อมรับประกันความสุดยอดของสมรรถภาพของเลนส์ได้อย่างแน่นอน เลนส์แต่ละชิ้นสามารถทำงานได้เต็มสมรรถนะแม้การตั้งค่ารูรับแสงสูงสุด หรือเมื่อถ่ายภาพจากระยะไกล หรือโคลสอัพ การถ่ายภาพแบบ Vignette (ความสว่างค่อยๆ ลดจางลงบริเวณขอบภาพ) ความบิดเบี้ยวและความพร่าของสีถูกลดัระดับลงจนถึงจุดที่ไม่อาจมองเห็นได้อีกต่อไป ซึ่งช่วยกำจัดความต้องการการแก้ไขภาพด้วยวิธีการลดคุณภาพของภาพไปแล้วจากนั้นก็ค่อยทำกระบวนการประมวลผลภาพดิจิตอลหลังการถ่ายให้ง่ายขึ้น เม้าท์แบบเขี้ยว (S-bayonet mount) ที่เพิ่งพัฒนาขึ้นมาใหม่ช่วยเสริมความมั่นใจในการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิตอลระหว่างตัวกล้องและเลนส์ที่รวดเร็วและแม่นยำ เลนส์ในซีรีส์ S ทั้ง 4 ตัว ที่จะเปิดตัวมีความยาวโฟกัสที่สำคัญๆ ดังนี้ เริ่มจาก เลนส์ LEICA SUMMARIT-S 70 mm f/2.5 ASPH. และ LEICA APO-TELE-ELMAR-S 180 mm f/3.5 เทเลโฟโต้แบบคลาสสิก ส่วนเลนส์ LEICA APO-MACRO-SUMMARIT-S 120 mm f/2.5 ที่ช่วยแก้ปัญหาในการโค๊ดอัพและภาพพอร์เทรต
สองระบบชัตเตอร์
LEICA S2 ช่วยให้ช่างภาพสามารถเลือกระบบชัตเตอร์ได้ตรงกับสถานการณ์เฉพาะหน้า กล้อง S2 มาพร้อมชัตเตอร์ระนาบโฟกัส (Focal Plane Shutter) ที่ทำด้วยโลหะซึ่งมีความเร็วสูงสุดที่ 1/4000 ของ 1 วินาที และเชื่อมต่อแฟลชที่ 1/125 ของ 1 วินาที ทั้งนี้เลนส์ที่มีความยาวโฟกัสสำคัญๆ พร้อมชัตเตอร์แบบกลีบ (leaf shutters) ซึ่งออกแบบโดยทีมวิศวกรของไลก้าและสั่งการได้ผ่านสวิตช์หลักของกล้องจะมีมาให้เลือกใช้ในอนาคตด้วย ชัตเตอร์แบบกลีบ (leaf shutters) ที่อยู่ภายในจะช่วยให้แฟลชทำงานได้ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 1/500 ของ 1วินาที ช่างภาพจึงมีทางเลือกในการปิดกั้นแสงสภาวะภายนอกที่ไม่ต้องการได้มากขึ้นกว่าเดิม ขณะนี้ไลก้ากำลังรอผลการขอจดสิทธิบัตรของชัตเตอร์แบบกลีบซึ่งควบคุมการทำงานด้วยอิเล็กทรอนิกส์ไดรฟ์ ที่สามารถการันตีระยะเวลาเปิดรูรับแสงที่ไว้ใจได้และรวดเร็วรวมทั้งกินพลังงานน้อยอยู่หลายรายการ
โฟกัสอัตโนมัติที่แม่นยำและมีความเร็วสูง
โฟกัสอัตโนมัติที่ไลก้าพัฒนาขึ้นมาสำหรับ S2 ทำงานด้วยเซ็นเซอร์แบบกากบาท (Cross-Hair) ที่วางอยู่ในตำแหน่งตรงกลางเพื่อให้การจับโฟกัสมีความแม่นยำสูง ในเลนส์ S แต่ละตัวจะมีตัวประมวลผลขนาดจิ๋วที่ไลก้าออกแบบขึ้นเองอยู่ภายในเพื่อช่วยควบคุมให้โฟกัสอัตโนมัติและม่านปรับแสงมีความแม่นยำ โฟกัสไดรฟ์ที่ถูกนำเข้ามาใส่ไว้เป็นงานออกแบบที่เป็นกรรมสิทธิ์ของไลก้าซึ่งทำให้ระบบเฟืองทำงานได้อย่างเงียบสนิท เลนส์ S ทั้งหมดจะมีวงแหวนปรับโฟกัสขนาดใหญ่ ซึ่งด้วยแรงหมุนเล็กน้อย ช่างภาพก็สามารถยกเลิกระบบโฟกัสอัตโนมัติได้ทุกเวลา
การออกแบบที่ทนทาน อายุการใช้งานยาว
ตัวกล้องรุ่นนี้หล่อขึ้นด้วยแมกนีเซียมซึ่งมีความทนทานพร้อมตกแต่งด้วยหนังวัวแท้อีกชั้นเพื่อให้จับถนัดมือที่สุด กล้อง S2 และเลนส์ S ทุกตัวยังทนต่อสภาพอากาศต่างๆ ได้ดี และทนฝนและฝุ่นได้ พอร์ตใส่สาย USB และรีโมทคอนโทรมีเขี้ยวล็อกที่แข็งแรงและมาพร้อมกับตัวป้องกันการคลายเกลียวของสาย คุณยังสามารถเลือกปกป้องจอมองภาพ S2 ในรุ่น LEICA S2-P ด้วยการครอบกระจกแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนสูงในกรณีที่ต้องการใช้งานสมบุกสมบันและในสภาพที่จำเป็นที่สุด หรือในกรณีของการให้ เช่ากล้อง
การขายที่ได้รับอนุญาตและเครือข่ายการให้บริการ
LEICA S2 มีจำหน่ายผ่านตัวแทนที่ได้รับอนุญาตซึ่งสามารถให้คำแนะนำและช่วยเหลืออย่างเชี่ยวชาญเท่านั้น เครือข่ายของตัวแทนจำหน่ายนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจการให้บริการเพิ่มเติมสำหรับระบบ S ระบบ S มีทีมดูแลลูกค้าแยกต่างหากพร้อมสายด่วนในการช่วยเหลือซึ่งสามารถให้บริการได้ทันท่วงทีในกรณีที่เจ้าของระบบ S ประสบปัญหาหรือคำถามใดๆ ก็ตาม ช่างภาพมืออาชีพผู้ต้องการระบบกล้องที่มีความน่าเชื่อถือสูงสุดสามารถเลือกอัพเกรดแพ็กเกจการให้บริการเพื่อขยายความคุ้มครองของประกันมาตรฐานซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อย เพิ่มเติมได้ในหลากหลายแพ็กเกจ ส่วนแพ็กเกจการให้บริการแพลตินัมจะรวมถึงการดูแลรักษากล้องให้กับผู้ยืมอุปกรณ์ตลอดระยะเวลาในการใช้งานโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วย ทั้งนี้ โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากตารางการรับประกันตามแนบ
สำหรับข้อมูล รายละเอียด ตลอดจนข้อกำหนดและเงื่อนไขเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับแพ็กเกจการให้บริการในแต่ละแพ็กเกจของเรา รวมถึงรายชื่อของตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตและองค์กรไลก้าของนานาประเทศ สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.s.leica-camera.com.
ข้อมูลด้านเทคนิค LEICA S2 / LEICA S2-P
ชนิดของกล้อง: DSLR ที่ใช้กับเลนส์ S ของไลก้า
ตัวรับภาพ: เซ็นเซอร์รับภาพ CCD ของโกดักขนาด 30x45 มม. ที่มีจุดสีรบกวนต่ำ ความละเอียด: 37.5 เมกะพิกเซล (7,500 x 5,000).
ขนาด: 45 x 30 มม. ช่องว่างระหว่างพิกเซล: 6 ?m สัดส่วนจอภาพ: 3:2
ช่วงไดนามิก: 12 สตอป, ความลึกของสี: 16 บิตต่อพิกเซล, ฟิลเตอร์กรองความถี่ต่ำผ่าน: ไม่มี (ตรวจจับและกำจัด ‘ตาเสื่อ’ โดยใช้การส่งสัญญาณดิจิตอลในการประมวลผล)
ความไวแสง: ISO 80 ถึง 1250 (ควบคุมด้วยตนเองหรืออัตโนมัติ)
การเก็บข้อมูล (รูปแบบ): DNG (ประมาณ 75 MB ต่อภาพ), JPEG (พื้นฐาน หรือละเอียด)
เมมโมรีการ์ด: คอมแพคแฟลช (ได้ถึง 64 GB), การ์ด SD (ความจุสูง)
อัตราการถ่ายภาพสูงสุด: 1.5 ภาพ/วินาที, หน่วยความจำชั่วคราว: 1 GB (อย่างน้อยรอบละ 8 ภาพในรูปแบบไฟล์ DNG)
จอภาพ: TFT 3 นิ้ว 460,000 พิกเซล 16 ล้านสี กระจกครอบ: กระจกแซฟไฟร์ที่ทนต่อรอยถลอกและขีดข่วนสูง (สำหรับ LEICA S2-P เท่านั้น)
การเชื่อมต่อ: USB 2.0 ความเร็วสูง (การเชื่อมต่อที่แข็งแรงพร้อมตัวป้องกันการคลายเกลียวของสาย มีสายเคเบิลให้ด้วย), HDMI, ปุ่มควบคุมระยะไกล, X sync, SCA3002
การวัดแสง: วัดแสงหลายพื้นที่ (5 พื้นที่), ระบบวัดแสงให้น้ำหนักตรงกลาง, เลือกจุดวัดแสง (3.5%)
การควบคุมการเปิดรับแสง: โปรแกรมอัตโนมัติ (พร้อมฟังก์ชั่นเปลี่ยนโปรแกรมในทันที), ให้ความสำคัญกับชัตเตอร์อัตโนมัติก่อน, ให้ความสำคัญกับรูรับแสงอัตโนมัติก่อน, ตั้งค่าเอง
ชัตเตอร์: ชัตเตอร์ระนาบโฟกัสที่ทำด้วยโลหะในตัวกล้อง: 1/4000 ของ 1 วินาที — 32 วินาที (B ถึง 120 วินาที) เชื่อมต่อแฟลช: 1/125 ของ 1 วินาที ออฟชั่นชัตเตอร์แบบกลีบที่อยู่ในเลนส์ที่มีให้: 1/500 ของ 1วินาที — 32 วินาที เชื่อมต่อแฟลช: ได้ทุกความเร็ว
การทำงานของแฟลช: วิธีการวัดค่า: TTL (หลายพื้นที่, ให้น้ำหนักตรงกลาง, เลือกจุด), เชื่อมต่อ TTL-HSS ที่รวดเร็วถึง 1/4000 ของ 1 วินาทีด้วยชัตเตอร์ระนาบโฟกัส,
ความสามารถในการรองรับ: รองรับ LEICA SF 58 ได้ดี และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เชื่อมต่อผ่าน SCA3002 adapter
โฟกัสอัตโนมัติ: เซ็นเซอร์แบบกากบาทที่อยู่ตรงกลาง, ไดรฟ์จับโฟกัสที่เลนส์
ระบบโฟกัส: AF Continuous, AF Single, MF, MF Override
ช่องมองภาพ: ใส่กระจกปริซึมขนาดใหญ่และมีจุดมองภาพห่างจากเลนส์ตา
กำลังขยาย: 0.86x, พื้นที่ช่องมองภาพ: 96%, การปรับแก้สายตา -3 ถึง +1,
จอจับโฟกัส: ผิวด้านพร้อมกากบาท (สลับได้)
พลังงานสำรอง: ถ่านลิ-ไออน (7.4 โวลต์, 2150 mAh)
ตัวกล้อง: แมกนีเซียมหล่อ, ขนาด (ไม่รวมเลนส์): 160 x 120 x 80 มม., น้ำหนัก: 1410 กรัม (รวมถ่าน), ทนทานต่อฝุ่นและหยดน้ำ/น้ำกระเด็น
สิ่งที่ให้มาด้วย ซอฟต์แวร์: Adobe Lightroom, Leica Image Shuttle, ถ่าน 1 ก้อน, แท่นชาร์จถ่าน, สาย USB
ข้อมูลด้านเทคนิค LEICA SUMMARIT-S 35 mm f/2.5 ASPH. (ชัตเตอร์ที่เลนส์-CS)
เลนส์/กลุ่ม: 11/9 (เลนส์แอสเฟอริคัล 2 ชิ้น)
การออกแบบเลนส์: โฟกัสด้วยกลุ่มเลนส์ด้านหลัง
มุมภาพ (แนวทแยง,
นอน, ตั้ง): ประมาณ 75?, 65?, 46?, เทียบได้ประมาณ 28 มม.ของกล้อง 35 มม.
ค่ารูรับแสง: 2.5 ถึง 22
ระยะทางที่ใกล้ที่สุด: 0.55 เมตร
อัตราส่วนของภาพที่ใหญ่ที่สุด: 1:11
ขนาดของฟิลเตอร์: 82 มม.
ขนาดของเลนส์
(เส้นผ่านศูนย์กลาง/ความยาว): 88 มม./122 มม.
น้ำหนัก: 930 กรัม (CS: 1080 กรัม)
ข้อมูลด้านเทคนิค LEICA SUMMARIT-S 70 mm f/2.5 ASPH. (CS)
เลนส์/กลุ่ม: 8/6 + 1 ตัวป้องกันฟิลเตอร์ (เลนส์แอสเฟอริคัล 1 ชิ้น)
การออกแบบเลนส์: โฟกัสด้วยเลนส์ลอยตัว (Floating Element Focusing)*
มุมภาพ (แนวทแยง,
นอน, ตั้ง): ประมาณ 42?, 35.5?, 24?, เทียบได้ประมาณ 56 มม.ของกล้อง 35 มม.
ค่ารูรับแสง: 2.5 ถึง 22
ระยะทางที่ใกล้ที่สุด: 0.5 m
อัตราส่วนของภาพที่ใหญ่ที่สุด: 1:4.7
ขนาดของฟิลเตอร์: 82 mm
ขนาดของเลนส์
(เส้นผ่านศูนย์กลาง/ความยาว): 90 mm/93 mm
น้ำหนัก: 740 กรัม (CS: 890 กรัม)
*ขณะที่จับโฟกัส ชิ้นเลนส์ที่เกี่ยวกัน 2 ชิ้นจะเปลี่ยนตำแหน่งเมื่อเทียบกับระบบเลนส์อื่นๆ ที่มีมา
ข้อมูลด้านเทคนิค LEICA APO-MACRO-SUMMARIT-S 120 mm f/2.5 (CS)
เลนส์/กลุ่ม: 9/7
การออกแบบเลนส์: โฟกัสด้วยเลนส์ลอยตัว*
มุมภาพ (แนวทแยง,
นอน, ตั้ง): ประมาณ 25?, 21?, 14?, เทียบได้ประมาณ 96 มม.ของกล้อง 35 มม.
ค่ารูรับแสง: 2.5 ถึง 22
ระยะทางที่ใกล้ที่สุด: 0.57 เมตร
อัตราส่วนของภาพที่ใหญ่ที่สุด: 1:2
ขนาดของฟิลเตอร์: 72 มม.
ขนาดของเลนส์
(เส้นผ่านศูนย์กลาง/ความยาว): 91 มม./128 มม.
น้ำหนัก: 1135 กรัม (CS: 1285 กรัม)
*ขณะที่จับโฟกัส ชิ้นเลนส์ที่เกี่ยวกัน 2 ชิ้นจะเปลี่ยนตำแหน่งเมื่อเทียบกับระบบเลนส์อื่นๆ ที่มีมา
ช่องทางใหม่ออนไลน์สำหรับผู้ใช้ Leica S
ด้วยความร่วมมือกับไลก้า คาเมร่า เอจี เมืองโซลมส์ บริษัทแอลเอฟไอ โฟโตกราฟี จีเอ็มบีเอช ขอแนะนำช่องทางใหม่ออนไลน์สำหรับ Leica S-System
บนหน้าเว็บ www.S-League.net บรรดาช่างภาพจะพบพื้นที่ในอุดมคติสำหรับนำเสนอผลงานภาพถ่ายของตัวเองที่ถ่ายด้วยอุปกรณ์ระบบ Leica S สู่สายตาผู้ชมที่กว้างไกลระดับนานาชาติ เว็บไวต์ดังกล่าวจะมีภาพประกอบให้เห็นการใช้งานที่หลากหลายด้วยเจ้า Leica S-System นอกจากงานภาพแคมเปญโฆษณา หรือแฟ้มภาพเล่าเรื่องจากช่างภาพชื่อดังระดับโลกแล้ว ผู้เข้าชมเว็บไซต์ยังสามารถเกาะติดเทรนด์การถ่ายภาพเชิงพาณิชย์ได้อีกด้วย เข้าไปดูวิธีการส่งงานเข้า www.S-League.net ได้ในส่วนของ ‘Apply & Take Part’ โดยช่างภาพผู้ใช้ Leica S สามารถส่งแคมเปญหรือเรื่องราวล่าสุดเข้าไปได้ที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้น ในส่วนที่สมัครนี้ยังเปิดโอกาสให้ช่างภาพขอยืมอุปกรณ์ Leica S ได้ฟรีอีกด้วย