เอ็มพีซี มิวสิค (MPC Music) เบอร์หนึ่งด้านธุรกิจลิขสิทธิ์เพลงของเมืองไทย ประกาศความพร้อมรุกตลาดเต็มสูบ หลังศิลปินนักแต่งเพลงยกนิ้วเรื่อง “โปร่งใส เป็นธรรม ได้มาตรฐาน”

ข่าวบันเทิง Thursday October 25, 2012 09:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น เอ็มพีซี มิวสิค (MPC Music) เบอร์หนึ่งด้านธุรกิจลิขสิทธิ์เพลงของเมืองไทยประกาศความพร้อมรุกตลาดเต็มสูบ หลังศิลปินนักแต่งเพลงยกนิ้วเรื่อง“โปร่งใส เป็นธรรม ได้มาตรฐาน” คาดปี 55 มีอัตราเติบโตรวมกว่า 15%มั่นใจคว้ายอดขาย 100 ล้านในปี 56 เอ็มพีซี มิวสิค (MPC Music) ประกาศแผนธุรกิจในเมืองไทย เชื่อมั่นธุรกิจลิขสิทธิ์ยังสามารถขยายตัวไปแบบก้าวกระโดด ระดมทีมสร้างความเข้าใจด้านกฎหมายลิขสิทธิ์แก่องค์กรธุรกิจที่เกี่ยวข้องในฐานะ “ที่ปรึกษาด้านลิขสิทธิ์เพลงมืออาชีพ” เพื่อเติบโตควบคู่ไปกับลูกค้าและค่ายเพลงรวมกว่า 1,000 ค่าย นักแต่งเพลงสมาชิกที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 1,000,000 คนทั่วโลก และบริหารสิทธิเพลงรวม 10,000,000 เพลง บริหารการจัดเก็บลิขสิทธิ์ภายใต้มาตรฐานสากล เดินหน้าวางกลยุทธ์ “Music Mall Service” บริการจัดส่งเพลงแบบเทเล่อร์เมดให้เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า พร้อมดึงระบบ Mis@Asia ระบบจัดสรรเงินลิขสิทธิ์มาตรฐานโลก และโปรแกรม BMAT จากสเปน ร่วมตรวจสอบการใช้เพลงและเสนอรายงานได้ละเอียดสูงสุดถึง 99% มั่นใจโตต่อเนื่องเฉลี่ย 15% ต่อปี นายนัดดา บุรณศิริ กรรมการบริหาร บริษัท เอ็มพีซี มิวสิค จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปีในการดำเนินธุรกิจด้านลิขสิทธิ์เพลงในเมืองไทย MPC Music มีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยที่ 15% ต่อปี และพร้อมจะก้าวเข้าสู่องค์กรที่มีค่าลิขสิทธิ์สูงถึง 100 ล้านบาทภายในปีหน้า ปัจจุบัน เมื่อดูรายได้ค่าลิขสิทธิ์เทียบต่อประชากร 1 คน จะพบว่า รายได้ค่าลิขสิทธิ์ต่อหน่วยประชากรของไทย ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นทั่วโลก คือ น้อยกว่ามาเลเซีย 5 เท่า น้อยกว่าสิงคโปร์ 25 เท่าน้อยกว่าฮ่องกง 28 เท่า และน้อยกว่าแคนาดาถึง 300 เท่า อย่างไรก็ดี ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา MPC Music มีสมาชิกเป็นค่ายเพลง Major คือค่ายเพลงสากลขนาดใหญ่ทั่วโลก คือ EMI, Sony, Universal และ Warner ซึ่งมอบสิทธิเพลงกว่าสิบล้านเพลงให้ MPC Music ดูแลในประเทศไทย ขณะเดียวกัน ก็มีค่ายเพลงไทยชั้นนำร่วมเป็นสมาชิกจำนวนมาก อาทิ KPN Music, Butterfly Records, Wave Entertainment [ผู้ดูแลสิทธิ ETC], Panther Entertainment [เพลง AF] และมูลนิธิหลวงประดิษฐ์ไพเราะ เป็นต้น โดยปัจจุบัน MPC Music ถือเป็นบริษัทลิขสิทธิ์ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย มีจำนวนค่ายเพลง ที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกรวมกว่า 1,000 ราย มีศิลปินนักแต่งเพลงร่วมเป็นสมาชิกกว่า 1,000,000 คน และดูแลลิขสิทธิ์เพลงรวมกว่า 10,000,000 ล้านเพลงจากทั่วทุกมุมโลก ด้านนายรณพงศ์ คำนวณทิพย์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ็มพีซี มิวสิค จำกัด กล่าวถึงแผนธุรกิจในอนาคตเพื่อสานต่อความเป็นผู้นำธุรกิจว่า MPC Music จะดำเนินธุรกิจที่เติบโตเคียงคู่ไปกับลูกค้าค่ายเพลงและศิลปินนักแต่งเพลงในฐานะ “ที่ปรึกษาด้านลิขสิทธิ์เพลงมืออาชีพ” ปัจจุบัน MPC Music มีผู้เชี่ยวชาญด้านลิขสิทธิ์เพลงที่ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและในระดับสากลร่วมนำเสนอแนวทางแก่องค์กรผู้สนใจที่จะใช้เสน่ห์ของบทเพลงเป็นแรงผลักดันการเติบโตทางธุรกิจ เราพยายามสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและสร้างให้ทราบถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ลิขสิทธิ์” และเมื่อเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง “กลไกการบริหารสิทธิ” จึงจะดำเนินไปได้อย่างมีศักยภาพ ปัจจัยเหล่านี้ คือสิ่งที่ปัจจุบันตลาดเพลงเมืองไทยจึงได้เชื่อมั่นการบริหารงานของเราว่ามีมาตรฐานสากล ทั้งนี้ จากศักยภาพความพร้อม MPC Music จึงได้วางเป้าหมายและแนวทางดำเนินงานโดยมุ่งเน้นในการให้บริการลูกค้าในเรื่อง Music Mall Service คือการให้บริการจัดส่งเพลงที่เหมาะสมกับธุรกิจของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น Jazz,POP,Chill,Dance หรือเพลงในสไตล์อื่นๆ ที่เราดูแลลิขสิทธิ์รวมกว่า 90% ของตลาดเพลงระดับประเทศและระดับโลกในปัจจุบัน เพื่อเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สูงสุด นอกจากนี้ MPC Music ยังได้นำระบบการจัดสรรที่มีมาตรฐาน คือ Mis@Asia ซึ่งเป็นระบบการจัดสรรเงินคืนเจ้าของสิทธิจากการใช้งานเพลงตามสัดส่วนจริง และยังมี Program BMAT จากประเทศสเปน ที่สามารถตรวจสอบการใช้เพลง และรวมถึงการจัดทำ Report ได้ละเอียดถึง 99% ซึ่งจะช่วยให้ภาพรวมการดำเนินงานมีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น “MPC Music ถือเป็นบริษัทบริหารลิขสิทธิ์เพลงที่ โปร่งใส เป็นธรรม และมีมาตรฐานในระดับสากล” นายชรัส เฟื่องอารมย์ ศิลปินนักแต่งเพลงผู้มีชื่อเสียงของเมืองไทยกล่าว “ในต่างประเทศ นักแต่งเพลงผู้มีชื่อเสียงทั่วโลกส่วนใหญ่มักจะมีองค์กรในประเทศนั้นๆ คอยดูแลด้านลิขสิทธิ์ให้เพราะองค์กรจะมีความเชี่ยวชาญในการบริหารสิทธิด้วยมาตรฐานสากลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้านการเจรจากับคู่ค้า ภาครัฐ และองค์กรระหว่างประเทศด้วยกัน จึงทำให้นักแต่งเพลงสามารถใช้เวลาในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการบริหารลิขสิทธิ์ตนเอง นอกเหนือจากการบริหารสิทธิ ในประเทศแล้ว องค์กรยังมีการติดต่อและจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์จากบริษัทด้านเพลงยักษ์ใหญ่หลายบริษัทที่จะเข้ามาทำการตลาด อาทิเช่น iTunes ที่ทราบกันดีว่าเพิ่งเปิดตัวในประเทศแถบอาเซียน ซึ่งจะเป็นช่องทางในการส่งเสริมผลงานเพลงของศิลปินและนักแต่งมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนด้านการประชาสัมพันธ์เท่าสมัยก่อนก็สามารถขยายฐานแฟนเพลงในลักษณะ Mass Market และ Niche Market สู่ตลาดสากลได้ นอกจากนี้เมื่อเพลงนำไปถูกใช้งานในประเทศต่างๆ ทั่วโลก องค์กรก็สามารถจะติดต่อเพื่อจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์จากประเทศนั้นๆ คืนสู่นักแต่งเพลงได้เลย โดยผ่านสัญญาต่างตอบแทนที่ครอบคลุมองค์กรลิขสิทธิ์ต่างๆ กว่า 70 ประเทศทั่วโลกด้วย สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์: บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด 02-951-9119

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ