กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. รับรางวัล “FutureGov Awards 2012” สาขา Green Government จากโครงการ The Smart SEC Office
ซึ่งมีโครงการเข้าร่วมประกวด 522 โครงการ จาก 17 ประเทศ เนื่องจากประสบความสำเร็จในการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการทำงานโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ ในงาน “FutureGov Summit 2012” จัดโดยนิตยสาร FutureGov Asia Pacific เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2555
นิตยสาร FutureGov Asia Pacific จัดการประกวดด้านเทคโนโลยีสารเทศและการสื่อสารเป็นปีที่ 6 เพื่อเชิดชูองค์กร หน่วยงาน และรัฐบาลในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกที่มีความโดดเด่นด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยมีรางวัล 16 สาขา สำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ได้แก่ (1) Government Organisation of the Year (2) Education Organisation of the Year (3) Technology Leadership (4) Wireless Government (5) Connected Government (6) E-Government (7) Cloud Computing (8) Digital Inclusion (9) Data Centres (10) Information Security (11) Service Innovation (12) Information Management(13) Green Government (14) Business Process (15) Government Transformation of the Year Awardและ (16) Public Sector Organisation of the Year -Asean
ในครั้งนี้โครงการ “The Smart SEC Office” ของ ก.ล.ต. ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 5 โครงการที่เข้าชิงรางวัลใน 2 สาขา ได้แก่ (1) Information Security และ (2) Green Government และเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่โครงการของ ก.ล.ต. ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลชนะเลิศในสาขา Green Government ระดับเอเชียและแปซิฟิกซึ่งนำความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศไทยและตลาดทุนไทย
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า "ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนากระบวนการทำงานในการกำกับและพัฒนาตลาดทุนให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดจึงได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารงาน ก.ล.ต. อย่างบูรณาการทั้งระบบ ตั้งแต่การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการงานเอกสารแบบครบวงจรทั้งเอกสารที่ได้รับจากภายนอกและภายในองค์กรโดยเริ่มจากการรับส่งแบบรายงานออนไลน์ การลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ และกระบวนการสแกนที่สามารถใช้แทนต้นฉบับได้ นอกจากนี้ ได้ปรับปรุงกระบวนการทำงานภายใน ก.ล.ต. ให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถจัดเก็บข้อมูล ประมวลผล ตรวจสอบสถานะการทำงาน และเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งระบบงานดังกล่าวช่วยลดปริมาณการใช้กระดาษและขั้นตอนการทำงานของทั้ง ก.ล.ต. และหน่วยงานที่ต้องติดต่อกับ ก.ล.ต.ทำให้ผู้ใช้บริการมีความสะดวกรวดเร็วในการได้รับบริการข้อมูล อีกทั้งยังเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”