กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--ปตท.
ฝ่ายบริหารความเสี่ยงราคาและวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สรุปรายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ราคาน้ำมันทุกชนิดปรับตัวลดลง โดยน้ำมันดิบหลักเบรนท์ (Brent) เฉลี่ยปรับตัวลดลง 4.40 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 108.72 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล น้ำมันดิบเวสท์เท็กซัส (WTI) เฉลี่ยปรับตัวลดลง 5.04 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลอยู่ที่ 86.61 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เฉลี่ยปรับตัวลดลง 3.40 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ระดับ 107.37 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยปรับตัวลดลง 8.16 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 117.66 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลเฉลี่ยปรับตัวลดลง 4.80 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 124.50 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา ได้แก่
ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ
- Maria Van der Hoeven ผู้อำนวยการทบวงพลังงานระหว่างประเทศ หรือ International Energy Agency (IEA) ในฐานะตัวแทนประเทศผู้บริโภคน้ำมัน 28 ประเทศ แถลงอุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลกเพียงพอต่อความต้องการใช้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีแผนปล่อยปริมาณสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ออกมาหากไม่เกิดปัญหาอุปทานตึงตัวอย่างรุนแรง
- บริษัท TranCanada สามารถลับมาดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone ลำเลียงน้ำมันดิบจากแคนาดามายังสหรัฐฯ กำลังการขนส่ง 590,000 บาร์เรลต่อวัน ได้ตามปกติ
- ธนาคารกลางสเปนรายงานอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ในไตรมาสที่ 3 ลดลง 0.4% จากไตรมาสก่อน
- National Bureau of Statistics ของจีนรายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเดือน ก.ย. 55 อยู่ที่ 4.07 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 7.5%
- สำนักสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส INSEE รายงานดัชนีภาคการผลิตในเดือน ต.ค. 55 อยู่ที่ระดับ 85 จุด ลดลง 1 จุด จากเดือนก่อน ต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
- Commodity Future Trading Commission (CFTC) ของสหรัฐฯ รายงานสถานะการลงทุนล่าสุด ในตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าNYMEX ที่นิวยอร์กและลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 ต.ค. 55 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับลดสถานะการซื้อสุทธิ (Net Long Positions) ของสัญญาน้ำมันดิบ WTI ลงจากสัปดาห์ก่อน 35,392 สัญญา อยู่ที่ 158,001 สัญญา ต่ำที่สุดในรอบ 3 เดือน
ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ระดับ 2.0% จากปีก่อน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/55 อยู่ที่ระดับ 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สูงสุดในรอบ 5 ปี
- Reuters รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ (Thomson Reuters/University of Michigan Index) ในเดือน ต.ค. 55 อยู่ที่ระดับ 82.6 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 4.3 จุด
- National Hurricane Centre ของสหรัฐฯ คาดการณ์เฮอร์ริเคน Sandy จะเคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณเขตเมือง Philadelphia และเมือง Baltimore ในวันที่ 30 ต.ค.55 และจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินการของโรงกลั่น 6 แห่ง ในรัฐ Delaware รัฐ New Jersey และ Pennsylvania และคาดว่ากาลังการ กลั่นประมาณ 1.19 ล้านบาร์เรลต่อวัน จะได้รับผลกระทบ
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันอิหร่าน Rostam Qasemi กล่าวอิหร่านอาจตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกด้วยการหยุดส่งออกน้ำมันดิบของตนเองออกสู่ตลาดโลก พร้อมกล่าวย้ำประเทศของตนสามารถอยู่ได้แม้ว่าจะปราศจากรายได้จากการส่งออกน้ำมัน ทั้งนี้ International Energy Agency (IEA) รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันของอิหร่านในเดือน ก.ย.55 อยู่ที่ระดับ 2.63 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำที่สุดในรอบ 25 ปี และส่งออกที่ระดับ 860,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลงกว่า 1.34 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปริมาณส่งออกเฉลี่ยในปี 2554
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ที่ 29 ต.ค. — 2 พ.ย. 55
ราคาน้ำมันยังคงมีความผันผวนสูงล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากข่าวดีด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และผลกระทบของ Hurricane Sandy ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานตัวเลขอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ในไตรมาสที่ 3 ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์และการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ประกาศมาตรการผ่อนปรนเชิงปริมาณด้วยการเข้าซื้อสินทรัพย์สินปริมาณ 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ/เดือน ในเดือน ก.ย.55 ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในประเทศดีขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปยังคงย่ำแย่ โดย International Monetary Fund (IMF) คาดการณ์หนี้สาธารณะต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (Debt-to-GDP Ratio) ของกรีซจะอยู่ที่ระดับ 136% ในปี 2563 สูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 120% และอัตราว่างงานประเทศสเปนในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ระดับ 25.2% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 35 ปี ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่าสเปนอาจขอรับความช่วยเหลือในการประชุมคณะรัฐมนตรีคลังยุโรป วันที่ 12 พ.ย.55 ด้านปัจจัยพื้นฐานพายุเฮอร์ริเคน Sandy จะเคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณเขตเมือง Philadelphia และเมือง Baltimore และจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินการของโรงกลั่น 6 แห่ง ในสหรัฐฯ ทั้งนี้ความรุนแรงของเฮอร์ริเคน Sandy ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 58 คน ขณะเคลื่อนตัวผ่านบริเวณทะเล Caribbean ทางเทคนิคราคาน้ำมันดิบ Brent มีแนวรับแนวต้านอยู่ที่ 116-105 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ WTI มีแนวรับแนวต้านอยู่ที่ 83-93 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล