WHA เตรียมเพิ่มทุนกองทุนอสังหาฯ WHAPF 2.2 พันล้าน ขยายลงทุน 2 คลังสินค้าพรีเมี่ยม มั่นใจเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนคุ้มค่า

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 15, 2012 10:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA เตรียมออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) เพิ่มทุนอีก 2.2 พันล้านบาท ด้านผู้บริหาร “ นายแพทย์สมยศ อนันตประยูร ” เล็งขยายการลงทุนใน 2 คลังสินค้าพรีเมี่ยมยักษ์ใหญ่ เปิดจองซื้อหน่วย ระหว่างวันที่ 11-13 ธ.ค.นี้ มั่นใจนักลงทุนตอบรับดี พร้อม ชี้แจงงบผลการดำเนินงานบริษัทฯว่า สาเหตุที่กำไรสุทธิลด เนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน บุ๊คกำไรจากรายการพิเศษ ส่งผลบริษัทฯมีกำไรพุ่งกระฉูด แต่หากพิจารณาจากงบบัญชีปกติ บริษัทฯ กำไรเพิ่มขึ้น ในงวด9เดือน กว่า151 ล้านบาท หรือ 405 % ย้ำWHA ยังมีอัตราทำกำไรได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายแพทย์สมยศ อนันตประยูร ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ผู้นำด้าน Built to Suit คลังสินค้า — ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานระดับพรีเมี่ยม เปิดเผยว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) ได้ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต) ให้เพิ่มทุนโครงการ ครั้งที่ 2 จำนวน 2,200 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนการลงทุนเพิ่มเติมในโครงการคลังสินค้า Healthcare บนถนนบางนา-ตราดกิโลเมตรที่ 20 และโครงการคลังสินค้า Kao 3 ในพื้นที่ใกล้เคียงกับนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ หรือ WHAPF จะเปิดให้จองซื้อหน่วยลงทุน สำหรับการเพิ่มทุนดังกล่าว ในระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม 2555 นี้ และคาดว่าหน่วยลงทุนเพิ่มทุนดังกล่าว จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในวันที่ 14 มกราคม 2556 ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน “ บริษัทฯ จะนำพื้นที่เช่าคลังสินค้าและโรงงานที่ตั้งอยู่ในโซน ถนนบางนา-ตราดและชลบุรี ซึ่งมีพื้นที่รวมกันกว่า 70,000 ตารางเมตร เข้ากองทุน WHAPF ซึ่งจะทำให้กองทุนดังกล่าวมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 5,300 ล้านบาท จากปัจจุบันมีสินทรัพย์อยู่ที่ 3,200 ล้านบาท ” นายแพทย์สมยศ กล่าว ทั้งนี้ ความน่าสนใจของโครงการคลังสินค้าทั้ง 2 แห่งที่กองทุน WHAPF จะเข้ามาลงทุนนั้น มีจุดเด่นที่ทำเลที่ตั้งที่ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นทางหลักของการกระจายและขนส่งสินค้าไปทั่วภูมิภาคมีระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จึงส่งผลให้มีความสะดวกในการเดินทางและการขนส่งสินค้าไปยังศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งต่างๆ ส่งผลให้สามารถลดต้นทุนการขนส่งให้แก่ผู้เช่าได้เป็นอย่างดี “ เชื่อว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะส่งผลให้กองทุนยิ่งมีรายได้ระยะยาวที่สม่ำเสมอ และจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ลงทุนในแง่โอกาสรับผลตอบแทนที่คุ้มค่า เนื่องจากผลการดำเนินงานของกองทุน WHAPF มีรายได้อย่างสม่ำเสมอจากการเช่า ส่งผลให้กองทุนมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ” นายแพทย์สมยศ กล่าว พร้อมทั้งนี้ นายแพทย์สมยศ ยังได้กล่าวถึงผลประกอบการ ในไตรมาส3/2555 ว่า บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 14.94 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 339.28 ล้านบาท ขณะที่งบผลการดำเนินงาน ในงวด 9 เดือนอยู่ที่ 188.64 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 387.73 ล้านบาท ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัทฯมีกำไรสุทธิลดลงเนื่องจาก ในช่วงเดียวกันของปีก่อนบริษัทฯมีกำไรจากรายการพิเศษ ซึ่งเป็นผลจากการควบรวมกิจการ โดยเป็นการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทย่อย จึงส่งผลให้บริษัทฯมีอัตรากำไรสุทธิ ในงวดไตรมาส3/2554 เข้ามาเพิ่มขึ้นจำนวน 322.43 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น จำนวน 350.08 ล้านบาท ในงวด9เดือนแรกของปี2554 แต่หากพิจารณาจากงบผลประกอบการ ตามงวดบัญชีปกติแล้ว จะเห็นได้ว่า ในงวด 9 เดือนแรกของปี2555 บริษัทฯ มีอัตราการทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 188.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 37.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 151.34 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 405.74 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่รายได้รวม งวด 9 เดือน อยู่ที่ 2,081.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,946.05 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1,441.09 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการขายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนรวมฯ จำนวน 1,808.85 ล้านบาท และจากการที่บริษัทฯ มีคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานเพื่อให้เช่าและบริการเพิ่มขึ้น “ สาเหตุที่งบไตรมาส3/2555 และ งวด 9 เดือน ปรับตัวลดลงนั้น เนื่องจาก ในช่วงเดียวกันของปีก่อนบริษัทฯมีกำไรจากรายการพิเศษ จากการควบรวมกิจการบริษัทย่อยเข้ามา ส่งผลให้บริษัทฯรับรู้กำไรเข้ามาเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกันหากพิจารณาจากงบผลการดำเนินการตามการบันทึกบัญชีปกติแล้ว จะเห็นได้ว่าบริษัทฯมีกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนของปีนี้เพิ่มขึ้นสูงขึ้น151.34 ล้านบาท หรือคิด 405.74% ดังนั้นจึงอยากชี้แจ้งให้ทราบว่า จากศักยภาพความแข็งแกร่งของบริษัทฯจะส่งผลให้อัตราการทำกำไรของในอนาคตมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ” นายแพทย์สมยศ กล่าวชี้แจง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ