กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--บลจ. กรุงศรี
บลจ.กรุงศรี ประสบความสำเร็จจากการเสนอขายกองทุน KFEQ8-2 โดยมียอดจองซื้อล้นหลามกว่า 535 ล้านบาทเต็มมูลค่าโครงการ พร้อมจับจังหวะตลาดส่งกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 8%ทริกเกอร์3 (KFEQ8-3) เสนอขายต่อทันที ตั้งเป้าผลตอบแทน 8% จากการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เสนอขายระหว่างวันที่ 15 - 21 พ.ย. 55
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า “บริษัทประสบความสำเร็จจากการเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 8% ทริกเกอร์2 (KFEQ8-2)เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งกองทุนดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นจำนวนมากโดยมียอดจองซื้อสูงถึง535ล้านบาท ดังนั้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่เห็นโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นไทย บริษัทจึงจะเปิดขายกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 8% ทริกเกอร์3 (KFEQ8-3)ต่อทันที โดยเสนอขายครั้งเดียวระหว่างวันที่ 15 — 21 พ.ย. 55”
“กองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 8% ทริกเกอร์3 (KFEQ8-3) อายุโครงการประมาณ 8 เดือน มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยคัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีมีแนวโน้มการเติบโตสูง และจ่ายปันผลดีหรือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภายในประเทศเป็นหลัก กองทุน KFEQ8-3 ตั้งเป้าจ่ายผลตอบแทนเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณ 8%ขึ้นไปคือมูลค่าหน่วยลงทุนเท่ากับหรือมากกว่า 10.91 บาท ต่อหน่วยต่อเนื่องกัน 5 วันทำการ หรือตามมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ครบอายุโครงการ ทั้งนี้ บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป”
นายฉัตรพี กล่าวเสริมว่า “บริษัทมีมุมมองว่าทิศทางของตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้าแม้ในระยะสั้นตลาดจะมีความผันผวนอยู่บ้าง และการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ถือเป็นจังหวะการเข้าลงทุนที่เหมาะสม เนื่องจากราคาหลักทรัพย์มีการปรับฐานลงมาบ้างถือเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี ในราคาถูกและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลายประการทั้งในส่วนของเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้าประเทศตลาดเกิดใหม่ และเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตจากการลงทุนของภาครัฐที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2556 อาทิเช่น การที่กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการร่าง พรบ.กู้เงินลงทุนเพื่อลงทุนในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในวงเงิน 2.2 ล้านล้านบาทเป็นระยะเวลา 7 ปี ส่งผลให้การลงทุนรวมเพิ่มขึ้น15 — 20% หรือคิดเป็น3 - 4% ของGDP และมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนการลงทุนของภาคเอกชน ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนของไทยมีอัตราการเติบโตที่ดี และการบริโภคภายในประเทศมี ทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากนโยบายอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทที่จะเริ่มบังคับใช้ทั่วประเทศในปีหน้า”
“กองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 8%ทริกเกอร์3 (KFEQ8-3) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารทุน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองโอกาสการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยและต้องการเข้ามาลงทุนเพื่อผลตอบแทนตามเป้าหมาย สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้ ทั้งนี้ การจัดสรรเงินบางส่วนมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยในจังหวะที่เหมาะสมกับกองทุน KFEQ8-3 จะช่วยเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนได้” นายฉัตรพี กล่าว
นักลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 ต่างจังหวัดโทรฟรี 1-800-226300 หรือติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนได้ที่เวปไซด์บริษัทจัดการ www.krungsriasset.com เอกสารที่เกี่ยวกับกองทุนได้ที่บริษัทจัดการหรือสำนักงานของผู้สนับสนุนการขายก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต