กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย
จากการประชุมร่วมในงานประชุมคนตาบอดโลกภายใต้หัวข้อ “การจ้างงาน” ซึ่งเป็นปัญหาที่พบทั่วโลก เนื่องจากส่งผลโดยตรงกับความเป็นอยู่และการหาเลี้ยงชีพของคนตาบอด ส่วนใหญ่อัตราการจ้างงานน้อยเพราะความไม่มั่นใจในศักยภาพของคนตาบอด ในขณะที่ไทยชู “นวดไทย” เป็นอาชีพสำหรับคนตาบอดโลก และพร้อมถ่ายทอดทักษะเพื่อคนตาบอดในประเทศต่างๆ นำไปเป็นอาชีพสร้างรายได้ดูแลตัวเองได้
วันศุกร์ที่ 16 พ.ย. 55 มีประชุมร่วมระหว่างการประชุมสมัชชาสหภาพคนตาบอดโลกครั้งที่ 8 และสมัชชาสภาระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาของคนพิการทางการเห็น ในการประชุมซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค ระหว่างวันที่ 8-18 พ.ย. นี้ จึงมีเรื่องนี้เป็นหนึ่งในประเด็นใหญ่ที่องค์กรคนตาบอดกว่า 120 ประเทศทั่วโลกเข้ามาร่วมปรึกษาหารือและกำหนดทิศทางการทำงาน โดยเฉพาะประเด็นในหัวข้อ “การจ้างงาน” มีตัวแทนจากประเทศต่างๆ มาถ่ายทอดตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันสูง คนพิการทางการเห็นได้รับการจ้างงานน้อยมาก จึงระดมความคิดเพื่อเสนอหาแนวทางแก้ไขปัญหาการจ้างงานกับรัฐบาลในประเทศของตน
นางแมรี่แอน ไดมอนด์ ประธานสหภาพคนตาบอดโลก WBU และประธานคณะทำงานเรื่องการจ้างงานของสหภาพคนตาบอดโลก รายงานการทำงานของคณะกรรมการในที่ประชุมว่า “อัตราส่วนของคนพิการที่ถูกจ้างงานมีเพียง 25% มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จึงทำให้คณะทำงานเน้นเรื่องการวางยุทธศาสตร์การทำงานหลัก คือ การเปลี่ยนความรับรู้ของนายจ้างเกี่ยวกับความสามารถและสร้างความมั่นใจในการทำงานของคนตาบอดและสายตาเลือนราง การตั้งบริการสินเชื่อขนาดเล็กสำหรับคนพิการทางการเห็นที่ยากจน และความร่วมมือกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เพื่อให้เห็นความสำคัญของการจ้างงานผู้พิการทางการเห็น”
ด้าน นางรีนา แลมส์ยาห์ เลขาธิการสหภาพคนตาบอดแห่งอินโดนีเซีย กล่าวถึงสาเหตุหลักของอุปสรรคในการจ้างงานว่า “การศึกษาคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนพิการได้รับการจ้างงานน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนา พ่อแม่จะส่งลูกที่พิการไปโรงเรียนพิเศษสำหรับผู้พิการ การเข้าโรงเรียนพิเศษทำให้เด็กถูกแบ่งแยกจากสังคมที่ตนเองอยู่มากขึ้น ดังนั้น ทัศนคติของผู้ปกครองเป็นเรื่องสำคัญมาก คนพิการจะถูกปกป้องคุ้มครองตลอดเวลาไม่ได้ ขณะเดียวกันการจัดระบบการศึกษาให้คนพิการสามารถเรียนรู้ได้ในระบบโรงเรียนปกติหรือการเรียนร่วมก็เป็นเรื่องที่ต้องทำเช่นกัน”
นายมณเฑียร บุญตัน กรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการแห่งสหประชาชาติ และ ประธานคณะกรรมการการจัดงาน WBU-ICEVI 2012 ได้แนะนำในที่ประชุมครั้งนี้ ถึงความพร้อมของประเทศไทยที่จะช่วยถ่ายทอด “ศาสตร์นวดไทย” ภูมิปัญญาชาวบ้านของไทยที่คนตาบอดทำได้ดี ใช้เป็นองค์ความรู้สร้างอาชีพให้คนตาบอดทั่วโลกว่า “เป็นโครงการด้านพัฒนาอาชีพที่สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยพร้อมส่งเสริมและแนะนำให้กับประเทศสมาชิกที่สนใจ เพื่อสร้างอาชีพให้คนตาบอดหารายได้ด้วยตนเองและมีชีวิตพึ่งพาตนเองได้อย่างพอเพียง ซึ่งได้การตอบรับจากประเทศที่เข้าร่วมดีมาก” นายมณเฑียรกล่าว
ติดตามข้อมูลและความเคลื่อนไหวได้ที่ www.wbu-icevi2012.org