กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--นิด้าโพล
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ค่านิยมไทย กับ นโยบายเด็กฝาก” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 21 - 22 พฤศจิกายน 2555 จากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง กระจายทุกภูมิภาค ทุกระดับการศึกษาและกลุ่มอาชีพ กรณีกระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายรับเด็กฝากเพื่อเข้าสถานศึกษา จากการสำรวจ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 80.48 ไม่เห็นด้วยกับนโยบายเด็กฝาก เพราะ เด็กทุกคนต้องใช้ความสามารถสอบเข้า ต้องมีความเท่าเทียมกัน อีกทั้งนโยบายดังกล่าวจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างเด็กปกติและเด็กฝาก ในขณะที่ประชาชน ร้อยละ 13.60 เห็นด้วย เพราะ เป็นทางเลือกหนึ่งที่บุตรหลานจะได้เรียนในสถานศึกษาที่ดี สะดวกและใกล้บ้าน
เมื่อถามว่าค่านิยมของสังคมไทยยึดติดกับชื่อเสียงของสถานศึกษามากกว่าความสามารถของบุคคลหรือไม่ พบว่า ประชาชน ร้อยละ 77.44 ระบุว่า ใช่ เพราะ ในปัจจุบันจะเน้นที่ชื่อเสียงของสถาบันมากกว่าคุณภาพการเรียนการสอน รวมทั้งนักเรียนไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถในการเข้าศึกษา แต่ประชาชน ร้อยละ 16.88 ระบุว่า ไม่ใช่ เพราะ เด็กในปัจจุบันมีความรู้ความสามารถกันมากขึ้น และยังมี การเรียนกวดวิชาเพิ่มเติมอีกด้วย ทั้งนี้ ประชาชน ร้อยละ 78.64 เห็นด้วยว่าการสร้างค่านิยม “เด็กฝาก” ในสถานศึกษาจะเป็นการสร้างค่านิยมเด็กฝากในที่ทำงานในอนาคต เพราะ เด็กเห็นผู้ใหญ่เป็นแบบอย่าง และในระบบงานต้องใช้ระบบอุปถัมภ์ การใช้ เส้นสายจึงจะได้เข้าที่ทำงาน แต่ประชาชน ร้อยละ 13.44 ไม่เห็นด้วย เพราะ อยู่ที่ตัวเด็กมากกว่า อีกทั้งเด็กในปัจจุบันมีความสามารถจริง ๆ และเมื่อโตขึ้นเด็กเหล่านั้น จะมีความคิดและมีความมุมานะด้วยตนเอง
ท้ายสุดประชาชน ร้อยละ 46.41 ระบุว่า ทางออกของปัญหาเด็กฝากหรือการจ่ายแปะเจี๊ยะ ควรยกเลิกระบบเด็กฝากหรือการจ่ายเงินแปะเจี๊ยะ ทุกคนต้องมีเท่าเทียมกัน ไม่ควรมีระบบเส้นสาย และควรใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองสอบเข้า หรือมีระบบโค้วต้าความสามารถพิเศษ เช่น ด้านกีฬา และ ร้อยละ 19.14 ระบุว่า ควรแก้ที่ตัวบุคคล ทั้งผู้บริหาร ผู้ใหญ่ ครู และผู้ปกครอง รวมทั้งขึ้นอยู่ที่จิตสำนึกของทุกคน