กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,693 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,699 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.60 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,500 บาท กับ 24,600 บาท และกลับมาปิดที่ 24,450 บาท กับ 24,550 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,945 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 8,902 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 60 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1% แบบ 10 บาท ลดลง 1% Silver Futures เพิ่มขึ้น 1% GFZ12 ปิด 24,710 บาท และ GFG12 ปิด 24,910 บาท GF10Z12 ปิดที่ 24,710 บาท GF10G12 ปิดที่ 24,910 บาท SVZ12 ปิด 1,000 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,698.2 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 1.9 เซนต์ ที่ระดับ 32.28 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,350.52 ตัน (ขายออก 0.9 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ระดับ 87.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 100.38 จุด ปิดที่ 13,325.39 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังการประกาศตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐที่ออกมาอ่อนแอ โดยเฟดสาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนธ.ค.ร่วงลงมาอยู่ที่ -8.1 จากระดับ -5.2 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ -0.7 ส่งผลให้สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวสูงขึ้น 1.2 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,698.2 เหรียญ
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงไม่สามารถฝ่าทะลุระดับแนวต้านที่สำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,700 เหรียญไปได้ โดยนักวิเคราะห์จากฟาสมาร์เก็ตส์กล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาอ่อนแอ แต่ผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ยังคงมีอยู่ ดังนั้น เขาคิดว่าตลาดจะมองผ่านตัวเลขต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขดัชนีภาคการผลิตผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่ออกมาเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเขายังสงสัยว่า สภาพตลาดแรงงานที่อ่อนแอจะเป็นผลบวกต่อทองคำเพราะผลกระทบของตัวเลขเศรษฐกิจในเรื่องการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หลังจากที่ FOMC ได้ผูกติดระหว่างตลาดแรงงานกับอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ในการประชุมล่าสุด โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา นายเบน เบอร์นันเก็ได้กล่าวว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ต่อเมื่ออัตราการว่างงานอยู่ต่ำกว่าระดับ 6.5% ซึ่งการลดอัตราดอกเบี้ยจะเป็นผลดีต่อทองคำ
ในช่วงตอนต้นของวัน ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นจากความหวังที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงินเพิ่มเติม หลังจากที่พรรค LDP ของญี่ปุ่นชนะเลือกตั้งล่าสุดซึ่งอาจเป็นผลดีต่อราคาทองคำ เนื่องจากทางพรรค LDP ได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการผ่อนคลายทางการเงินและการกระตุ้นการคลัง อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากนายจอห์น โบห์นเนอร์ โฆษกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกัน และประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้มีการประชุมกันอีกครั้งเมื่อวานนี้ โดยการเจรจาเรื่อง Fiscal Cliff ยังคงมีอยู่ต่อไป แต่การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์อาจเป็นผลมาจากการคาดหวังต่างๆ ในช่วงสุดสัปดาห์ว่าอาจมีข้อสรุปในเร็วๆ นี้ โดยนายจอห์น โบห์นเนอร์ ได้กล่าวว่า การเพิ่มภาษีของผู้มีรายได้มากกว่า 1 ล้านเหรียญต่อปีอาจเป็นไปได้ ซึ่งก่อนหน้านี้พรรครีพับลิกันได้กล่าวว่า พวกเขาจะไม่เพิ่มภาษีคนรวย ทั้งนี้ ทำเนียบขาว ระบุว่า แผนของนายโบห์นเนอร์ ยังคงไม่เพียงพอต่อวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ต่อการจัดการแก้ปัญหา โFiscal Cliff โดย เจ คาร์นีย์ โฆษกของทำเนียบขาว ได้ออกมากล่าวกับผู้สื่อข่าวโดยสรุปว่า แนวความคิดของประธานาธิบดีคือ การหาแผนที่จะทำให้พวกเราประสบความสำเร็จ ในขอบเขตการจัดการและการสร้างสมดุลที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาได้อย่างยั่งยืน เพื่อลดการขาดดุลในระยะยาว รวมถึงการสร้างรากฐานทางการเงินของเศรษฐกิจสหรัฐให้มีความยั่งยืนเช่นกัน
อีกทั้ง หนึ่งในสมาชิกของพรรคเดโมแครตกล่าวว่า พวกเขาใกล้ประสบความสำเร็จแล้ว และการจัดการกับ fiscal cliff ไม่เป็นการสร้างอันตรายใดๆ ซึ่งแฮรี่ รี้ด ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภากล่าวว่า เริ่มเห็นได้ว่ากลุ่มสมาชิกสภานิติบัญญัติจะกลับสู่การหาแนวทางการจัดการให้ได้ภายในช่วงวันหยุดเทศกาลหลังจากวันคริสมาสต์ผ่านไป เพื่อให้มีการดำเนินงานให้เสร็จสิ้นก่อนถึงกำหนดช่วงเวลาสุดท้ายภายในสิ้นปีนี้
กองทุนทองคำ SPDR ลดการถือครองทองคำลง 0.904 ตัน สู่ระดับ 1,350.519 ตันในวันที่ 17 ธันวาคม แต่ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดที่ 1,353.346 ตันที่ทำไว้เมื่อช่วงต้นเดือน
นายเจเรมี่ สตีน ฝ่ายปกครองของเฟดกล่าวเมื่อคืนนี้ว่า การแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่เชื่อมโยงธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกช่วยให้ธนาคารต่างๆ ทั่วโลกมีการฟื้นตัวทันท่วงทีในช่วงที่มีแรงกดดันทางการเงิน และช่วยปกป้องภาคครัวเรือนและบริษัทต่างๆ ของชาวอเมริกันจากผลกระทบบางเรื่อง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เฟดได้ขยายการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์กับธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางแคนาดา ธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางสวิสเซอร์แลนด์เพิ่มอีก 1 ปี
นายเจฟฟรี่ย์ แลคเกอร์ ประธานเฟด สาขาริชมอนด์ แสดงออกถึงความกังวลเมื่อคืนนี้ว่า แผนงานให้ระดับอัตราว่างงานลดต่ำกว่า 6.5% ของ FOMC จึงจะมีการพิจารณาเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้นอาจทำให้เฟดเข้าสู่ภาวะเงินเฟ้ออย่างรวดเร็วอย่างไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเขาเชื่อว่า ทาง FOMC จะมีการคิดทบทวนขนาดของการเข้าซื้อพันธบัตรใหม่อีกรอบในปีหน้า แต่ดูเหมือนจะมีความเชื่อมั่นน้อยลงในการที่จะลดขนาดลงเนื่องจากแผนอัตราการว่างงาน อีกทั้งเขามองว่า แผนอัตราการว่างงานและอัตราเงินเฟ้อของเฟดอาจมีความขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง
สำหรับทางฝั่งยุโรป ธนาคารกลางเยอรมนี หรือ บุนเดสแบงก์ ระบุในรายงานประจำเดือนที่มีการเผยแพร่ในวันนี้ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีจะหดตัวลงอย่างมากในช่วงปลายปี 2555 เนื่องจากผลกระทบของวิกฤตหนี้ยูโรโซนและผลผลิตอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางเยอรมนีระบุว่า จีดีพีจะปรับตัวลงเพียงช่วงสั้นๆ และจะเริ่มกลับมาขยายตัวอีกครั้งในปีหน้า หากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ยังคงอยู่ในภาวะปกติ
เมื่อวานนี้ นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี เปิดเผยว่า รูปแบบใหม่ของอีซีบีในการกำกับดูแลภาคธนาคารจะเป็นการช่วยฟื้นความมั่นใจแก่หน่วยงานและฟื้นฟูการกู้ยืมระหว่างภาคธนาคารได้ ซึ่งถึงแม้ว่าธนาคารกลางจะมีกลไกการเฝ้าดูแลภาคธนาคารอยู่แล้วประมาณ 150 แห่งจากธนาคารทั้งหมดโดยประมาณ 6,000 แห่งก็ตาม ก็จะมีอำนาจเข้าแทรกแซงกลุ่มธนาคารขนาดเล็กต่างๆได้ ถ้าหากว่าธนาคารเหล่านั้นได้ส่งสัญญาณว่ากำลังประสบปัญหา นอกจากนี้ มาริโอ ดรากิ กล่าวกับรัฐสภาเศรษฐกิจของยุโรปและคณะกรรมการธุรการด้านการเงินว่า กลไกการจัดการค่าเงินยูโรจะเป็นสาเหตุไปสู่การฟื้นความมั่นใจให้แก่หน่วยงานของภาคธนาคารทั่วยุโรป ซึ่งอาจช่วยให้มีการฟื้นฟูการกู้ยืมระหว่างธนาคาร รวมไปถึงสินเชื่อข้ามพรมแดน ด้วยการแสดงผลที่เห็นได้ชัดตามความเป็นจริงของสภาพเศรษฐกิจ
ผลสำรวจเมื่อวานนี้แสดงให้เห็นว่า ประชาชนชาวอิตาลีส่วนใหญ่ต่อต้านนายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีของพรรคเทคโนแครตสำหรับการดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สองในการเลือกตั้งรัฐสภาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ อันเนื่องมาจากการที่เขาดำรงตำแหน่งมาเป็นระยะเวลากว่า 13 เดือนในการเป็นผู้นำรัฐบาลทำให้อิตาลีต้องเผชิญกับวิกฤตทางการเงิน และจากการที่เขาอยู่ภายใต้แรงกดดันระหว่างประเทศจากการ เพื่อให้เขาดำเนินการใช้รูปแบบการปฏิรูปและมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งเสมือนกับเป็นการลดปัญหาหนี้สินที่อันตรายต่อยูโรโซนนั่นเอง
พลเรือตรี อาลี ฟาดาวี ผู้บัญชาการกองทัพเรือแห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) กล่าวว่า IRGC จะจัดการซ้อมรบในช่องแคบฮอร์มุซเร็วๆนี้ โดยการซ้อมรบดังกล่าวจะจัดขึ้นภายในช่วงสิ้นปีปัจจุบันของอิหร่าน (สิ้นสุดในวันที่ 20 มี.ค. 2556) โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Empire State Manufacturing Index ออกมาที่ระดับ -8.1 จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -5.2
- TIC Long-Term Purchases ออกมาที่ระดับ 1.3B จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.3B
วันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจ
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำเริ่มมีการดีดตัวกลับขึ้นมาบ้าง โดยยืนเหนือระดับ 1,696 เหรียญ ท่ามกลางการซื้อขายที่เริ่มคึกคักมากขึ้น ตลาดเริ่มตอบรับกระแสข่าว Fiscal Cliff ที่คาดว่าน่าจะมีการแก้ไขได้ก่อนเทศกาลปีใหม่ และตลาดก็มีการตอบสนองในเชิงบวกทั้งตลาดหุ้น และตลาดทองคำ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 100.38 จุด ปิดที่ 13,235.39 จุด และตลาดทองคำปิดบวก 1.2 เหรียญ ปิดที่ระดับ 1,698.2 เหรียญ/ออนซ์ และทำจุดสูงสุดที่ 1,699 เหรียญ รวมถึงค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากระดับ 30.60 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 30.58 บาท/ดอลลาร์ โดยมีเงินทุนไหลเข้ามาภายในประเทศเพื่อลงทุนในตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง วิเคราะห์ได้ว่าทองคำเริ่มเข้าสู่ภาวะหยุดตก โดยมีสัญญาณ Bullish Divergence ในราย 1 ชม., 2 ชม. และ 4 ชม. คาดว่าราคาทองคำน่าจะสามารถทะลุเหนือระดับ 1,700 เหรียญได้ในวันนี้ เรายังมองราคาทองคำเป็นขาขึ้นและน่าจะสามารถหยุดตกได้ อย่างไรก็ดีขอให้ติดตามการเคลื่อนไหวของราคาและข่าว Fiscal Cliff ในส่วนของราคาทองคำคาดว่าน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,695 - 1,710 เหรียญ แนะนำให้ขายทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นบริเวณแนวต้านหลัก คาดว่าในวันนี้น่าจะสามารถทะลุระดับ 1,700 เหรียญขึ้นไปได้ แนวรับแรกรายชั่วโมงระยะสั้นๆ อยู่ที่ระดับ 1,695 เหรียญ ส่วนแนวรับระยะรายวันอยู่ที่ระดับ 1,690 เหรียญ
Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,630 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,800 บาท
Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,840 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,000 บาท
Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 980 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,020 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบ 1,695 — 1,710 เหรียญ ให้แนะนำเก็งสั้นๆเข้าเร็วออกเร็ว
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
ให้รอดูความชัดเจนของตลาด เริ่มมีสัญญาณขาขึ้นบ้าง ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวที่ระดับ 1,690-1,693 เหรียญเท่านั้น ถือครองพอร์ทประมาณ 50%
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ยังเป็นลักษณะรอจังหวะเข้าช้อนซื้อเท่านั้น ถือครองพอร์ทประมาณ 50%
สรุปได้ว่าราคาทองคำน่าจะสามารถปรับตัวขึ้นได้บ้าง
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง