ร้อยละ 70 ของผู้เป็นความดันโลหิตสูง…มักเป็นโรคหัวใจ

ข่าวทั่วไป Tuesday January 8, 2013 16:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--โรงพยาบาลรามคำแหง โรคหัวใจแอบแฝงที่ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงไม่ควรละเลย จากข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง มีโอกาสเสียชีวิตจากโรคหัวใจวายถึง 60-75 % เนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่มีความดันโลหิตสูง มักจะไม่รู้ตัวว่าเป็นเพราะไม่แสดงอาการ เลยไม่ได้ให้ความสนใจ แต่เมื่อเราเริ่มมีอาการหรือภาวะแทรกซ้อนแล้วจึงจะเริ่มสนใจและรักษา นั่นอาจจะทำให้ผลการรักษาไม่ดีเท่าที่ควรซึ่งการควบคุมความดันโลหิตให้ปกติอย่างสม่ำเสมอ สามารถลดโอกาสเกิดโรค อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้ ความดันโลหิตนั้นเปลี่ยนแปลงได้ตามปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ดังนี้ 1. อายุ ส่วนใหญ่เมื่ออายุมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ขณะอายุ 18 ปี ความดันโลหิต เท่ากับ 120/70 มม.ปรอท แต่พออายุ 60 ปี ความดันโลหิต อาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 140/90 2.เวลา ความดันโลหิตจะขึ้นๆ ลง ๆ ไม่เท่ากันตลอดวัน ตัวอย่างเช่น ในตอนเช้าความดันซีสโตลิกอาจจะวัดได้ 130 มม. ปรอท ขณะนอนหลับอาจวัดได้ถึง 140 มม.ปรอท ขณะนอนหลับอาจวัดได้ต่ำถึง 100 มม. ปรอท เป็นต้น 3. จิตใจและอารมณ์ พบว่ามีผลต่อความดันโลหิตได้มากขณะได้รับความเครียด 4. เพศ พบว่าเพศชายจะเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้บ่อยกว่าเพศหญิง 5. พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ผู้ที่มีบิดาและมารดา เป็นโรคความดันโลหิตสูงมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้มากกว่า ผู้ที่ไม่มี ประวัติในครอบครัว สิ่งแวดล้อม ที่เคร่งเครียดก็ทำให้มีแนวโน้มการเป็นโรคความดันสูงขึ้นด้วยเช่นกัน 6. สภาพภูมิศาสตร์ ผู้ที่อยู่ในสังคมเมืองจะพบภาวะความดันโลหิตสูงมากกว่าในสังคมชนบท 7. เชื้อชาติ พบว่าชาวนิโกรอเมริกันความดันโลหิตสูงมากกว่าชาวอเมริกันผิวขาว 8. ปริมาณเกลือที่รับประทาน ผู้ที่รับประทานเกลือ มากจะมีโอกาสเกิดโรคความดันโลหิตสูงมากกว่าผู้ที่รับประทานเกลือน้อย อาการของผู้ป่วยความดันโลหิต ซึ่งอาจส่งผลต่อการเป็นโรคหัวใจ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงอาจจะไม่มีอาการใดๆ เลย หรืออาจจะพบว่ามีอาการปวดศีรษะ มึนงง เวียนศีรษะ และเหนื่อยง่ายผิดปกติ อาจมีอาการแน่นหน้าอกหรือนอนไม่หลับ กรณีที่ 1 ภาวะแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูงโดยตรง ได้แก่ภาวะหัวใจวานหรือ หลอดเลือดในสมองแตก กรณีที่ 2 ภาวะแทรกซ้อนจากหลอดเลือดแดงตีบหรือตัน เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือเรื้อรัง ทำให้หัวใจ เต้นผิดจังหวะ อาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ หลอดเลือดสมองตีบเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือหลอดเลือดแดงในไตตีบมาก ถึงขั้นไตวายเรื้อรังได้ ภาวะแทรกซ้อน - หัวใจทำงานหนักขึ้น ทำให้ผนังหัวใจหนาตัวและถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องผนังหัวใจจะยืดออกและเสียหน้าที่ ทำให้เกิดหัวใจโต และหัวใจวายได้ในที่สุด - อาจเกิดภาวะหลอดเลือดในสมองตีบตันหรือแตก ทำให้เป็นอัมพาตหรือเสียชีวิตได้ถ้าเป็นเรื้อรังอาจกลายเป็นโรคความจำเสื่อม สมาธิลดลง - เลือดอาจไปเลี้ยงไตไม่เพียงเนื่องจากหลอดเลือดเสื่อมทำให้ไตวายเรื้อรัง และภาวะไตวายจะยิ่ง ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นอีก - หลอดเลือดแดงในตาจะเสื่อมลงอย่างช้าๆ จนตาบอดได้ การป้องกัน…รักษาโรคหัวใจแทรกซ้อนจากการเป็นความดันโลหิตสูง - ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ตัวอย่างเช่น การเดินเร็วๆ วิ่งเหยาะ หรือว่ายน้ำ ปั่นจักรยานควรออกกำลังกายประมาณ 15-20 นาที อย่างน้อย 3-6 ครั้ง/สัปดาห์ - ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัด เพื่อลดปริมาณเกลือซึ่งจะทำให้ความดันโลหิตสูงได้ - ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ - ลดความเครียดของงานและภาวะแวดล้อม - ลดน้ำหนักตัวโดยเฉพาะในรายที่น้ำหนักเกินมาตรฐาน ความอ้วนถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคความดันโลหิต - รับประทานยาและพบแพทย์สม่ำเสมอ เพื่อตรวจวัดความดันโลหิตและปรับยาให้เหมาะสม ข้อมูลสุขภาพโดย รพ.รามคำแหง สายด่วนสุขภาพ 02-743-9999

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ