รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ 7 จังหวัดกลุ่มเสี่ยง เตรียมลงพื้นที่สมุทรสาครสางปัญหาการค้ามนุษย์ในแรงงานประมงและล้งกุ้ง

ข่าวทั่วไป Thursday January 10, 2013 09:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ม.ค.--พม. นายวิทัศน์ เตชะบุญ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะทำงานประสานการปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ รับฟังรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ และตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตอาหารแช่เยือกแข็งและล้งกุ้งในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๖ ว่า รัฐบาลตระหนักในความสำคัญของปัญหาการค้ามนุษย์ ได้แต่งตั้งคณะทำงานชุดประสานการปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ เพื่อทำหน้าที่ในการประสานการดำเนินงานกับหน่วยงาน องค์กรภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนให้ความรู้ ความเข้าใจ และสร้างความตระหนักแก่เจ้าของสถานประกอบการ ผู้ประกอบการประมง และแรงงาน เป็นต้น ในพื้นที่กลุ่มเสี่ยง ๗ จังหวัด คือ จังหวัดสมุทรสาคร ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง นครศรีธรรมราช สงขลา และจังหวัดสระแก้ว นายวิทัศน์ เตชะบุญ กล่าวต่อว่า จากการรับฟังรายงานสรุป และตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตอาหารแช่เยือกแข็งและล้งกุ้งในจังหวัดสมุทรสาครวันนี้ พบว่า ในปี ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา พบผู้เสียหายที่คัดแยกจากกลุ่มแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าในล้งกุ้ง ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์เนื่องจากถูกบังคับขู่เข็ญ ทำร้ายร่างกาย จำนวน ๙ คน เป็นชาย ๕ คน หญิง ๓ คน และเด็ก ๑ คน และเด็กหญิงสัญชาติลาว ถูกบังคับใช้แรงงานผลิตลูกชิ้น เกี๊ยว จำนวน ๔ คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ความช่วยเหลือทั้งด้านกฎหมายและค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายจากขบวนการค้ามนุษย์ ส่วนกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้จัดทำรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (Tip Report) และจัดให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับ Tire 2 Watch List ติดต่อกันเป็นเวลา ๓ ปีซ้อน ซึ่งในปี ๒๕๕๖ ถ้าประเทศไทยไม่มีมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ที่เป็นรูปธรรม จะทำให้ถูกจัดอันดับอยู่ในกลุ่มประเทศ Tire 3 โดยอัตโนมัติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศในด้านต่างๆ อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการช่วยเหลือทางการศึกษา การทหารจากประเทศสหรัฐฯ รวบถึงภาพลักษณ์ของประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งขณะนี้ คณะทำงานฯ จะเร่งดำเนินการตรวจเยี่ยมและสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์ในพื้นที่ ๗ จังหวัดข้างต้นโดยด่วน ตลอดจนเร่งสร้างเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน รวมถึงผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อร่วมกันเฝ้าระวัง ป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์มากยิ่งขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ