กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--โทเทิ่ล ควอลิตี้ พีอาร์
แอร์บัสทำยอดขายทะลุเป้า พร้อมสร้างสถิติส่งมอบเครื่องบินที่สูงเป็นประวัติการณ์
นีโอยังคงมีผลตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องในตลาดการบิน
แอร์บัสได้สร้างสถิติส่งมอบเครื่องบิน 588 ลำให้แก่ลูกค้า 89 ราย (ลูกค้าใหม่ 17 ราย) และทำยอดขายเครื่องบินทะลุเป้าจากที่ตั้งไว้ 650 ลำ ด้วยการบรรลุข้อตกลงสั่งซื้อรวม 914 ลำ โดยคำสั่งซื้อดังกล่าว แบ่งออกเป็นเครื่องบินซีโอ 305 ลำ เครื่องบินนีโอ 478 ลำ เครื่องบินเอ330/เอ340 82 ลำ เครื่องบินเอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี 40 ลำและเครื่องบินเอ380 9 ลำ ทำให้แอร์บัสมียอดสั่งซื้อเครื่องบินในมือถึง 4,682 ลำ มูลค่าทั้งสิ้น 638,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์แห่งวงการอุตสาหกรรมการบิน
การส่งมอบเครื่องบิน คิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์มากกว่าสถิติการส่งมอบปี พ.ศ. 2554 ซึ่งทำไว้ 534 ลำและในปี พ.ศ.2555 ยังถือเป็นปีที่ 11 ติดต่อกันที่แอร์บัสสามารถเพิ่มอัตราการผลิตขึ้นอีกขั้น โดยแอร์บัสยังสร้างสถิติใหม่ด้วยการส่งมอบเครื่องบินทางเดินเดี่ยว จำนวน 455 ลำ (จาก 421 ลำในปี พ.ศ.2554) ขณะที่การส่งมอบเครื่องบินลำตัวกว้างทำสถิติแตะ 103 ลำ และเครื่องบินตระกูล เอ330 มีอัตราการผลิตต่อเดือนสูงสุดเท่าที่เคยมีมา (9.5 ในปี พ.ศ.2555 เพิ่มเป็น 10 ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี พ.ศ.2556) ส่วนเป้าการส่งมอบเครื่องบิน เอ380 จำนวน 30 ลำประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนกลายเป็นสถิติใหม่ของบริษัทฯ (จาก 26 ลำในปี พ.ศ.2554)
มูลค่าการขายเครื่องบินของแอร์บัส (เครื่องบินรุ่นมากกว่า 100 ที่นั่ง) ในปี พ.ศ.2555 คิดเป็นเปอร์เซ็นต์รวม 41 เปอร์เซ็นต์ (เปอร์เซ็นต์สุทธิ 41.5 เปอร์เซ็นต์) ยอดสั่งซื้อเครื่องบินสุทธิพุ่งขึ้นสูงถึง 833 ลำ คิดเป็นมูลค่า 96,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยแบ่งออกเป็นเครื่องบินตระกูล เอ320 739 ลำ (ทำให้ยอดสั่งซื้อเครื่องบินทางเดินเดี่ยวแตะผ่านลำที่ 9,000 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว) ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นเครื่องบินนีโอ 478 ลำ การันตีความนิยมด้วยส่วนแบ่งการตลาดถึงกว่า 62 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ทำการเปิดตัว ขณะที่ตลาดเครื่องบินลำตัวกว้าง แอร์บัสมียอดสั่งซื้อเครื่องบินเอ330 58 ลำและเอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี 27 ลำ ส่วนเครื่องบิน เอ350-1000 ได้รับการตอบรับอันดีจากบรรดาสายการบินชั้นนำด้วยคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นในกลุ่มเครื่องบินขนาดใหญ่ แอร์บัสบรรลุคำสั่งซื้อ 9 จาก 10 ลำ พิสูจน์ให้เห็นกระแสตอบรับอันล้นหลามต่อเครื่องบิน เอ380
ในปี พ.ศ.2555 โครงการเครื่องบิน เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยการประกอบขั้นสุดท้าย เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบีนั้นได้เดินหน้าเติมขั้นแล้ว ขณะที่การประกอบโครงสร้างและระบบไฟฟ้าของเครื่องบินที่สามารถบินได้จริงเสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พ.ศ.2555 ยังเป็นอีกปีที่แอร์บัส มิลลิทารี่ ประสบความสำเร็จในการส่งมอบเครื่องบิน 29 ลำ (เครื่องบินขนส่งทางการทหารขนาดเล็กและขนาดกลาง 20 ลำ เครื่องบินพี-3 คอนเวอร์ชั่น 4 ลำและเครื่องบิน เอ330 เอ็มอาร์ทีที 5 ลำ) และบริษัทฯยังมียอดการสั่งซื้อเครื่องบินทะลุเป้าที่ตั้งไว้สูงถึง 32 ลำ (เครื่องบินซี295 28 ลำและเครื่องบินซีเอ็น235 4 ลำ) นอกจากนั้นเครื่องบิน เอ330เอ็มอาร์ทีทียังได้รับการคัดเลือกให้มีสิทธิในกิจการทหารจากรัฐบาลอินเดียอีกด้วย
โครงการเอ400เอ็ม มีความคืบหน้ามากขึ้น โดยเพิ่งเสร็จสิ้นการทดสอบด้านการทำงานและความน่าเชื่อถือ ระยะเวลา 300 ชั่วโมงนำไปสู่การรับรองด้านการบินพลเรือนและการทหารในไตรมาสแรกของปี พ.ศ.2556 ก่อนที่แอร์บัส มิลลิทารี่ จะทำการส่งมอบเครื่องบินลำแรกในไตรมาสแรกของปี พ.ศ.2556 รวมแล้วตลอดปี บริษัทฯ ได้ทำการส่งมอบเครื่องบิน เอ400เอ็ม ทั้งสิ้น 4 ลำ ปัจจุบัน เอ400เอ็ม 4 ลำ กำลังดำเนินการประกอบขั้นสุดท้ายและเครื่องบินอีก 13 ลำ กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิต ทำให้ แอร์บัส มิลลิทารี่มียอดสั่งซื้อเครื่องบินในมือถึง 220 ลำ (เครื่องบิน เอ400เอ็ม จำนวน 174 ลำ เครื่องบินเอ็มอาร์ทีที จำนวน 17 ลำ เครื่องบินซีเอ็น235 จำนวน 5 ลำ เครื่องบินซี295 จำนวน 20 ลำและเครื่องบิน พี-3 จำนวน 4 ลำ)
ในปี พ.ศ. 2555 แอร์บัสได้ทำการสรรหาพนักงานเพิ่มจำนวน 5,000 คน ส่งผลให้จำนวนพนักงานทั้งหมดของบริษัทเพิ่มเป็น 59,000 คน โดยในปี พ.ศ.2556 บริษัทฯ ยังมีแผนจ้างพนักงานเพิ่มอีกกว่า 3,000 คนเพื่อร่วมโครงการพัฒนาทั้งหมดของบริษัทฯ
“เมื่อย้อนกลับไปมองในปี พ.ศ.2555 เราสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าเป็นปีที่วิเศษมาก เราได้สร้างสถิติการส่งมอบเครื่องบินใหม่ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นประสิทธิภาพด้านการทำงานที่เพิ่มขึ้นของเราและตลาดการบินยังมอบความไว้วางใจให้กับผลิตทั้งหมดของเรา โดยปีที่ผ่านมาเราสามารถส่งมอบเครื่องบินติดตั้งชาร์คเล็ตลำแรกและยังครองตำแหน่งผู้นำในตลาดเครื่องบินทางเดินเดี่ยวอีกด้วย ผลกำไรจากการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในการลงทุนด้านนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้ากำลังกลับคืนมาแล้ว” มร.ฟาบริซ เบรกิเฌ่ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอร์บัสกล่าวพร้อมเสริมว่า “บริษัทฯจะรักษาอัตราการผลิตให้อยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ซัพพลายเชนของเรา ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผลตอบแทนระยะยาวและอนาคตที่สดใส”