กลุ่มทิสโก้ เปิดแผนดำเนินธุรกิจปี 2556 เดินหน้าขยายฐานลูกค้า สร้างความมั่งคั่งแก่ทุกกลุ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 21, 2013 10:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป กลุ่มทิสโก้ปักธงรบปี 2556 กลุ่ม เดินหน้ารุกเต็มสูบ ตอบสนองทุกโจทย์การเงิน เน้นขยายตัว 4 ด้าน “ขยายฐานลูกค้า — ขยายธุรกิจ — ขยายประสิทธิภาพการบริการจัดการ — ขยายแบรนด์” ปูพรมขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม เสริมแกร่งลูกค้ารายย่อยทั่วประเทศ พร้อมดันลูกค้าธุรกิจ-ลูกค้าบุคคลลงทุนนอกประเทศรับ AEC มั่นใจจุดแข็งบุคลากรคุณภาพ และการบริหารจัดการที่ดี พร้อมปรับตัวรับทุกสภาวะเศรษฐกิจ มั่นใจเติบโตต่อเนื่อง นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mrs. Oranuch Apisaksirikul, Group Chief Executive) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยในปีที่ผ่านมาเติบโตได้ดี ซึ่งเป็นผลมาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการลงทุนของภาคเอกชน และการใช้จ่ายของประชาชนที่เติบโตขึ้นอย่างมาก โดยจะเห็นได้จากการขยายตัวของสินเชื่อภาคครัวเรือน และยอดขายรถยนต์ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงปลายปีเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศและลดผลกระทบของการส่งออก จึงส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2555 มีการขยายตัวในระดับที่ดี ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ กลุ่มทิสโก้สามารถสร้างผลประกอบการอันเป็นที่น่าพอใจ โดยสินเชื่อมีการเติบโตถึง 34% ซึ่งมาจากการขยายตัวของสินเชื่อทุกภาคส่วน ทั้งสินเชื่อรายย่อยที่มีสินเชื่อรถยนต์เป็นหลัก และสินเชื่อธุรกิจทุกขนาด รวมถึงการทำ cross-selling โดยเชื่อมโยงและประสานกันอย่างใกล้ชิดในทุกธุรกิจภายในกลุ่ม ส่งผลให้มีการเติบโตอย่างเนื่อง โดยปัจจุบันกลุ่มทิสโก้มีขนาดสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 290,497 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายของกลุ่มทิสโก้ในปี 2556 ยังคงมุ่งเน้นการตอบสนองทุกความต้องการทางการเงิน เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้แก่ผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม (Wealth of Possibilities) อันเป็นวิสัยทัศน์หลักของกลุ่มทิสโก้ โดยมีกลยุทธ์การขยายตัวใน 4 ด้านหลักคือ 1. การขยายเครือข่ายฐานลูกค้า ด้วยการขยายช่องทางให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และการให้บริการที่ปรึกษาการเงินที่ครบวงจร รองรับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม 2. การขยายธุรกิจแบบ Selective Focus โดยเลือกดำเนินธุรกิจในตลาดที่มีความชำนาญ (Niche) และเป็นธุรกิจที่มีโอกาสการเติบโตที่ดี และมีตลาดรองรับ 3. การขยายประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ด้วยการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพและการกำกับดูแลกิจการที่ดี และการดำเนินงานที่มีความคล่องตัว สามารถปรับตัวเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ ด้วยบุลคลากรที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์สูง ซึ่งเป็นจุดแข็งของทิสโก้มาโดยตลอด และ 4. การขยายแบรนด์ ให้เกิดการรับรู้แบรนด์ทิสโก้ในวงกว้างมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง “เรามองว่าในปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะยังคงเติบโตได้ดีตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุนของทั้งภาครัฐเอกชน ผนวกกับการจับจ่ายใช้สอยของภาคประชาชนที่ยังมีต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกปีที่ดีของทิสโก้ โดยเราจะมุ่งขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม สำหรับลูกค้ารายย่อย เราจะขยายช่องทางการให้บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สะดวกมากขึ้น สำหรับลูกค้าธุรกิจ เราจะมุ่งเน้นการพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ครบวงจร รองรับการขยายธุรกิจของลูกค้าได้ทั้งในและต่างประเทศ และสำหรับลูกค้าธนบดี เราจะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงินการลงทุนใหม่ๆ รวมถึงการให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากปัจจุบันมีแนมโน้มความต้องการออกไปลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราพร้อมรับมือกับการแข่งขันทุกรูปแบบ เพราะปัจจุบันลูกค้ามีความต้องการทางการเงินที่หลากหลายมากขึ้น เราจึงต้องให้บริการที่ตรงกับโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม การรักษาฐานที่มั่นในประเทศอันได้แก่ลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ซึ่งเราทำได้ดีอยู่แล้ว ควบคู่ไปกับการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในต่างประเทศให้แก่ลูกค้า ทั้งลูกค้าธุรกิจ ลูกค้าสถาบัน และลูกค้าบุคคล เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จึงเป็นทิศทางที่เราจะไปต่อจากนี้” นางอรนุช กล่าว ด้าน นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (Mr. Suthas Ruangmanamongkol, President, TISCO Bank Plc.) กล่าวว่า ในปี 2555 ที่ผ่านมา ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยยังคงรักษาอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายรถยนต์ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1.4 ล้านคัน ส่งผลให้สินเชื่อรถยนต์ขยายตัวอย่างโดดเด่น สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้ ธนาคารทิสโก้จะยังคงมุ่งการขยายตัวของสินเชื่อทุกภาคส่วน ทั้งเงินฝาก สินเชื่อธุรกิจทุกขนาด สินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อรถยนต์ที่จะยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ซึ่งรวมถึงสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ (ทิสโก้ ออโต้ แคช) “ปีนี้ธนาคารทิสโก้ตั้งเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อรวมในปีนี้ไว้ที่ 12-15% โดยเรามองว่าสินเชื่อรายย่อยจะยังเติบโตได้ดี โดยมีแรงสนับสนุนหลักมาจากความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งแม้จะไม่มีนโยบายรถคันแรก แต่ก็ยังมีการทยอยส่งมอบรถยนต์ที่จะมีไปจนถึงครึ่งแรกของปีนี้อีกจำนวนมาก สินเชื่อรถยนต์จึงจะยังคงเป็นตัวชูโรงในปีนี้ โดยเราจะเพิ่มช่องทางการให้บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการให้บริการสินเชื่อรถยนต์อย่างครบวงจร สำหรับสินเชื่อธุรกิจก็เชื่อว่าจะขยายตัวได้ดีตามการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเราจะยังคงมุ่งเน้นการให้บริการโซลูชันทางการเงินที่ครบวงจรแก่ลูกค้าธุรกิจ ทั้งธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจเอสเอ็มอี และธุรกิจวาณิชธนกิจ นอกจากการขยายตัวของสินเชื่อ ทางด้านการระดมเงินฝากเราก็จะทำควบคู่กันไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เงินฝากและการลงทุนใหม่ๆ ที่โดดเด่นและต่างจากที่อื่นอย่างต่อเนื่อง” นายสุทัศน์กล่าว ด้าน นายชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายควบคุมการเงินและบริหารความเสี่ยงกลุ่มทิสโก้ (Mr. Chatri Chandrangam, CFO) กล่าวถึงผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ ในปี 2555 ที่ผ่านมาว่า กลุ่มทิสโก้มีกำไรหลังผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 3,705 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 438 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.4% เมื่อเทียบกับปี 2554 เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยรวมที่เพิ่มขึ้น 23.0% ตามการขยายตัวของสินเชื่อทุกภาคส่วน ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 42.5% ตามการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจนายหน้าประกันภัย ธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ และธุรกิจจัดการกองทุน โดยผลการดำเนินงานในภาพรวมยังสามารถทำกำไรเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และรักษาอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นไว้ได้สูงถึง 21.4% ทั้งนี้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้มีการขยายตัวอยู่ที่ 34% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยสินเชื่อเช่าซื้อรวมมีการขยายตัวอยู่ที่ 31% ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อนุมัติใหม่ขยายตัวสูงถึง 39% ตามยอดขายรถที่สูงเป็นประวัติการณ์ ส่วนสินเชื่อธุรกิจเพิ่มขึ้น 33% และสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพิ่มขึ้น 89% คุณภาพของสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นโดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงมาอยู่ที่ 1.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 1.4% เนื่องจากกลุ่มทิสโก้มีการบริหารจัดการสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างมีประสิทธิภาพและติดตามคุณภาพหนี้อย่างใกล้ชิด สำหรับธุรกิจหลักทรัพย์ โดย บริษัทหลักทรัพย์ จำกัด (บล.ทิสโก้) มีรายได้จากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์จำนวน 786 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9% และมีรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจวาณิชธนกิจเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น สำหรับธุรกิจจัดการกองทุน โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (บลจ.ทิสโก้) มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจำนวน 151,462 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.4% และมีรายได้ค่าค่าธรรมเนียมรวมจากธุรกิจจัดการกองทุนเพิ่มขึ้นถึง 29.5% ตามการขยายตัวของตลาดทุน
แท็ก ทิสโก้  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ