บลจ.ไทยพาณิชย์ จ่ายปันผล 3 กองทุนอสังหาฯ CPNRF ,POPF,CPNCG รวม 657 ล้านบาท

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 28, 2013 13:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--PRDD นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารของบริษัทฯ พร้อมกัน 3 กองทุน ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 ประกอบด้วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท หรือ CPN Retail Growth Leasehold Property Fund (CPNRF) ซึ่งลงทุนในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าพระราม 2 พระราม3 และ ปิ่นเกล้า ที่มีผลการดำเนินงานดีอย่างต่อเนื่อง โดยจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2880 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2555 (ราคาปิดตลาด CPNRF* ณ วันที่ 23 มกราคม 2556 ที่ 19.70 บาทต่อหน่วย) คิดเป็นเงินปันผลของปี 55 รวมเป็นจำนวน 1.1289 บาทต่อหน่วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการจ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ ประเภทอาคารสำนักงาน อีก 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพรม์ออฟฟิศ หรือ Prime Office Leasehold Property Fund (POPF) ที่ลงทุนในอาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์ และอาคารยูบีซี 2 จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2491 บาทต่อหน่วยสำหรับรอบผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2555 (ราคาปิดตลาด POPF* ณ วันที่ 23 มกราคม 2556 ที่ 14.70 บาทต่อหน่วย) คิดเป็นเงินปันผลรวมของปี 55 จำนวน 0.9886 บาทต่อหน่วย และ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN คอมเมอร์เชียล โกรท หรือ CPN Commercial Growth Leasehold Property Fund (CPNCG) ที่ลงทุนในอาคารสำนักงาน ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2366 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 23 กันยายน - วันที่ 31 ธันวาคม 2555 (ราคาปิดตลาด CPNCG* ณ วันที่ 23 มกราคม 2556 ที่ 13.90 บาทต่อหน่วย) ซึ่งเป็นการจ่ายเงินปันผลครั้งแรก นับตั้งแต่ได้จดทะเบียนกองทุนและเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเดือนกันยายน2555 คิดเป็นมูลค่าเงินปันผลทั้ง 3 กองทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 657 ล้านบาท นางโชติกา กล่าวว่า ในสภาวะที่ผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังต่ำและการลงทุนในหุ้นมีความผันผวนสูง กองทุนอสังหาริมทรัพย์จะเป็นสินทรัพย์ที่ดีในการกระจายความเสี่ยง เพราะนอกจากจะสร้างผลตอบแทนในรูปเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอแล้ว นักลงทุนยังมีโอกาสได้รับผลประโยชน์จากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลราคาตลาดที่ปรากฏในตลาดหลักทรัพย์ ณ วันที่ 21 มกราคม 2556 กองทุน POPF มีมูลค่าราคาตลาด ประมาณ 5,061.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% จากมูลค่าราคาตลาด ณ วันเริ่มซื้อขายครั้งแรก เมื่อปี 2554 และกองทุน CPNCG มีมูลค่าราคาตลาดประมาณ 5,930.28 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7% จากมูลค่าราคาตลาด ณ วันที่ 21 ธ.ค. 2555 ส่วนกองทุน CPNRF มีมูลค่าราคาตลาด ประมาณ 31,908.37 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นถึง 115% นับจากมูลค่าราคาตลาด ณ วันที่มีการเพิ่มทุน ในปี 2552 อย่างไรก็ดี ราคาตลาดที่กล่าวมาข้างต้นอาจเป็นเพียงการสะท้อนราคาในตลาดหลักทรัพย์ฯบางช่วงเวลาและไม่ใช่ข้อมูลแสดงผลการดำเนินงานของกองทุน ทั้งนี้ บริษัทมองว่า กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ยังคงสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เนื่องจากยังมีการขยายตัวด้านการบริโภคภายในประเทศอยู่มาก โดยเห็นได้จากการขยายตัวของพื้นที่ค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์หลายแห่งที่จะเปิดตัวใหม่ภายในปีนี้ ในขณะที่มีศูนย์การค้าอีกหลายแห่งที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงและเพิ่มร้านค้าใหม่ๆ เพื่อให้เข้ากับรสนิยมและความต้องการของผู้บริโภคที่ทันสมัย ส่วนตลาดสำนักงานให้เช่า ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีพื้นที่ให้เช่าประมาณ 8 ล้านตารางเมตร และมีอัตราการเช่าทั้งในเขต CBD และ Non CBD เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 86 ซึ่งค่อนข้างทรงตัวมาเป็นระยะเวลา 5 ปี แต่เนื่องจากอุปทานของอาคารสำนักงานให้เช่าในใจกลางเมืองเริ่มมีจำกัดมากขึ้น อันเป็นผลมาจากการหาทำเลที่เหมาะสมในเมืองทำได้ยากขึ้น ดังนั้นเมื่อประกอบกับเศรษฐกิจที่คาดว่าจะดีขึ้นในระดับคาดการณ์แล้ว จะทำให้อัตราการเช่าอาคารสำนักงานในพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ