เอดส์ป้องกันได้ถ้าเพื่อนช่วยเพื่อน

ข่าวทั่วไป Friday November 12, 2004 16:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--วช.
วัยรุ่นไทยมีอัตราการติดเชื้อเอดส์สูงขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย การให้ความรู้เพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ต้องใช้วิธีการกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงโดยใช้เพื่อนเป็นแกนนำ จากรายงานของกองระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข ในปี 2546 ประเทศไทยมีผู้ป่วยเอดส์และผู้ติดเชื้อรวมทั้งสิ้น 300,421 ราย สิ่งที่น่าวิตกก็คือ ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ที่เป็นเยาวชนวัยรุ่น มีอัตราสูงขึ้นจากร้อยละ 15 เป็นร้อยละ 17 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย เช่น การไม่ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ การเปลี่ยนคู่นอน เป็นต้น และมีปัจจัยแวดล้อมสำคัญคือ
การคบเพื่อนที่ไม่เหมาะสม ชักชวนกันดื่มสุรา เที่ยวสถานบันเทิง ดูสื่อกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ ฯลฯ แม้จะมีมาตรการแก้ไขโดยการให้ความรู้เรื่องโรคเอดส์แก่กลุ่มเป้าหมายแล้วก็ตามแต่วิธีนี้ยังไม่ได้ผลที่น่าพอใจนัก การป้องกันและลดการแพร่ระบาดโดยมุ่งไปที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติให้เหมาะสมจึงเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้ให้ทุนอุดหนุนการวิจัยแก่ รศ.พิสมัย วิบูลย์สวัสดิ์ และคณะ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำการวิจัย “ผลของการฝึกอบรมจิตลักษณะและทักษะการพัฒนาเพื่อนต่อการช่วยเพื่อนป้องกันความเสี่ยงต่อโรคเอดส์ในนักศึกษาชายระดับอุดมศึกษา”โดยฝึกอบรมพัฒนาการป้องกันเอดส์แก่ตนเองและเพื่อนกับนักศึกษาชายระดับปริญญาตรีอายุระหว่าง 18-23 ปี จำนวน 267 คน จากการวิจัยปรากฏว่าเยาวชนชายที่ได้รับการฝึกอบรมเมื่อตรวจสอบด้วยแบบสอบถามข้อมูลภูมิหลังและแบบวัดจิตลักษณะ จะเป็นผู้ที่มีทัศนคติที่ดีต่อการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงเอดส์ด้านเพศสัมพันธ์ มีทัศนคติที่ดีต่อเพื่อนที่หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง และมีความตั้งใจพัฒนาเพื่อน รวมทั้งมีความตั้งใจหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคเอดส์สูงกว่าเยาวชนที่ไม่ได้รับการอบรม แสดงให้เห็นว่าการฝึกอบรมนักศึกษาชายให้ช่วยเพื่อนป้องกันเอดส์ส่งผลดีต่อการพัฒนาตนเองด้วย
ดังนั้นสถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาดังกล่าวจึงควรนำการฝึกอบรมรูปแบบดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ โดยอาจผนวกเข้าไปในวิชาเรียนหรือกิจกรรมนอกหลักสูตร เพื่อให้เยาวชนมีจิตใจเข้มแข็งและลดพฤติกรรมเสี่ยงอันอาจนำไปสู่การติดเชื้อเอดส์ ที่สำคัญคือ ในกระบวนการฝึกอบรมควรให้เยาวชนที่เป็นผู้นำกลุ่มได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วยเพราะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยอาศัยเพื่อน
วัยเดียวกันเป็นแกนนำจะได้ผลดีกว่าผู้ใหญ่--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ