ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท “บ. โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย)” ที่ระดับ “AAA/Stable”

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 30, 2013 16:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--ทริสเรทติ้ง ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT หรือ ผู้ออกหุ้นกู้) ภายใต้โครงการ Medium-term Debenture มูลค่าไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ที่ระดับ “AAA” พร้อมกันนี้ทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันภายใต้โครงการ Medium-term Debenture ในวงเงินรวม 40,000ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “AAA” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของบริษัทมูลค่ารวม 40,000 ล้านบาทภายใต้โครงการ Short-term Debenture 1/2555 และ 2/2555 ที่ระดับ “T1+” ด้วย โดยแนวโน้มยังคง “stable” หรือ “คงที่” หุ้นกู้ทั้งหมดของบริษัทโตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ได้รับการค้ำประกันโดย Toyota Motor Finance (Netherlands) B.V. (TMF หรือ ผู้ค้ำประกัน) โดย TMF เป็นบริษัทลูกของ Toyota Financial Service Corporation (TFS) ที่ถือหุ้น 100% โดย Toyota Motor Corporation (TMC) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มโตโยต้า บริษัททั้ง 3 แห่งคือ TMF, TFS, และ TMC ได้รับการจัดอันดับเครดิตระดับ “AA-” จาก Standard & Poor’s และระดับ “Aa3” จาก Moody’s Investors Service (Moody’s) รวมทั้งได้รับการจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะสั้นที่ระดับ “A-1+” จาก Standard & Poor’s และ “P-1” จาก Moody’s ด้วย อันดับเครดิตหุ้นกู้ระยะสั้นและระยะปานกลางของ TLT สะท้อนถึงการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้โดย TMF ซึ่งอันดับเครดิตของ TMF อยู่บนพื้นฐานของสถานะอันดับเครดิตของ TMC ภายใต้โครงสร้างการค้ำประกันดังกล่าว TMC ได้ทำสัญญาให้การสนับสนุนสินเชื่อ (Credit Support Agreement - CSA) กับ TFS ในขณะเดียวกัน TFS ก็ได้ทำสัญญา CSA กับ TMF ด้วยเช่นกัน ภายใต้เงื่อนไขของสัญญา CSA ดังกล่าว TMC จะทำหน้าที่รักษาสภาพคล่องทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เพียงพอสำหรับรองรับภาระหนี้หุ้นกู้ หรือพันธบัตร และตราสารทางการเงิน (Commercial Paper) อื่น ๆ ของบริษัทลูกซึ่งได้แก่ TFS และ TMF นอกจากนี้ TMC จะเป็นผู้จัดหาสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอสำหรับเงื่อนไขการค้ำประกันของ TMF ด้วย ทั้งนี้ การค้ำประกันของ TMF บังคับใช้ภายใต้กฎหมายของประเทศเนเธอร์แลนด์โดยเป็นการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้ ซึ่งผู้ค้ำประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบในการชำระเงินตามกำหนดเวลาของหุ้นกู้แต่ละชุดที่ออกให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ของ TLT ทั้งนี้ ภาระการค้ำประกันของ TMF มีสถานะทางกฎหมายอยู่ในระดับเดียวกับตราสารหนี้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิอื่น ๆ ของผู้ค้ำประกันที่ออกทั้งในปัจจุบันและในอนาคต อีกทั้งยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือเพิกถอนโดยปราศจากการยินยอมทั้งจากตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้และผู้ค้ำประกันได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ค้ำประกันไม่มีภาระในการชำระหนี้ใดใดแทนในกรณีที่ผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถชำระหนี้ด้วยเหตุอันเกิดจากการเข้าแทรกแซงหรือการกระทำต่าง ๆ โดยองค์กรใดใด ของรัฐบาลไทย ดังนี้ (1) ชะงักการชำระเงินเนื่องจากผู้ออก หุ้นกู้ไม่สามารถโอนเงินไปให้นายทะเบียน หรือผู้ถือหุ้นกู้ หรือไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นสกุลเงินที่ต้องชำระตามหุ้นกู้ (2) ทำให้ต้องมีการโอนการถือหุ้นข้างมากหรือการควบคุมผู้ออกหุ้นกู้ไปยังองค์กรอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกของกลุ่ม โตโยต้า (3) การเวนคืนหรือการโอนซึ่งทรัพย์สินของผู้ออกหุ้นกู้ให้เป็นของรัฐซึ่งมีมูลค่ารวมอย่างน้อย 10% ของมูลค่าสุทธิของสินเชื่อเช่าซื้อสุทธิของผู้ออกหุ้นกู้และบริษัทลูกของผู้ออกหุ้นกู้ และ (4) การเวนคืนหรือการโอนทรัพย์สินให้เป็นของรัฐอันมีผลทำให้ผู้ออกหุ้นกู้และบริษัทลูกของผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเห็นว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวมีน้อยมาก แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความน่าเชื่อถือของบริษัทแม่ลำดับสุดท้ายของ TLT คือ TMC ซึ่งมีสถานะที่เข้มแข็งในตลาดการค้าสำคัญแม้ว่าจะอ่อนตัวลงจากผลกระทบของปัญหาด้านคุณภาพสินค้ารถยนต์ รวมถึงเหตุ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ 2 เหตุการณ์ในปี 2554 โดยความเข้มแข็งดังกล่าวเกิดจากการขยายขอบเขตธุรกิจสู่ภูมิภาคต่าง ๆ และการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า ปัจจุบัน TMC ได้รับแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” ทั้งจาก Standard & Poor’s และ Moody’s ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลในผลกระทบจากแผ่นดินไหวและอุปสรรคต่าง ๆ ที่อาจกระทบต่อผลประกอบการของ TMC รวมถึงความกังวลต่อการสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดและสถานะทางการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตในปัจจุบันที่ระดับ “AA-” ซึ่งจัดโดย Standard & Poor’s และ “Aa3” โดย Moody’s ยังคงสะท้อนสถานะเครดิตที่แข็งแกร่งของ TMC เมื่อเทียบกับบริษัทต่าง ๆ ในประเทศไทยที่ได้รับอันดับเครดิตในระดับ National Scale ที่ “AAA” จากทริสเรทติ้ง ยอดการผลิตและยอดขายรถยนต์ของ TMC ในรอบปีบัญชี 2555 ยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับรอบปีบัญชี 2554 โดย TMC มียอดการผลิตรวมในรอบปีบัญชี 2555 ที่ 7.435 ล้านคัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.7% จาก 7.169 ล้านคันที่ผลิตได้ในรอบปีบัญชี 2554 ในขณะที่ยอดขายรวมในรอบปีบัญชี 2555 อยู่ที่ 7.352 ล้านคัน ใกล้เคียงกับยอดขายจำนวน 7.308 ล้านคันในรอบปีบัญชี 2554 ยอดการผลิตและยอดขายของบริษัทฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในครึ่งแรกของรอบปีบัญชี 2556 โดยบริษัทมียอดการผลิต 4.400 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 43.2% จากช่วงเวลาเดียวกันของรอบปีบัญชีก่อนหน้า และมียอดขาย 4.516 ล้านคันเพิ่มขึ้น 49.2% จากช่วงเวลาเดียวกันของรอบปีบัญชีก่อนหน้า กำไรจากการดำเนินงานของ TMC ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจาก 75.4 พันล้านเยนในไตรมาสที่ 2 ของรอบปีบัญชี 2555 (กรกฎาคม 2554 - กันยายน 2554) เป็น 149.6 พันล้านเยน และ 238.5 พันล้านเยนในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของรอบปีบัญชี 2555 กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 353.1 พันล้านเยนในไตรมาสแรกของรอบปีบัญชี 2556 และลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 340.6 พันล้านเยนในไตรมาสที่ 2 ของรอบปีบัญชี 2556 อย่างไรก็ตาม กำไรจากการดำเนินงานปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากที่ระดับ 693.7 พันล้านเยนในครึ่งแรกของรอบปีบัญชี 2556 เทียบจากขาดทุนจากการดำเนินงาน 32.6 พันล้านเยนในช่วงเวลาเดียวกันของรอบปีบัญชี 2555 อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของ TMC ก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยปรับเพิ่มขึ้นจาก -0.4% สำหรับครึ่งแรกของรอบปีบัญชี 2555 และ 1.9% สำหรับรอบปีบัญชี 2555 เป็น 6.4% สำหรับครึ่งแรกของรอบปีบัญชี 2556 TMC คาดว่าผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้นในรอบปีบัญชี 2556 เนื่องจากมียอดความต้องการคงค้างที่ยังไม่ได้ส่งมอบและบริษัทจะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกวางจำหน่าย ผลประกอบการทางด้านการเงินก็คาดว่าจะปรับดีขึ้นจากการลดต้นทุน อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินเยนยังคงกดดันผลประกอบการของบริษัท บริษัทมีสถานะทางการตลาดและการแข่งขันทีเข้มแข็งซึ่งได้รับแรงหนุนจากตลาดและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและกระจายตัวตลอดจนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี และความเสี่ยงทางการเงินในระดับต่ำ บริษัท โตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT) อันดับเครดิตตราสารหนี้: หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงิน 40,000 ล้านบาท ในโครงการ Medium-term Debenture: - TLT134A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,150 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 AAA - TLT136A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 AAA - TLT138A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 AAA - TLT139A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,750 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 AAA - TLT13OA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,250 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 AAA - TLT13DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 AAA - TLT145A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 AAA - TLT146A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 AAA - TLT149A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,050 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 AAA - TLT14DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 AAA - หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2561 AAA หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 20,000 ล้านบาท ในโครงการ Short-term Debenture (1/2555) T1+ หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 20,000 ล้านบาท ในโครงการ Short-term Debenture (2/2555) T1+ แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ