ศศินทร์ชูจุดเด่นหลักสูตรบริหารธุรกิจสำหรับผู้บริหาร (EMBA) ย้ำถึงเวลาผู้นำองค์กรเพิ่มความรู้รับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ

ข่าวทั่วไป Tuesday February 12, 2013 15:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--ศศินทร์ ศศินทร์โชว์หลักสูตรบริหารธุรกิจสำหรับผู้บริหาร (SASIN EMBA) ย้ำถึงเวลาที่ผู้บริหารทั้งระดับกลางและระดับสูงปรับพื้นฐานความรู้และพัฒนาตนเอง รับการเปลี่ยนแปลงของการดำเนินธุรกิจทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ เผยการศึกษาต่อที่ศศินทร์ เปรียบเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เนื่องจากเป็นหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และได้เรียนกับคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งชาวไทยและจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ ทั้งยังสามารถผ่อนชำระค่าเรียนจากธนาคารธนชาตตลอดหลักสูตร ดร.สาโรจน์ พรประภา หัวหน้าหลักสูตรบริหารธุรกิจสำหรับผู้บริหาร (SASIN EMBA) สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin) เปิดเผยถึงรายละเอียดของหลักสูตรบริหารธุรกิจสำหรับผู้บริหาร ว่ามีเนื้อหาที่ให้ความรู้กับผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงขององค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้มีโอกาสเรียนรู้สาขาวิชาบริหารธุรกิจในมุมมองของผู้บริหาร เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติของการดำเนินธุรกิจ โดยผู้สมัครจะจบการศึกษาสาขาใดก็ได้ ขอให้รักการเรียนรู้และพร้อมจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทำงานที่ไม่น้อยกว่า 5 ปี ทั้งนี้ ผู้เรียนสามารถนำความรู้จากคณาจารย์นานาชาติและประสบการณ์จากเพื่อนร่วมชั้น ไปต่อยอดในการทำงานได้จริง เนื่องจาก จุดเด่นและความพิเศษของหลักสูตรนี้ คือมุ่งเฉพาะสิ่งจำเป็นสำหรับผู้บริหารผู้มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเจริญแก่องค์กรที่สังกัดอยู่ กล่าวคือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ปรับฐานความรู้ให้สอดคล้องกับระบบธุรกิจในประเทศไทยและในระดับสากล ได้เรียนรู้หลักในการตัดสินใจและการประเมินสถานการณ์ ตลอดจนจิตวิทยาการบริหารและการปกครองฯลฯ เนื่องด้วยสถาบันฯ ศศินทร์ได้ปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้ทันสมัยและตอบสนองต่อความต้องการของภาคธุรกิจอยู่ตลอดเวลา มีการเปิดสอนสาขาวิชาใหม่ๆ อาทิเช่น แนวทางการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน หรือการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการดำเนินธุรกิจแบบครอบครัว (Family Business) สำหรับรูปแบบการเรียนการสอนนั้นเป็นหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก เพราะเรามีคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิและมีความเป็นเลิศทางวิชาการ ทั้งอาจารย์ประจำของศศินทร์และคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศ รวมทั้งได้เชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ผู้นำทางความคิดของสังคมไทยและนานาชาติ และศิษย์เก่าของศศินทร์มาบรรยาย ทำให้หลักสูตรมีความเข้มข้นมาก “ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา ศศินทร์ได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาบันการศึกษาที่ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพสูงของประเทศ ทั้งนี้ มิได้หมายความว่าจะมีแต่ผู้ที่เรียนเก่งหรือสอบได้คะแนนดีมาเรียนเท่านั้น แต่ได้เปิดกว้างสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานเป็นปัจจัยหลัก เพื่อให้สามารถคิดและวิเคราะห์กรณีศึกษาให้เกิดมุมมองที่แตกต่างกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน ดังนั้น ผู้ที่มาเรียนคือผู้ที่รักความก้าวหน้าและเปิดโอกาสให้ตนเองได้ปรับพื้นฐานความรู้เพื่ออนาคตที่สดใสและประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ จึงเปรียบเทียบได้ว่าการเรียนที่ศศินทร์เป็นเสมือนการลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการทำงานหรือส่วนตัว” ดร.สาโรจน์กล่าว และเปิดเผยเพิ่มเติมว่า การเรียนการสอนนั้นจะนำกรณีศึกษาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงมาใช้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง โดยนิสิตจะได้มีโอกาสออกไปทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้และเกิดทักษะใหม่ ๆ ในการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกองค์กร ดร.สาโรจน์ กล่าวถึงจุดแข็งของสถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ว่า ปัจจุบันเรามีเครือข่ายของศิษย์เก่าที่กระจายอยู่ในทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐบาลหรือเอกชน ทำให้ผู้เรียนพัฒนาความรู้ทางวิชาการควบคู่ไปกับการทำความรู้จักและสร้างเครือข่ายบนพื้นฐานของมิตรภาพ ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่อการสร้างศักยภาพการแข่งขันในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาอาจมีคนเข้าใจผิดและคิดไปเองว่าไม่มีคุณสมบัติที่ดีพอจะเข้าเรียนที่ศศินทร์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเราเปิดโอกาสให้ทุกคน แม้แต่เรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียน ศศินทร์ได้ร่วมมือกับธนาคารธนชาตเสนอแผนการเงินเพื่อการศึกษาให้สามารถผ่อนชำระค่าเล่าเรียนได้ เพราะเล็งเห็นว่าการเรียนคือการลงทุนเพื่ออนาคตที่คุ้มค่าและปลอดความเสี่ยง เนื่องจากสิ่งที่ได้คือความรู้ที่นำไปใช้ในการทำงาน และมิตรภาพแม้จะจบการศึกษาไปแล้วก็ตาม
แท็ก SAS  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ