โกลเบล็ก ชี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้ ลุ้นแตะ1,700 จุด แนะจับตากลุ่มรับเหมาฯ — แบงก์ — สื่อสาร - อสังหาฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 13, 2013 13:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บล.โกลเบล็ก คาดดัชนี ตลาดหุ้นไทยปี2556 แตะ1,700 จุด ลุ้นครึ่งปีแรก อาจเห็นดัชนี 1,550 จุด ด้าน กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน “ จักรกริช เจริญเมธาชัย” มอง มาตรการภาครัฐ ยังคงหนุนภาคการลงทุนในประเทศได้ต่อเนื่อง แนะลงทุน กลุ่มวัสดุก่อสร้าง-กลุ่มรับเหมาฯ-กลุ่มแบงก์พาณิชย์-กลุ่มอสังหาฯ และ กลุ่มสื่อสาร พร้อมเตือนนักลงทุนควรลงทุนอย่างระมัดระวัง ชี้ปรับพอร์ตลงทุนในหุ้นเพียง25% เหตุ ปัจจัยต่างประเทศผันผวน นายจักรกริช เจริญเมธาชัย กรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้คาดว่าจะสามารถแตะที่ระดับ 1,700 จุด จากปริมาณเงินในระบบที่เพิ่มขึ้น 5 เท่าจากมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินจาก ECB, BOJ, FED โดยในครึ่งปีแรกเชื่อว่า ดัชนีจะอยู่ในกรอบดัชนี 1,450 — 1,550 จุดได้ โดยตลาดเผชิญแรงขายหลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องรับ Fund Flows ที่ไหลเข้ามาในเอเชียแล้วในระดับสูง แต่ Downside Risk ถูกจำกัดจาก Trigger Funds ที่คอยซื้อหุ้นเมื่อดัชนีปรับตัวลง ทั้งนี้มองว่าตลาดหุ้นไทย ยังคงมีปัจจัยบวกในเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาล อาทิ มาตรการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานกว่า 2.3 ล้านล้านบาท ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มที่น่าจะได้รับอานิสงค์ดังกล่าว คือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง พร้อมทั้งยังคงให้น้ำหนักหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และ กลุ่มสื่อสาร ด้วยเช่นเดียวกัน ประกอบกับ ทิศทางเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศยุโรป ปรับตัวผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว “ เรามองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีแรกมีโอกาสแตะระดับ 1,550 จุด เพราะมีหลายปัจจัยบวกสนับสนุนให้ดัชนีราคาหุ้นขยับตัวสูงขึ้น อีกทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวดีขึ้น ด้วยแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ขณะที่ปัจจัยหลักในการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแผนการลงทุนภาครัฐ ที่ส่งผลให้กลุ่มวัสดุก่อสร้างได้รับอานิสงค์ตาม ” นายจักรกริช กล่าว อย่างไรก็ตาม สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้นักลงทุนปรับพอร์ตการลงทุนในหุ้น 25% ขาย CK, ITD แล้วเปลี่ยนตัวเข้า STEC, UNIQ ถือ CNT ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นไทยในขณะนี้มีการแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ประกอบกับระยะสั้นยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน ในขณะเดียวกันสถานการณ์ทางการเมือง ก็ยังคงเป็นปัจจัยที่ยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หากมีปัจจัยอะไรเข้ามาเป็นตัวกระทบต่อตลาดหุ้นไทย และค่าเงินบาท เชื่อว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม และ ภาคการส่งออก อย่างแน่นอน เลือก KSL, AMATA, BGH เป็น Top Picks ประจำเดือน ก.พ.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ