กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--ก.ล.ต.
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับตลาดทุนเห็นชอบการแก้ไขเกณฑ์โฆษณาและส่งเสริมการขายสำหรับผู้ประกอบธุรกิจทุกประเภทให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้การตัดสินใจของผู้ลงทุนอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจและข้อมูลที่เพียงพอ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับลักษณะ เงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทน และความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์และบริการ ไม่ใช่การถูกโน้มน้าวและจูงใจด้วยของสมนาคุณ โดยหลักเกณฑ์ที่ปรับใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ภายในไตรมาส 1 ปี 2556
“ที่ผ่านมาภายใต้การแข่งขันที่สูงขึ้น กลยุทธ์การโฆษณาและส่งเสริมการขายส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ข้อมูลของผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการเงินที่ผู้ลงทุนควรทราบอย่างเพียงพอ แต่เป็นการเร่งรัดให้ผู้ลงทุนใช้บริการหรือตัดสินใจลงทุนโดยมีของสมนาคุณเป็นสิ่งล่อใจ ในการนี้ จึงกำหนดให้การโฆษณาต้องให้ความสำคัญกับข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจของลูกค้า สื่อสารอย่างชัดเจน โดยต้องไม่เป็นเท็จ เกินความจริง ทำให้เข้าใจผิด หรือปกปิดข้อมูลสำคัญ ต้องไม่มีลักษณะเร่งรัดให้ตัดสินใจใช้บริการหรือตัดสินใจลงทุนไม่ชี้นำหรือประกันผลตอบแทนที่จะได้รับ การโฆษณาจัดรายการส่งเสริมการขายต้องมีข้อมูลของผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่เสนอขายเป็นเนื้อหาหลัก หากจะอ้างอิงแหล่งข้อมูล ต้องน่าเชื่อถือและชัดเจนและถ้ามีการแต่งตั้งบุคคลอื่นเป็นผู้จัดทำโฆษณาร่วมจะต้องควบคุมดูแลให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดด้วย
ในส่วนที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการขาย ต้องไม่จูงใจหรือเร่งรัดให้ผู้ลงทุนตัดสินใจใช้บริการหรือลงทุนในผลิตภัณฑ์โดยไม่คำนึงถึงข้อมูลพื้นฐาน และไม่ใช้วิธีการจับฉลากชิงโชคเนื่องจากอาจเป็นแรงจูงใจให้ผู้ลงทุนลงทุนหรือใช้บริการเกินความจำเป็น เป็นต้น
เกณฑ์โฆษณาและส่งเสริมการขายที่ปรับนี้จะครอบคลุมธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ผลิตภัณฑ์และการให้บริการทางการเงินประเภทอื่น เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจทุกประเภทในตลาดทุนใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันหากผู้ประกอบธุรกิจไม่ปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด ก.ล.ต. มีอำนาจสั่งให้หยุดการโฆษณา ยุติการส่งเสริมการขาย แก้ไขข้อมูลในการโฆษณาหรือการส่งเสริมการขาย ชี้แจงให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้อง และอาจกำหนดให้การโฆษณาหรือการส่งเสริมการขายของผู้ประกอบธุรกิจต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ก่อนก็ได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบธุรกิจต้องปฏิบัติตามแนวทางการโฆษณาหรือส่งเสริมการขายที่สมาคมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักทรัพย์ ได้แก่ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ได้กำหนดขึ้นและได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. แล้วด้วย”