อาวียองซ์ต้อนรับ ปารณีย์ — ทัศน์พล บู้หลง REBA รหัสใหม่ล่าสุด เผยความสำเร็จที่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสทองของชีวิตในงาน U — Success Day คุณทำได้...เราทำได้

ข่าวทั่วไป Thursday February 21, 2013 17:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ อบอวลไปด้วยความรักทั่วทั้งงาน U — Success Day คุณทำได้...เราทำได้ ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2013 และยังจัดขึ้นในเดือนแห่งความรักที่ สุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร — อาวียองซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด สาวเก่งผู้อยู่เบื้องหลังความเกรียงไกร แบรนด์ความงามระดับพรีเมี่ยม “อาวียองซ์” (aviance) ตั้งใจจัดขึ้นเพื่อต้อนรับคู่รักคนเก่ง ปารณีย์ — ทัศน์พล บู้หลง ที่ฟันฝ่าอุปสรรคพลิกวิกฤตเป็นโอกาสทองบนเส้นทางธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ จนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง Regional Executive Business Associate ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในงาน ร่วมด้วยเหล่าสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจที่ได้รับตำแหน่งตั้งแต่ระดับ Senior Business Associate กว่า 500 รหัส พร้อมทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าร่วมงานได้ทดลองสัมผัสกับกล้องวิเคราะห์ผิวและผม “อาวียองซ์ ไมโครพอด” (aviance microPOD) ที่พกพาสะดวก สามารถตรวจวิเคราะห์ผิวและผมได้ทุกที่ทุกเวลา ณ หอประชุมมหิศร ไทยพาณิชย์ ปาร์ค พลาซ่า สุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร — อาวียองซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เผยว่า “เป็นอีกครั้งที่เราชาวอาวียองซ์รู้สึกภูมิใจ ยูนิลีเวอร์ภูมิใจ และเชื่อว่าถ้าลอร์ดลีเวอร์ยังมีชีวิตอยู่ ท่านต้องภูมิใจเช่นกัน ต้องบอกว่าอาวียองซ์ได้เริ่มต้นปี 2013 ดีมากๆ ด้วยผลงานที่ดี และเรายังได้มีโอกาสต้อนรับ REBA รหัสล่าสุดคือคุณปารณีย์และ คุณทัศน์พล บู้หลง และในอนาคตอันใกล้เราก็กำลังจะมี REBA เพิ่มขึ้นอีก คือคุณไพโรจน์ ดิลกพัฒนมงคล ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันและตอกย้ำว่าทุกท่านที่มาร่วมงานในครั้งนี้ก็สามารถทำได้ ถ้าเราทำตามอัพไลน์ เราก็สามารถประสพความสำเร็จเหมือนเช่นผู้ร่วมธุรกิจเหล่านี้ได้ เมื่อเขาทำได้เราก็ทำได้เช่นกัน ดังนั้นกลยุทธ์ปี 2013 เราจะก้าวไปในความสำเร็จด้วยกันอย่างไร ปีนี้เราจะมีนวัตกรรมสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง และยังคงความเป็นสุดยอดตลอดทั้งปี รวมถึงการทำงานของผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายที่มีทั้งแบบรูปธรรมและนามธรรม การที่เหล่าสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจสามารถชักชวนคนให้เข้ามาร่วมฟังการสัมมนาต่างๆ ที่ทาง อาวียองซ์จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นการแสดงให้เห็นถึงการทำงานที่เป็นรูปธรรม แล้วการทำงานที่เป็นนามธรรมคืออะไร คือการทำงานที่ทำร่วมกัน เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ร่วมกัน การที่ผู้ร่วมธุรกิจชักชวนให้ท่านเข้ามาทำธุรกิจร่วมกันนั้น แสดงว่าผู้ร่วมธุรกิจได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของท่านที่สามารถสร้างความยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน เพียงแค่ท่านเริ่มต้นลงมือทำ ทำตามระบบ รวมตัวกันและช่วยกันสร้างผลงาน เพราะพลังของการทำงานร่วมกันมันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่มหาศาล และผลลัพธ์ที่ได้คือความยิ่งใหญ่ที่ท่านอาจคาดไม่ถึง” ภายในงานยังได้รับเกียรติจากสาวเก่ง อรอนงค์ ศิริวาณิชย์ Regional Executive Business Associate มาร่วมปลุกพลังเพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่อาวียองซ์ว่า “ทุกท่านเชื่อเหมือนดิฉันไหมค่ะว่าเราทุกคนนั้นมียักษ์ที่ซ่อนอยู่ในตัว เพียงแต่เราไม่เคยปลุกยักษ์ในตัวให้ออกมา ดังนั้นธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์จะเป็นธุรกิจที่ทำให้เราได้ปลุกยักษ์ในตัวที่ซ่อนอยู่ ได้ปลดปล่อยศักยภาพในด้านดีของเราออกมา และศักยภาพนี้เองที่จะเป็นสิ่งที่ช่วยตอบโจทย์ความฝัน ความต้องการทุกๆ อย่าง ที่เราตั้งเป้าหมายไว้ ดิฉันเชื่อว่าทุกท่านที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ท่านมาถูกที่และถูกเวลาที่จะปลดล็อคตัวเอง หลายคนอาจยังสงสัยว่าจะทำได้จริงหรือ แต่อาวียองซ์เชื่อว่าทุกท่านทำได้ เพียงทุกท่าน Show the Plan Share the Product วันละ 3 ครั้ง ทำทุกวัน ให้ดาวน์ไลน์มาร่วมช่วยกันทำ ยิ่งขยันทำ ทำมากเท่าไร ก็เหมือนเราได้บอกกล่าวสิ่งดีๆ ผลิตภัณฑ์คุณภาพดีๆ ออกไปให้คนที่ยังไม่เคยได้ลองสัมผัส ดิฉันเชื่อว่าถ้าทุกท่านช่วยกันทำ คนเหล่านั้นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในด้านดีๆ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน” กระทั่งบรรยากาศแห่งความสำเร็จได้เริ่มขึ้น เมื่อขบวนพาเหรดตั้งแถวเดินเรียงรายพร้อมธง U — Success Day โบกสะบัดต้อนรับ Regional Executive Business Associate รหัสใหม่ล่าสุด ปารณีย์ - ทัศน์พล บู้หลง ที่มาเผยความรู้สึกแห่งความสำเร็จในครั้งนี้ทั้งน้ำตาว่า “ดิฉันเดินเข้าสู่ธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์นี้เพราะรายได้ที่มีไม่พอใช้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ 2 ปี ดิฉันหันหลังและปฏิเสธธุรกิจนี้จากเพื่อนรักมาโดยตลอด กระทั่งวันที่ดิฉันคลอดลูกสาวและเพื่อนที่ชักชวนให้รู้จักกับธุรกิจเครือข่ายนี้ได้มาเยี่ยม ดิฉันได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเขาที่ดูดีขึ้น มีรถยนต์ป้ายแดงขับ พร้อมกับรายได้เดือนละ 70,000 บาท ดิฉันจึงเริ่มสนใจและสมัครด้วยเงิน 600 บาท ในขณะที่สามีดิฉันซึ่งเป็นตำรวจไม่เปิดใจยอมรับในธุรกิจนี้ ดิฉันพยายามอธิบายเหตุผลแต่ก็ไม่สำเร็จ ดิฉันจึงต้องแอบทำ ในเวลานั้นเพื่อนดิฉันที่เป็นอัพไลน์ถามว่าดิฉันต้องการรายได้เพิ่มขึ้นเท่าไร เวลานั้นดิฉันบอก 15,000 บาท ก็พอใจแล้ว เพราะเงินเดือนงานประจำของดิฉัน 13,000 บาทเท่านั้น เดือนแรกที่ดิฉันทำ เงินก้อนแรกจากอาวียองซ์ 4,000 กว่าบาท หลายคนอาจมองว่ามันเล็กน้อย แต่สำหรับดิฉันมันซื้อนมซื้อแพมเพอร์สให้ลูกสาวได้ เดือนที่ 2 รับรายได้ที่ 7,000 กว่าบาท กระทั่งเดือนที่ 3 ดิฉันก็ได้รายได้ที่ 15,000 บาทตามที่ตั้งใจไว้ พร้อมกับเอาสลิปสเตทเมนท์ให้สามีดู เขาถึงเข้าใจ แต่แล้วจุดเปลี่ยนของชีวิตก็เกิดขึ้น เมื่อสามีดิฉันโดนลอบยิง 8 นัด ผู้หญิงอายุ 24 ปี ที่มีลูกวัย 11 เดือน และสามีโดนยิง 8 นัด นอนผ่าตัดในห้อง I.C.U. คิดว่าจะทำยังไงทันที ดิฉันบอกสามีที่ข้างเตียงว่า ดิฉันอาจจะเป็นภรรยาที่ไม่ได้ดูแล แต่เป็นภรรยาที่กำลังจะออกไปทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กลับเข้ามา 1 ปีที่สามีนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลและ 1 ปีกับความอดทนที่ดิฉันต้องเป็นผู้นำครอบครัว ขับรถจากบางมด 7 โมงเช้าไปทำงานที่รามอินทรา เลิกงานมาที่ SCB เพื่อมาพบกับดาวน์ไลน์เพื่อคุยธุรกิจจนถึง 3 ทุ่ม บางครั้งนั่งกินข้าวกล่องในรถ ร้องไห้ในรถ กลับไปหาสามีที่โรงพยาบาลตอนเที่ยงคืนก็ไปนั่งร้องไห้ข้างเตียงสามีเงียบๆ คนเดียว แม้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงดิฉันที่ไม่ดีต่างๆ นานา แต่ดิฉันไม่สนใจ กระทั่งตุลาคม 2550 ดิฉันตัดสินใจลาออกจากงานประจำด้วยแรงยุของอัพไลน์ที่บอกว่า ดิฉันสามารถสร้างรายได้ที่มากกว่านี้ แม้เวลานั้นดิฉันรับรายได้จากอาวียองซ์ประมาณ 30,000 บาท ในวันที่สลิปสเตทเมนท์แรกหลังจากลาออกจากงานประจำมาส่งที่บ้าน วันนั้นบ้านเราโดนตัดไฟฟ้า ดิฉันกำสลิปที่ยังไม่กล้าแม้จะเปิดดูไปการไฟฟ้าเพื่อไปทำเรื่องจ่ายค่าไฟ กลับมาที่รถดิฉันตัดสินใจเปิดดูและก็ต้องร้องไห้โฮด้วยความดีใจ เพราะในสลิปนั้นแจ้งว่าดิฉันรับรายได้ที่เป็นตัวเลข 6 หลัก ดิฉันตัดสินใจซื้อบ้านให้สามีอยู่ทันที ก่อนที่สามีจะออกจากโรงพยาบาล เพราะไม่ต้องการให้สามีอาศัยอยู่บ้านพักข้าราชการ และโดนแอบมองจากคนรอบข้างที่สามีดิฉันต้องเป็นอัมพฤกษ์ช่วงล่างจากการโดนลอบยิง ธุรกิจนี้จึงเติมเต็มฝันให้ดิฉันมีบ้าน ได้เดินทางไปต่างประเทศ ที่ใช่แค่แต่เราที่เดินทาง แต่เรายังสามารถพาคนที่รัก ครอบครัวพ่อแม่พี่น้องร่วมเดินทางไปกับเราด้วย และยังเป็นทริปที่สุดเอ็กซ์คลูซีฟจริงๆ และธุรกิจนี้ที่ยังทำให้ดิฉันมีรถยนต์ขับ จากเมื่อก่อนขับรถยนต์เก่าๆ แต่เวลานี้ดิฉันได้เป็นเจ้าของรถยนต์คันหรูจากยุโรป หลายครั้งที่ดิฉันมักจะบอกกับดาวน์ไลน์เสมอว่า อย่ามองว่าดิฉันขับรถอะไร แต่ให้มองว่าดิฉันต้องแลกกับอะไรบ้างถึงมีวันนี้” ด้านสามี ทัศน์พล บู้หลง เผยว่า “หลายคนอาจมองว่าการที่ผมโดนยิง ทำให้ครอบครัวผมเกิดวิกฤต แต่ครอบครัวผมกลับมองว่ามันเป็นโอกาสที่ทำให้พบกับความสำเร็จ ถ้าผมไม่โดนยิงผมก็คงไม่เปิดใจยอมรับธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ ตำแหน่ง REBA ที่ได้รับในครั้งนี้เป็นตำแหน่งที่ 8 จาก 9 ตำแหน่งที่ครอบครัวเราใช้เวลาทำธุรกิจเพียง 6 ปี ในขณะที่ตำแหน่งทางราชการ ผมเป็นตำรวจมา 18 ปี แต่ได้ปรับตำแหน่งเลื่อนขั้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นจนจบอาชีพข้าราชการเพราะถูกยิง ผมยังมองว่าครอบครัวเราเริ่มสตาร์ทการทำธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ด้วยต้นทุนที่น้อยกว่าคนอื่น แต่มันทำให้เราแข็งแกร่งกว่าคนอื่น จริงอยู่ผมเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็น หลายคนมองว่ามันเป็นอุปสรรค แต่สำหรับผมผมมีที่นั่งส่วนตัวที่ไม่ต้องไปแย่งเก้าอี้กับใคร หลายคนมีรถขับต้องแย่งกันหาที่จอดรถ แต่รถเข็นของผมมีที่จอดทุกที่ เพราะธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ที่ทำให้วิธีคิดและมุมมองของชีวิตผมเปลี่ยนไป ดังนั้นเมื่อผมและครอบครัวยังทำได้ คุณก็ต้องทำได้เช่นกัน” ความปลาบปลื้มยังไม่หมดลง พร้อมกับเสียงบูม เสียงเชียร์ ที่ดังกึกก้อง กับการแสดงความยินดีในพิธีประดับเข็มเกียรติยศ และพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณในตำแหน่งอื่นๆ โดยก่อนจบงาน U — Success Day ในครั้งนี้ ยังได้ถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกร่วมกัน พร้อมรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และดอกไม้หลากหลายสีจากผู้ที่มาร่วมแสดงความยินดีนับหลายร้อยคน หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.0-2619-0429 ถึง 30 สุจินดา, แสงนภา, ภัควลัญชญ์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ