มาสเตอร์คูล ฉลอง 10 ปี ผู้นำนวัตกรรมความเย็นของไทย ประกาศเดินหน้ารุกตลาดครัวเรือน หลังสร้างฐานแกร่งในภาคอุตสาหกรรม

ข่าวทั่วไป Tuesday February 26, 2013 08:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น มาสเตอร์คูล ฉลอง 10 ปี ผู้นำนวัตกรรมความเย็นของไทยประกาศเดินหน้ารุกตลาดครัวเรือน หลังสร้างฐานแกร่งในภาคอุตสาหกรรม - เปิดตัวสินค้าใหม่ ทางเลือกใหม่ของความเย็นสบาย..โดยไม่ต้องติดแอร์ ย้ำจุดขาย “เย็นจริง ประหยัดจริง ไม่เปียก ไม่ป่วย” - มาสเตอร์คูล ประกาศเจาะทุกกลุ่มตลาดครัวเรือนรับ 10 ปีแห่งการดำเนินธุรกิจ ด้วยการเปิดตัวทัพ สินค้าใหม่เสนอเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าแก่ผู้บริโภคยุคค่าครองชีพพุ่ง พร้อมขยายช่องทางขายผ่าน โฮมโปรและแมคโครทั่วไทย มั่นใจปี 56 กวาดยอดขายกว่า 400 ล้านบาท นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้คิดค้นและพัฒนา นวัตกรรมความเย็นทางเลือกใหม่โดยไม่ต้องติดแอร์ เปิดเผยในโอกาสฉลองครบรอบ 10 ปีแห่งการดำเนินธุรกิจ ว่า มาสเตอร์คูล ถือเป็นผู้คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมความเย็นทางเลือกใหม่เป็นรายแรกของไทยอย่างต่อเนื่อง มาตลอด 10 ปี โดยเริ่มจาก “การคิดค้นนวัตกรรมความเย็นภายนอกอาคาร” จนเป็นกระแสนิยมและกล่าวถึง อย่างมากในยุคเริ่มต้น ทำให้เกิดการเติบโตและการก้าวเข้ามาของแบรนด์ใหม่ๆ ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในยุคแรกผลิตภัณฑ์ของมาสเตอร์คูลยังมุ่งจับกลุ่มตลาดภาคอุตสาหกรรมและเน้นทำความเย็น ภายนอกอาคารเป็นหลัก แต่ด้วยกระแสอุณหภูมิโลกที่ปรับตัวร้อนเพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ในปัจจุบันส่งผลให้ผู้นำธุรกิจอย่าง มาสเตอร์คูล เดินหน้าค้นคว้าวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างทางเลือกใหม่ ของความเย็นที่มีประสิทธิภาพและประหยัดกว่าทางเลือกเดิมๆ ในตลาด ที่สำคัญสามารถใช้ในบ้านได้ เพื่อให้ มาสเตอร์คูลสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งภาคธุรกิจอุตสาหกรรมและภายในครัวเรือน ซึ่งถือเป็นการรุกตลาด B2C ทั้งภายในและภายนอกอาคารอย่างครบวงจร “มาสเตอร์คูล ถือเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมระบบทำความเย็นทางเลือกใหม่รายแรกของประเทศไทย เริ่มจากพัดลม ไอน้ำระบบแรงดันสูงที่ช่วยแก้ปัญหาอากาศร้อนในพื้นที่เปิดได้จริงและทำให้ มาสเตอร์คูล เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากผลประกอบการ 12 ล้านบาทในปีแรก และเติบโตอย่างก้าวกระโดดทะลุหลัก 200 ล้านบาทในเวลาเพียง 10 ปี ไม่เพียงเท่านี้ มาสเตอร์คูล ยังได้ร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเดินหน้าวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการพัฒนาพัดลมไอน้ำและเครื่องสร้างลมเย็นรุ่นใหม่ที่ราคาถูกลงกว่าเดิมอย่างมากเหลือเพียง 6 พันกว่าบาทเท่านั้น สามารถใช้งานง่ายขึ้นในขณะที่ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาก็น้อยลงเช่นกัน ทำให้สามารถขยายธุรกิจสู่ตลาดขนาดเล็กได้กว้างขึ้น” นายนพชัย วีระมาน กล่าวสรุปความสำเร็จที่ผ่านมาของมาสเตอร์คูล ทั้งนี้ มาสเตอร์คูล ถือเป็นแบรนด์ที่มีการพัฒนาสินค้าเสนอสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีข้อจำกัดในการใช้พัดลมไอน้ำ มาสเตอร์คูล จึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสร้างลมเย็น (Evaporative Cooling) ซึ่งเป็นระบบทำความเย็นใช้น้ำไหลผ่านแผ่นแลกเปลี่ยนความร้อนทำให้เกิด ลมเย็น สดชื่น โดยไม่มีละอองน้ำออกมา สามารถทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน มีทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสร้างลมเย็นตั้งแต่ขนาดใหญ่ สำหรับองค์กรธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาอากาศร้อนในสถานที่ที่ไม่สามารถติดแอร์ได้ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้าขนาดใหญ่ ร้านอาหาร เป็นต้น จนถึงเครื่องสร้างลมเย็นขนาดเล็กสำหรับใช้งานในบ้านพักอาศัย ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี มาสเตอร์คูล มุ่งมั่น พัฒนาสินค้าและบริการภายใต้มาตรฐานระดับสากล ทั้งยังให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพบุคลากร และระบบงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้า พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของพนักงาน “ประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับต้องประทับใจ และน่าจดจำ” โดยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา มาสเตอร์คูล ได้รับรางวัลยืนยันคุณภาพสินค้าจากหลากหลายองค์กร ประกอบด้วย มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 934-2533 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ กระทรวงอุตสาหกรรม, มาตรฐานระบบบริหารคุณภาพองค์กร ISO 9001: Version 2000 จาก UKAS, มาตรฐานสากล SAA (The Standards Association of Australia), มาตรฐานด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ROSH เป็นต้น ซึ่งแสดงถึงคุณภาพ ความไว้วางใจ และการพัฒนา อย่างต่อเนื่อง “ในปี 2555 มาสเตอร์คูล สามารถสร้างรายได้รวม 230 ล้านบาท เติบโต 27% จากปี 2554 โดยในปีนี้ จากปัญหาอากาศร้อนที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นและการสำรวจความต้องการของตลาด พบว่า มีความต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อแก้ปัญหาอากาศร้อนสูงมากขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจขนาดเล็ก และกลุ่มลูกค้า บ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียม ที่ไม่ต้องการติดแอร์เนื่องจากภาระค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นอย่างมาก ด้วยความพร้อมทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ ที่สามารถตอบสนองความต้องการได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ทำให้มาสเตอร์คูลวางแผนที่จะผลักดันการตลาดอย่างจริงจังภายใต้สโลแกน “มาสเตอร์คูล ทางเลือกใหม่ของ ความเย็นสบายโดยไม่ต้องติดแอร์” เย็นจริง ประหยัดจริง ไม่เปียก ไม่ป่วย ด้วยงบประมาณกว่า 15 ล้านบาท เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายทุกช่องทาง ถึงทางเลือกใหม่ของความเย็นสบายที่ทำความเย็นได้จริง และประหยัดไฟฟ้ามากกว่าแอร์ถึงกว่า 10 เท่า พร้อมทั้งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านโฮมโปรและแมคโคร รวมถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศไทย และอีกกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยในปี 2556 มีเป้าหมายยอดขายที่ 400 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตที่ 80%” นายนพชัย วีระมาน กล่าวแสดงความเชื่อมั่น ทั้งนี้ ในปี 2556 มาสเตอร์คูล วางแผนเปิดตัวเหล่าสินค้าใหม่เพื่อตอบโจทย์ทุกกลุ่มตลาด ประกอบด้วย เครื่องสร้างลมเย็นขนาดเล็ก รุ่น I-Kool 20EX เคลื่อนย้ายได้สะดวก เหมาะสำหรับบ้าน คอนโดมิเนียม และสถานที่เปิด ที่มีขนาดพื้นที่ไม่เกิน 20 ตรม. จำหน่ายในราคา 6,490 บาท, เครื่องสร้างลมเย็น รุ่น I-Kool 35EX เคลื่อนย้ายได้สะดวก เหมาะสำหรับบ้าน ร้านอาหารคอนโดมิเนียม และสถานที่เปิด ที่มีขนาดพื้นที่ไม่เกิน 30 ตรม. จำหน่ายในราคา 12,500 บาท, พัดลมไอน้ำ Masterkool รุ่น ICE Eco 24 เคลื่อนย้ายได้สะดวก เหมาะสำหรับโรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่เปิด ที่มีขนาดพื้นที่ไม่เกิน 50 ตรม. จำหน่ายในราคา 16,500 บาท และพัดลมไอน้ำ Masterkool รุ่น Wall ICE 24 เหมาะสำหรับติดตั้งในพื้นที่จำกัด และไม่ต้องการเคลื่อนย้าย เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่เปิด ที่มีขนาดพื้นที่ ไม่เกิน 50 ตรม. จำหน่ายในราคา 16,500 บาท เกี่ยวกับมุมมองการเติบโตของธุรกิจทำความเย็นของไทยในปีนี้และในอนาคตอันใกล้นั้น นายนพชัย วีระมาน กล่าวแสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าวว่า “ธุรกิจทำความเย็นจะเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโต อย่างต่อเนื่องนับจากนี้ โดยปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ธุรกิจทำความเย็นเติบโต ประกอบด้วย ปัญหาอากาศร้อนที่ รุนแรงขึ้นทุกปี, ปัญหาค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นมากกว่าในอดีต และเครื่องปรับอากาศก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงาน ไฟฟ้ามากที่สุดในบ้าน ทำให้ลูกค้าต้องแสวงหาทางเลือกใหม่ที่ดีกว่า โดยปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มมีความเข้าใจและยอมรับ ในผลิตภัณฑ์พัดลมไอน้ำและเครื่องสร้างลมเย็นเพิ่มมากขึ้นกว่าที่ผ่านมามาก และด้วยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ เชื่อมั่นว่า จะช่วยผลักดันให้ตลาดสินค้าเพื่อความเย็นมีมูลค่ารวมสูงขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 30% ต่อปีนับจากนี้” นายนพชัย วีระมาน กล่าวสรุป สื่อมวลชนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด โทรศัพท์ 02-951-9119 อีเมลล์: [email protected]

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ