กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,597 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,589 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.76 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 22,500 บาท กับ 22,600 บาท และกลับมาปิดที่ 22,350 บาท กับ 22,450 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 5,600 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 12,962, คู่สัญญา และ Silver Futures ไม่มีการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 6.2% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 8.2% และ Silver Futures ไม่มีการซื้อขาย GFJ13 ปิด 22,590 บาท และ GFM13 ปิด 22,710 บาท GF10J13 ปิดที่ 22,590 บาท GF10M13 ปิดที่ 22,710 บาท SVJ12 ไม่มีการซื้อขาย
สัญญา Comex ปิดร่วงลง 17.6 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,578.1 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 55.3 เซนต์ ที่ระดับ 28.43 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,254.49 ตัน (ขายออก 3.91 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 71 เซนต์ ปิดที่ระดับ 92.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ลดลง 20.88 จุด ปิดที่ 14,054.49 จุด
ข่าวที่สำคัญ
- ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1,600 เหรียญอีกครั้ง จากแรงเทขายของ SPDR ที่มีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ Jobless Claims ออกมาดีขึ้น 22,000 ตำแหน่ง มาอยู่ที่ 344,000 ตำแหน่ง ส่งสัญญาณตลาดแรงงานฟื้นตัวขึ้น เป็นอีกแรงสนับสนุนจากคำกล่าวของนายเบอร์นันเก้ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐจำนวนมากที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้นในปีนี้
- SPDR ขายทองคำออกมาเมื่อวานนี้เป็นวันที่แปดอีก 3.91 ตัน ปัจจุบันคงทองคำที่ระดับ 1,254.49 ตัน ซึ่งเมื่อดูในเดือนที่ผ่านมาพบว่า SPDR ขายทองคำออกในเดือนกุมภาพันธ์ทั้งสิ้น 73.6 ตัน เทียบกับเดือนมกราคมที่ SPDR ขายออกมาเพียง 21.83 ตัน
- สินทรัพย์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับทองคำในกองทุน ETPs ก็ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 2,508.5 ตัน โดยในเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวลดลงถึง 4% มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2008
- ราคาทองคำตลอดเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวลดลง 5% เป็นการลงติดต่อกัน 5 เดือนแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในรอบ 16 ปี
- นายสเตอริง สมิทธ์ นักวิเคราะห์สัญญาฟิวเจอร์สตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จากซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า ราคาทองคำอาจลงไปแตะระดับ 1,400 เหรียญในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ในขณะที่บีเอ็นพี พาริบาส กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ราคาทองคำจะมีค่าเฉลี่ยสูงสุดปีนี้ที่ 1,740 เหรียญในไตรมาส 4
- ความกังวลในเรื่อง Sequester ของสหรัฐยังคงมีอยู่ต่อไป โดยเมื่อวานนี้นายโบห์นเนอร์กล่าวว่า วุฒิสภาพรรคเดโมแครตควรต้องมีการผ่านร่างกฎหมายเพื่อมาแทนที่ Sequester แต่หลังจากที่ลงมติทดสอบ ปรากฎว่าการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวก็ประสบกับความล้มเหลว ส่งผลให้เพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเกิดการตัดลดงบประมาณเริ่มต้นวันนี้
- ในวันนี้นายบารัค โอบามาจะมีการประชุมร่วมกับกลุ่มผู้นำสภาคองเกรสในเรื่องงบประมาณสหรัฐ ซึ่งเทรดเดอร์และนักลงทุนต่างๆ กำลังรู้สึกชินชากับการโต้เถียงกันที่เกิดขึ้นในกรุงวอชิงตัน ดีซี
- นักลงทุนต่างๆ อาจมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างเงินดอลลาร์ เนื่องจากอาจเกิดการตัดลดงบประมาณในสหรัฐที่แยกระหว่างการตัดลดทางทหาร และการตัดลดที่ไม่เกี่ยวกับทางทหาร ซึ่งการตัดลดโดยรวมอย่างเท่าเทียมจะมีมูลค่าทั้งสิ้น 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 9 ปี ซึ่งมีการกำหนดให้การตัดลดงบประมาณมูลค่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในอีก 7 เดือนข้างหน้าจนถึงเดือนกันยายนของปีงบประมาณนี้
- บัญชีงบดุลของเฟดปรับตัวลดลง 4.53 พันล้านดอลลาร์ หรือ 0.15% สู่ระดับ 3.092 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงรายสัปดาห์ครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์
- ทางด้านวิกฤตหนี้ยุโรปที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เกิดความล้มเหลวในการเลือกตั้งอิตาลี ประธาน OECD ได้กล่าวว่า การเลือกตั้งอิตาลีจะไม่ส่งผลกระทบต่อวิกฤตหนี้ยุโรป และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้การประมูลพันธบัตรอิตาลีที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จ และเมื่อวานนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนปรับตัวลดลง จึงเป็นอีกสัญญาณบวกว่าปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปเริ่มทรงตัวอยู่ได้
- ทางด้านสเปน กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ไม่จำเป็นต้องมีมาตรการใหม่มาลดยอดขาดดุลสาธารณะของสเปน หลังจากที่ข้อมูลจีดีพีสเปนปีที่ผ่านมาออกมาดีขึ้นกว่าปีก่อน (เดิม -1.5% ออกมา -1.4%) และนายกรัฐมนตรีสเปนคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสเปนจะกลับมาขยายตัวในครึ่งปีหลัง
นอกจากนี้ การที่นายดรากีออกมากล่าวว่า เขาจะยังคงรักษาสกุลเงินยูโรเอาไว้ต่อไป จึงทำให้ตลาดหุ้นยุโรปโดยส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนที่หนีจากภาคยุโรปมาหาทองคำก่อนหน้านี้ จึงกลับเข้าสู่ตลาดยุโรปอีกครั้ง จึงเป็นอีกปัจจัยลบต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ตลอดสัปดาห์นี้สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง 1%
- นายฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส ออกมากล่าวในเช้านี้ว่า เขาต้องการให้มีการลดขนาดของการใช้มาตรการ QE เนื่องจากตลาดหุ้นถูกขับเคลื่อนโดยนโยบายของเฟด ไม่ได้ถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ในขณะที่นายอีวานส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวว่า เฟดต้องไม่หยุดการผ่อนคลายการเงิน เนื่องจากเป็นการเร็วเกินไปที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Prelim GDP ตัวเลขออกมาที่ 0.1% จากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้วที่ -0.1%
- Unemployment Claims ตัวเลขออกมาที่ 344K จากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้วที่ 362K
- Chicago PMI ตัวเลขออกมาที่ 56.8 จากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้วที่ 55.6
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Personal Spending m/m คาดการณ์จะออกมาที่ 0.2% ตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 0.2%
- ISM Manufacturing PMI คาดการณ์จะออกมาที่ 52.7 ตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 53.1
- Revised UoM Consumer Sentiment คาดการณ์จะออกมาที่ 76.3 ตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 76.3
- Fed Chairman Bernanke Speaks
Gold — ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากที่ไม่มีข่าวอะไรใหม่ในการปราศรัยของนายเบน เบอร์นันเก้ ตลาดยังคงมีแรงเทขาย รวมทั้งภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดีขึ้นบ้างเล็กน้อย ทำให้ราคาทองค่อยๆ ปรับตัวลดลงจนลงไปทำจุดต่ำสุดเมื่อวานในตลาด COMEX ที่ระดับประมาณ 1,576 เหรียญ และดีดกลับมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับประมาณ 1,578.1 เหรียญ เช้านี้เปิดตลาดเคลื่อนตัวที่ระดับประมาณ 1,582 เหรียญ โดยที่ SPDR ยังคงขายทองคำออกมาต่อเนื่องอีก 3.91 ตัน ลดการถือครองทองคำเหลือเพียง 1,254.9 ตัน รวมทั้งกองทุน ETPs เองก็ปรับลดการถือครองจากต้นปีประมาณ 4% ภาพรวม SPDR ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ขายออกมาทั้งสิ้น 95.43 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในเชิงเทคนิคระยะสั้นรายชั่วโมง ระยะกลาง และระยะยาว ราคาทองคำกลับมาเป็นขาลงอีกครั้งหนึ่ง โดยหลักการก็จะย้ำเน้นให้นักลงทุนลงทุนในทิศทางขาลง โดยเน้นการขายก่อนเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นบริเวณแนวต้านต่างๆ โดยที่แนวต้านของราคาทองคำจะอยู่ที่บริเวณ 1,595 เหรียญ และแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,570 เหรียญในระยะรายวัน
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ลงทุนในทิศทางขาลง โดยใช้กลยุทธ์ขายก่อนซื้อทีหลังบริเวณแนวต้านสำคัญระดับรายชั่วโมงจะอยู่ที่บริเวณ 1,590 เหรียญ และซื้อกลับบริเวณ 1,570 เหรียญ
- นักลงทุนถือ Long Position
แนะนำให้ทำการปิด Long Position ลง และปรับกลยุทธ์การลงทุนเป็นทิศทางขาลง เพื่อถือ Short Position หรือปรับพอร์ทให้เป็นศูนย์ การจะทำกำไรกลับมาได้ต้องลงทุนตามแนวโน้มของทิศทางตลาด และเน้นลงทุนเพียงระยะสั้น แนะนำให้เก็งกำไรสั้นๆ ไม่เกิน 3 — 5 วัน
- นักลงทุนที่ถือ Short อยู่แล้ว
ท่านที่ลงทุนในสถานะ Short ก่อนหน้านี้คงจะได้กำไรแล้ว และก็อาจจะทำการซื้อปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ ยังเน้นกลยุทธ์การเพิ่มสถานะ Short Position หรือปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ แนะนำให้ลงทุนแบบสั้นๆ เช่นเดียวกัน
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,450 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,630 บาท
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,580 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,770 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง