ภาพยนตร์โฆษณาชุด “ลดพุง ลุดโรค”

ข่าวทั่วไป Monday March 4, 2013 14:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 มี.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น ภาพยนตร์โฆษณาชุด “ลดพุง ลุดโรค” Creative Synopsis หนังจักรๆวงศ์ๆ ถือเป็นหนึ่งในบริบทที่อยู่กับสังคมไทยมาช้านานเป็นสไตล์ที่คนไทยคุ้นชิน จึงง่ายที่จะเข้าถึงคนไทยส่วนใหญ่ซึ่งเป็นกลุ่มที่ สสส. ต้องการสื่อสารในแคมเปญนี้ สสส.จึงหยิบเอาแม่ยักษ์และลูกยักษ์ ซึ่งเป็นตัวละครหนึ่งในหนังจักรๆวงศ์ๆ ที่คนไทยคุ้นเคย มาเป็นไอเดียในการนำเสนอการสื่อความของแคมเปญ “ลดพุง ลดโรค” ด้วยรสชาติความสนุก ในสไตล์ หนังจักรๆวงศ์ๆ เพื่อสร้างความจดจำ และได้นำข้อมูลในการ “ลดพุง ลดโรค” ไปใช้ให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด Credit ชื่อชุดโฆษณา : "ลดพุง ลดโรค" เอเยนซี่ : โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอ๊ดเวอร์ไทซิ่ง ผู้อำนวยการสร้างสรรค์ : นพดล ศรีเกียรติขจร เด่นชัย คีรีรักษ์ อัศวิน เตชะสกุลศิลป์ ฝ่ายบริหารงานลูกค้า : ภาวิต จิตรกร ภัทศา อัตตนนท์ ฝ่ายควบคุมดูแลงานผลิต: อุรวสี จาตุรงคกุล ผู้ผลิตภาพยนตร์โฆษณา: TONGTA FILM ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณา: รอง ศรลัมพ์ เรื่องย่อภาพยนตร์โฆษณา ลดพุง ลดโรค ณ ริมชายป่า สายๆ วันหนึ่ง ชายหนุ่มซึ่งเป็นตัวแทนของคนไทยที่อ้วนลงพุงกำลัง เดินกินลูกชิ้นทอดอยู่อย่างชิลๆ ไม่สนใจอะไรนอกจากการกิน ทันใดนั้นเองอยู่ๆ ก็มีมือใหญ่โต มโหฬารมาจับตัวเขาลอยขึ้น ทันทีที่เขาได้เห็นว่าเขากำลังเผชิญหน้าอยู่กับยักษ์!! ซึ่งดูเหมือน จะเป็นลูกยักษ์เสียด้วย เขาตกใจร้องออกมาสุดเสียงแต่ลูกยักษ์ไม่สนใจ เอาลิ้นเลียปากแผล่บๆ เตรียมจับคนโยนเข้าปาก แต่ไม่ทันจะได้หม่ำก็มีเสียงแม่ยักษ์ดุมาแต่ไกลด้วยความเป็นห่วงในฐานะแม่นี้เอง แม่ยักษ์จึงสอนลูกยักษ์รู้จักการวัดพุงมนุษย์ก่อนที่จะกิน เพราะมนุษย์ที่อ้วนลงพุงนั้นเต็มไปด้วย ไขมันช่องท้องเปรียบเหมือนอาหารที่มีไขมันมาก ซึ่งอันตรายต่อร่างกายอาจทำให้ไขมัน อุดตันเส้นเลือดได้ ดังนั้น ถ้าเลี่ยงได้ก็ไม่ควรกิน!! ขณะนั้นเองคนอ้วนลงพุงก็พยายามจะวิ่งหนี แต่เนื่องจากอ้วนจึงวิ่งเร็วไม่ได้ รู้สึกเหนื่อยง่าย แม่ยักษ์จึงจับเขาไว้ได้ในที่สุด พร้อมพูดทิ้งท้ายไว้ว่า แต่ถ้าจะกินต้องมีวิธีจัดการพุงก่อน ลูกยักษ์สงสัยว่าวิธีลดพุงต้องทำอย่างไรแม่ยักษ์ที่ดูเป็นแม่บ้านมีความรู้จึงสอนลูก ดังนี้ ขั้นตอนแรกคือ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ลดอาหารทอด อาหารมัน เพิ่มการกินผักผลไม้ เมื่อแม่ยักษ์เอาอาหารต้ม อาหารนึ่งให้คนอ้วนลงพุงกิน คนอ้วนลงพุงก็แสดงอาการปฏิเสธไม่กิน ขอให้เปลี่ยนเป็นอาหารมันๆ ทอดๆ ด้วยความเชื่อผิดๆ เช่นเดียวกับคนทั่วไปว่า อาหารต้ม อาหารนึ่งไม่อร่อยเท่าอาหารทอด อาหารมัน ระหว่างที่คนอ้วนลงพุงกำลังบ่นอยากกินของทอดนั้นเอง ลูกยักษ์จึงใช้หลอดยักษ์เป่าไข่ต้ม พุ่งเข้าปากคนอ้วนลงพุง ทำให้คนอ้วนลงพุงได้ลองลิ้มรสไข่ต้ม และรู้สึกติดใจยอมกินอาหารต้ม อาหารนึ่ง และกินผักผลไม้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องบังคับแต่อย่างใด เมื่อเวลาผ่านไปหลังคนอ้วนลงพุงเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ลดอาหาร ทอด อาหารมัน และเพิ่มการกินผักผลไม้ก็ทำให้พุงเริ่มลดลงลูกยักษ์จึงทวงถามจากแม่ยักษ์อีกครั้งว่าพุงเริ่มลด แล้วกินได้หรือยัง แต่แม่ยักษ์ยังไม่อนุญาต เพราะยังเหลือ อีกหนึ่งขั้นตอนที่จะช่วยให้พุงลด และไขมันลดได้มากกว่านี้ ขั้นตอนสุดท้ายนี้คือ การเพิ่มกิจกรรมทางกายซึ่งแม่ยักษ์แนะนำว่าหากมีพื้นที่ไม่มาก ให้เลือกการแกว่งแขน โดยบอกขั้นตอนการแกว่งแขนอย่างละเอียด เพราะเป็นวิธีใหม่ที่คนส่วนใหญ่ อาจยังไม่เคยรู้ แต่หากมีพื้นที่มากควรเลือกการเดินเร็วเป็นหลัก ซึ่ง 2 วิธีนี้เป็น วิธีง่ายๆ ที่ทำได้ทุกวัน รวมให้ได้อย่างน้อยวันละ 30 นาที จะช่วยลดพุง ลดโรคได้ ในที่สุด เมื่อคนลดพุงได้สำเร็จและมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นแล้ว ก็สามารถรอดตัว ออกมาจากกรง ที่ยักษ์ขังตนไว้ได้และวิ่งหนีไปได้แบบสบาย ทำให้ลูกยักษ์กับแม่ยักษ์ อดกิน!! เรื่องนี้บอกให้รู้ว่า “ไม่มีพุง ชีวิตก็ปลอดภัย” ดังนั้น ลดพุง ลดโรค กันดีกว่า สสส.ชวน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ