กรุงเทพฯ--7 มี.ค.--เอชเอสบีซี
กลุ่มเอชเอสบีซี ประกาศผลกำไรก่อนหักภาษีประจำปี 2555 มูลค่า 20.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยลดลงร้อยละ 6 จากปีก่อน ซึ่งรวมมูลค่ายุติธรรมของหนี้ที่เพิ่มขึ้นมูลค่า 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ผลการดำเนินธุรกิจของกลุ่มเอชเอสบีซีในปี 2555 ยังมีทิศทางเชิงบวก โดยธุรกิจหลักของเอชเอสบีซีส่วนใหญ่ในเอเชีย โดยเฉพาะในฮ่องกง ยังคงมีผลประกอบการที่ดี โดยมีการเติบโตรายได้ที่ดีในปีที่ผ่านมา
ธุรกิจพาณิชย์ธนกิจเติบโตได้อย่างยอดเยี่ยมในปี 2555 โดยมีผลกำไรก่อนหักภาษีคิดเป็นมูลค่า 8.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ส่วนรายได้ของกลุ่มเอชเอสบีซี ในปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 63.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 โดยเป็นรายได้จากกลุ่มธุรกิจสินเชื่อและธุรกิจบริหารเงินและตลาดทุน มูลค่า 18.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 รายได้จากธุรกิจพาณิชย์ธนกิจ มูลค่า 15.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ธุรกิจบุคคลธนกิจและบริหารความมั่งคั่ง มูลค่า 27.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 โดยกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดของกลุ่มเอชเอสบีซีมาจากภูมิภาคที่เติบโตเร็ว
กลุ่มเอชเอสบีซี ยังมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินทุนขั้นที่ 1 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10.1 ในเดือนธันวาคม ปี 2554 มาอยู่ที่ร้อยละ 12.3 และกลุ่มเอชเอสบีซียังคงปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดตามหลักเกณฑ์บาเซิล 3 ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานด้านกฎระเบียบของสหราชอาณาจักร
มร. สจ๊วต กัลลิเวอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเอชเอสบีซี กล่าวว่า “เอชเอสบีซี มีการดำเนินธุรกิจที่คืบหน้าเป็นอย่างมากในปี 2555 อันดับแรกคือเราสามารถเติบโตธุรกิจ โดยสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และดำเนินธุรกิจได้ดีในตลาดที่เติบโตเร็ว อีกทั้งธุรกิจพาณิชย์ธนกิจยังทำผลงานได้ยอดเยี่ยม เราสามารถบริหารและควบคุมธุรกิจได้ง่ายขึ้นจากการปิดธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก และสามารถควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ เรายังได้บรรลุข้อตกลงกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านกฎระเบียบของสหรัฐและสหราชอังกฤษต่อกรณีความล้มเหลวในการต่อต้านการฟอกเงินและการละเมิดข้อบังคับ ส่วนในด้านการปฎิบัติตามกฎระเบียบการดำรงสถานะเงินกองทุน เราเชื่อว่า เอชเอสบีซีได้ดำเนินการตามกฎบาเซิล 3 อย่างดีเยี่ยม และกลับมาครองตำแหน่งเป็นธนาคารที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งจะทำให้เราสามารถเติบโตธุรกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป และช่วยให้เราสามารถจ่ายเงินปันผลได้เพิ่มขึ้นถึง 8.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วรนันท์ สุทธปรีดา, สาวิตรี หมวดเมือง โทรศัพท์ 0-2614-4609, 0-2614-4606