กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--พพ.
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน หรือ พพ. ได้ร่วมกับ พีอีเอ (Provincial Electricity Authority) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และหน่วยงานภาครัฐกว่า 20 แห่ง จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบริหารจัดการเพื่อการประหยัดพลังงานในอาคารภาครัฐเพื่อเดินหน้าประหยัดพลังงานร่วมกัน
โครงการบริหารจัดการเพื่อการประหยัดพลังงานในอาคารภาครัฐนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกหน่วยงาน พันธมิตรซึ่งตระหนักถึงความสำคัญของการประหยัดพลังงานที่นับเป็นอีกหนึ่งทางออกสำหรับปัญหาด้านพลังงานในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี ที่ได้กำหนดให้ลดความเข้มข้นการใช้พลังงาน หรือ Energy Intensity ลง 25% ในปี 2573 เมื่อเทียบกับปี 2548
อาคารภาครัฐที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ ประกอบด้วยมหาวิทยาลัยภาครัฐ 12 แห่ง โรงพยาบาล 9 แห่ง ดังนี้ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา, มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง, มหาวิทยาลัยนเรศวร, มหาวิทยาลัยบูรพา, มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี, มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร, มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, โรงพยาบาลสุโขทัย, โรงพยาบาลพิจิตร, โรงพยาบาลอำนาจเจริญ, โรงพยาบาลสกลนคร, โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก, โรงพยาบาลบางใหญ่, โรงพยาบาลหัวหิน, โรงพยาบาลอ่างทอง และโรงพยาบาลชัยภูมิ
โครงการความร่วมมือดังกล่าวนี้ ทาง พพ. มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนหลักวิชาการด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางการประสานงานความร่วมมือเพื่อจัดหาแหล่งเงินทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และมี พีอีเอ หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นผู้ดำเนินการด้านการบริหารจัดการพลังงานในลักษณะเดียวกับบริษัทธุรกิจจัดการพลังงานอย่างครบวงจร (Energy Service Company : ESCO) ซึ่งให้บริการครอบคลุมการตรวจสอบวิเคราะห์การใช้พลังงาน จัดทำมาตรการอนุรักษ์พลังงาน จัดทำค่าการใช้พลังงานฐาน ออกแบบทางวิศวกรรมและแผนการดำเนินงาน จัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ฝึกอบรมพนักงานและผู้เกี่ยวข้อง ตรวจวัดและพิสูจน์ผลการประหยัดพลังงาน ตลอดจนออกหนังสือแจ้งค่าใช้จ่าย ซึ่งประกอบด้วย 1) ค่าไฟฟ้า 2) ค่าจัดการพลังงาน
ทาง พพ. และ พีอีเอ มุ่งหวังให้หน่วยงานภาครัฐที่เข้าร่วมโครงการ นอกจากจะได้เปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานแล้ว จะยังสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้า พร้อมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการเป็นผู้นำด้านการประหยัดพลังงาน ช่วยลดภาวะโลกร้อนต่อไป