“มนต์เวียงจันทน์” คอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ สานสัมพันธ์ ไทย-สปป.ลาว โชว์ศักยภาพเยาวชนไทย-แฟนเพลงม่วนชื่น อิ่มเอมกับบทเพลงร่วมสมัย

ข่าวบันเทิง Tuesday March 19, 2013 13:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--ไทยเบฟเวอเรจ ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม สำหรับ “มนต์เวียงจันทน์” คอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์สานสัมพันธ์ด้านศิลปวัฒนธรรมและดนตรี ไทย-สปป.ลาว ที่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนการจัดงาน พร้อมนำทัพนักดนตรีจากวงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมโชว์ศักยภาพทางดนตรี ณ หอวัฒนธรรมแห่งชาติ นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา งานนี้ทำเอาแขกผู้มีเกียรติที่เข้าชมถึงกับทึ่งในความสามารถของเยาวชนไทย พร้อมม่วนชื่นและอิ่มเอมไปกับบทเพลงร่วมสมัย สำหรับคณะผู้บริหารของไทยเบฟฯ ที่เดินทางเข้าร่วมชมคอนเสิร์ต “มนต์เวียงจันทน์” ประกอบด้วย นายพลภัทร สุวรรณศร ที่ปรึกษากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นางธารทิพย์ ศิรินุพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก นางชาลอต โทณวณิก ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร นายนิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรม และ นายอินสอน บัวเขียว ผู้จัดการประสานงานภายนอก ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนหลัก พร้อมด้วยผู้บริหารจากวงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการฯ และ รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะผู้อำนวยการดนตรีฯ โดยมี ท่านบัวเงิน ซาพูวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สปป.ลาว ทำหน้าที่ผู้แทนคณะรัฐบาลให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น คอนเสิร์ต “มนต์เวียงจันทน์” นับเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะและความสามารถทางด้านดนตรีของเยาวชนไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยให้การสนับสนุนวงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกฯ อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา ซึ่ง คุณธารทิพย์ ศิรินุพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก เปิดเผยว่า “ไทยเบฟฯ เล็งเห็นถึงความสามารถของเด็กไทยที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านดนตรี เราเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้เข้าร่วมแสดงความสามารถบนเวทีต่างๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล นอกจากนี้ยังร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาให้เด็กๆ เหล่านี้อีกด้วย สำหรับคอนเสิร์ตมนต์เวียงจันทน์ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมด้านดนตรีของ ไทย และ สปป.ลาว อีกทั้งยังเป็นการนำความรู้ความสามารถของเยาวชนไทยไปเผยแพร่สู่สายตาประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย” หลากหลายบทเพลงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจากประชาชนใน สปป.ลาว นำมาเรียบเรียงใหม่ในรูปแบบเพลงคลาสสิก โดยวงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิก สร้างความม่วนซื่นอิ่มเอมใจให้กับผู้เข้าชมตลอด 3 ชั่วโมงเต็ม โดยเริ่มจาก “ลาวดวงเดือน” ที่ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์ กรมหมื่น พิไชยมหินทรโรดม พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นิพนธ์ขึ้นตามขนบเพลงไทยสำเนียงลาว ต่อด้วยการเปิดตัว นายกร รุ่งเรืองชัย นักไวโอลินเยาวชนดาวรุ่งของไทยที่เพิ่งได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขัน National Beethoven Competition Thailand 2012 งานนี้ หนุ่มกร แสดงความสามารถในการเดี่ยวเพลง Violin Concerto in E minor, op.64 ร่วมกับออเครสตร้าได้อย่างเยี่ยมยอด ทำเอาผู้ชมลุกขึ้นปรบมือชื่นชมในทักษะทางด้านดนตรีดังกึกก้องไปทั่วหอวัฒนธรรมแห่งชาติเลยทีเดียว จากนั้นเป็นการแสดงชุด “มนตราเวียงจันทน์” ซึ่งเป็นการบรรเลงเพลงไพเราะที่ถ่ายทอดถึงความความงดงาม รวมถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนใน สปป.ลาว ไม่ว่าจะเป็น ประเทศลาวสวยงาม แดนแห่งอิสระ เวียงจันทน์ขวัญใจ และรักเมืองลาว ตามด้วยการแสดงชุด “สะบายดีหลวงพระบาง” ประกอบด้วย เสียงแคนลาว กุหลาบปากเซ งามสาวไทดำต่ำแผ่น สะบายดีหลวงพระบาง รวมถึง จดจำบุญคุณพรรค ซึ่งเป็นผลงานการประพันธ์ของ ฯพณฯ ท่านบัวเงิน ซาพูวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ของ สปป.ลาว อีกด้วย คอนเสิร์ต “มนต์เวียงจันทน์” ในครั้งนี้ นอกจากจะได้ชื่นชมความสามารถทางด้านดนตรีของเยาวชนไทยในการร่วมกันถ่ายทอดบทเพลงออกมาในแนวคลาสสิกแล้ว ยังได้รับเกียรติจาก นายสุลิสัก แก้วอุทอน ศิลปินชื่อดังของ สปป.ลาว มาร่วมขับร้องในเพลง “กุหลาบปากซัน” รวมถึง 2 ศิลปินดีเด่นของ สปป.ลาว นายคำพัน พลทองศรี และ นายหงส์สำพาด กรวิไล ที่นำเพลงจังหวะสนุกสนานอย่าง “เย็นสบายชาวนา” มาร่วมสร้างสีสันบรรยากาศของงานให้ดูครึกครื้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด อีกหนึ่งสีสันของงานคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ดร.สุชาติ วงษ์ทอง ศิลปินสีน้ำชื่อดังของประเทศไทย มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ควบคู่ไปกับเสียงเพลงขับกล่อมจากคณะนักร้องประสานสานเสียงของ สปป.ลาว ในเพลง “จำปาเมืองลาว” ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยเพลง “เวียงจันทน์เมืองงาม” และ “บ้านแม่เรา” “เชื่อว่าการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะเป็นโอกาสสำคัญที่แต่ละประเทศในภูมิภาคนี้จะได้นำเอาเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่โดดเด่นของตนเองมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันโดยเฉพาะด้านดนตรี ดังนั้นหลังจากที่เราประสบความสำเร็จในการจัดคอนเสิร์ตมนต์เวียงจันทน์ที่ สปป.ลาวแล้ว ไทยเบฟ และวงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกฯ ยังมีแผนที่จะจัดการแสดงในลักษณะเดียวกันที่ประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย” คุณธารทิพย์ กล่าวปิดท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ