กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--บีโอไอ
บีโอไอจับมือสื่อชั้นนำของญี่ปุ่น เปิดเวทีสัมมนาด้านธุรกิจครั้งใหญ่ เร่งสร้างความเชื่อมั่น และตอกย้ำโอกาสและศักยภาพลงทุนในไทยแก่นักธุรกิจชั้นนำจากญี่ปุ่นโดยตรงกว่า 300 คน รัฐมนตรีอุตสาหกรรม มอบเลขาฯบีโอไอ เดินหน้าชี้แจงการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ใหม่ พร้อมเปิดเวทีให้ผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นประจำประเทศไทยร่วมนำเสนอข้อมูลการลงทุนในไทย และศักยภาพของการเป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ร่วมมือกับ นิตยสาร นิเคอิ บิสสิเนส ซึ่งเป็นสื่อด้านธุรกิจที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น กำหนดจัดงานสัมมนาใหญ่ภายใต้หัวข้อ “Thailand Unparalleled Opportunities” ในวันที่ 28 มีนาคม 2556 นี้ ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นโอกาสในการให้ข้อมูลและสร้างความเชื่อมั่นถึงศักยภาพการลงทุนในประเทศไทยแก่นักลงทุนญี่ปุ่นที่สนใจ ล่าสุดมี นักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นแจ้งเข้าร่วมงานแล้วจำนวนมากกว่า 300 คน เกินกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้เพียง 150 คน ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มนักธุรกิจที่เดินทางจากประเทศญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมงานครั้งนี้โดยตรง 100 คน
กิจกรรมสำคัญภายในงาน กระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบให้ บีโอไอชี้แจงแก่นักลงทุนญี่ปุ่นถึงทิศทางและแนวทางการปรับปรุงยุทธศาสตร์ใหม่ด้านการลงทุนของบีโอไอ ขณะเดียวกันยังเปิดเวทีให้ตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีชื่อเสียง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) สมาคมอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ไทย สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศศินทร์) บริษัทปูนซิเมนต์ไทย ธนาคารกรุงเทพ ร่วมให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับของการลงทุนในประเทศไทย
“การสัมมนาครั้งนี้นับเป็นความร่วมมือครั้งแรกระหว่างบีโอไอและนิตยสารนิเคอิ ที่จัดงานในรูปแบบของการสัมมนาทางธุรกิจ และเป็นงานสัมมนาทางธุรกิจครั้งแรกนอกประเทศญี่ปุ่นของนิตยสารนิเคอิ ที่มีผู้สนใจเป็นนักธุรกิจจากกลุ่มต่างๆ เข้าร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งนอกจากจะเป็นเวทีชี้แจงถึงโอกาสและศักยภาพของไทยแก่นักธุรกิจญี่ปุ่นแล้ว ยังจะเป็นการเน้นบทบาทที่สำคัญของไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ซึ่งประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงอาเซียนกับภูมิภาคอื่น ๆ ครอบคลุมทุกด้านในการลงทุน” นายประเสริฐ กล่าว
ด้านนายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า บีโอไอ จะได้ชี้แจงถึงทิศทางใหม่ในการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการเปิดรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำรายละเอียดของยุทธศาสตร์ใหม่ให้มีความชัดเจนก่อนประกาศใช้ต่อไป
โดยในงานสัมมนาจะมีบริษัทเอกชนรายใหญ่ของไทย ร่วมให้ขัอมูลและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การลงทุนที่น่าสนใจ เช่น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย ร่วมบรรยายพิเศษ ภายใต้หัวข้อ “ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการร่วมมือระหว่างไทย-ญี่ปุ่น” นายวิโรจน์ ศิริธนาศาสตร์ ประธานสมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน บรรยายพิเศษหัวข้อ “บทบาทการเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของอาเซียน” รวมถึงการบรรยายพิเศษถึงศักยภาพของประเทศไทยโดยตัวแทนจาก สศช. ซึ่งเป็นนักวิชาการญี่ปุ่นที่มีความรู้เรื่องประเทศไทยและอาเซียนเป็นอย่างดี ในหัวข้อ “ประเทศไทย : ฐานการทำธุรกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และแผนการพัฒนาโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย” เป็นต้น
“ปัจจุบันนักธุรกิจญี่ปุ่นให้ความสำคัญอย่างมากกับการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในกลุ่มนักธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่เริ่มออกไปลงทุนนอกประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น บีโอไอมั่นใจว่าข้อมูลจากการสัมมนาครั้งนี้จะทำให้นักธุรกิจญี่ปุ่นเชื่อมั่นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นแหล่งรองรับการลงทุนที่สำคัญในภูมิภาค และจะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต”นายอุดมกล่าว