แหล่งน้ำวิกฤตเกษตรกรสูบน้ำทำนาปรัง

ข่าวทั่วไป Monday March 25, 2013 16:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--กรมส่งเสริมการเกษตร จังหวัดมหาสารคามสถานการณ์ภัยแล้งวิกฤตหนักเกษตรกรทำนาปรังสูบน้ำจากแหล่งน้ำและลำห้วยจนแห้งขอด กระทบปริมาณน้ำที่ต้องสำรองเป็นแหล่งน้ำดิบผลิตประปาหมู่บ้าน ว่าที่ ร.ต.จักรภัทร ผ่องโอภาส เกษตรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่าจังหวัดมหาสารคามสถานการณ์ภัยแล้งเริ่มวิกฤตหนักในทุกพื้นที่ แม้ก่อนหน้านี้จังหวัดได้ประกาศขอร้องและขอความร่วมมือ ห้ามปลูกข้าวนาปรังหรือข้าวรอบที่ 2 ในช่วงนี้ไว้ก่อน แต่จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์พบว่ามีเกษตรกรหลายรายก็ยังฝืนปลูกสูบน้ำไปทำนาปรังส่งผลให้ลำห้วยแห้งขอด โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำลำห้วยคะคาง อ.เมืองมหาสารคาม ซึ่งรับน้ำต้นทุนจากอ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน มีปริมาณน้ำเก็บกักเหลือเพียง 4.97 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 61.99 ของปริมาณน้ำที่ระดับเก็บกัก 8.024 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งต้องสำรองไว้เป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตประปาอีกหลายสิบหมู่บ้าน ล่าสุดเกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปรัง กว่า 2,000 ไร่ ต่างเร่งสูบน้ำจากลำห้วยคะคางไปเก็บไว้ในแปลงนาจนน้ำแห้งขอดถึงขั้นต้องขุดร่องน้ำให้ลึกเพื่อวางหัวดูดสูบน้ำไปตามท่อส่งข้ามหมู่บ้านเป็นทางยาวกว่า 1,000 เมตร เพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังอยู่ในระยะแตกกอและยังต้องการน้ำอีกมาก อย่างไรก็ตามได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตำบลเฝ้าติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกษตรกรได้รับผลกระทบจากภัยแล้งน้อยที่สุด ขณะที่นายสำนวล เสนารัตน์ เกษตรกรบ้านติ้ว ตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคาม หนึ่งในเกษตรกรที่ทำนาปรังเล่าว่าปีนี้สถานการณ์ภัยแล้งรุนแรง เกษตรกรต้องสูบนํ้าทำนาปรังต้นทุนสูงและน้ำในลำห้วยสูบไปอีกไม่นานก็จะหมดแล้ว ตั้งใจจะไปขอความช่วยเหลือจากทางราชการไปขอน้ำจากอ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน หากไม่ได้รับการช่วยเหลือข้าวที่ปลูกไว้ก็จะได้รับความเสียหายแน่นอน เกษตรกรที่สนใจจะและมีปัญหาด้านการเกษตร ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัด/สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน หรือขอคำปรึกษาและแก้ปัญหาการเกษตร โดยตรงกับเกษตรจังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์หมายเลข ๐๘๑-๗๙๐๕๒๕๖ และหมายเลข ๐๘๘-๕๔๙๗๙๔๔
แท็ก เกษตรกร  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ