มูลนิธิเขมไชย รสานนท์ สานฝันเด็กด้อยโอกาสจากถิ่นทุรกันดารของประเทศโดยจัดหาทุนการศึกษาเพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่เยาวชนของชาติ

ข่าวทั่วไป Monday March 25, 2013 17:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--มูลนิธิเขมไชย รสานนท์ มูลนิธิเขมไชย รสานนท์ เตรียมสานฝันให้เยาวชนด้อยโอกาสของประเทศ พร้อมช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยในถิ่นทุรกันดาร โดยรณรงค์จัดหาทุนเพื่อสนับสนุนโครงการการศึกษาของเยาวชนยากไร้จากถิ่นไกลและร่วมพัฒนาชุมชนไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 280 ทุน เพื่อให้เยาวชนสามารถต่อยอดจนสามารถพึ่งพาตัวเองและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต มูลนิธิเขมไชย รสานนท์ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2534 โดยมีวัตถุประสงค์ สนับสนุนทุนการศึกษาเด็กยากจนและช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลแก่ผู้ที่ยากไร้ในถิ่นทุรกันดาร เป็นองค์กรที่เป็นศูนย์กลางรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาเพื่อช่วยเหลือกลุ่มชนดังกล่าว พร้อมๆกับ ดำเนินการด้านสาธารณะประโยชน์ ร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆเพื่อช่วยเหลือสังคม ปัจจุบันมีโครงการหลักๆ 2 โครงการที่รอการสนับสนุน จากการลงพื้นที่สำรวจภาวะลำบากและความจำเป็นของเยาวชนในภูมิภาคต่างๆของประเทศโดยไม่จำกัดลัทธิศาสนาและเผ่าพันธุ์ใดในสังคมไทย พื้นที่แรกที่มูลนิธิให้ความสำคัญคือ เยาวชนจากหมู่บ้านชนบทของอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และเยาวชนชุมชนถิ่นป่าทุ่งใหญ่นเรศวรพื้นที่มรดกโลก อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมาจากโรงเรียนต่างๆในความดูแลของตำรวจตระเวนชายแดน โดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) และ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้เคยทรงอุปการะ ปัจจุบันมูลนิธิฯ ได้มอบทุนให้แก่เยาวชนดังกล่าวจาก 14 จังหวัดทั่วประเทศ อาทิ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก ลำพูน นครพนม กาญจนบุรี และระนอง เป็นต้น ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา ถึงระดับมัธยมศึกษา จำนวนกว่า 400 ทุน และกำลังดำเนินการจัดหาทุนเพื่อช่วยเหลือโครงการนี้ บทสัมภาษณ์เด็กนักเรียนทุนโครงการเด็กบ้านไกล พึ่งพาตนเอง อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ประจำปี 2556 ที่กำลังรอโอกาสทางด้านการศึกษา ด.ญ.สุภัทตรา สังข์ชลาธาร อายุ 13 ปี นักเรียนจากหมู่บ้านเสน่ห์พ่อง “หนูพี่น้อง 8 คน ครอบครัวทำไร่ทำนา พ่อแม่ไม่มีเงินส่งให้หนูเรียน และยากจน อาชีพทำไร่ทำนาชุมชนของหนูเป็นที่กันดารปลูกข้าวปีละ 1 ครั้ง จึงไม่มีเงินพอที่จะส่งให้หนูเรียนจบได้ หนูขอขอบคุณมูลนิธิเขมไชย รสานนท์ ที่ได้ช่วยเหลือในการเรียน และหนูก็จะเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับน้องๆ ต่อไปค่ะ” นายบุญชัย กระสิทธุ์สมุทร อายุ 16 ปี นักเรียนจากหมู่บ้านทิไล่ป้า “ผม มีพี่น้อง 7 คน ผมรู้สึกดีใจมาก ที่มูลนิธิ ได้มาเยี่ยมเยียนผม ถึงแม้ว่าการเดินทางเข้ามาที่นี้จะลำบากมาก ทำให้ผมรู้สึกถึงความพยายามที่ทางมูลนิธิฯ ได้ให้ความสำคัญกับผมและอยากให้ผมได้เรียนสูงๆ เพื่อที่จะได้กลับมาพัฒนาหมู่บ้านของตนเอง” บทสัมภาษณ์เสียงสะท้อนจากตัวแทนเยาวชนที่กำลังรอรับโอกาสใน โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาและการพัฒนาชุมชน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ด.ญ.ศิริญญา ต่าผอง หรือน้องกิ๊บ อายุ 12 ปี เรียนชั้นประถมปีที่ 6 “ครอบครัวของหนูพ่อแม่หย่าร้าง ปัจจุบันอาศัยอยู่กับพ่อ โดยพ่อประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปรายได้ทั้งครอบครัววันละไม่เกิน 150 บาท โดยหนูได้เงินมาโรงเรียนวันละ 10-20 บาท ทำให้หนูไม่ได้มีโอกาสเหมือนเด็กคนอื่นๆ ทั้งในเรื่องเสื้อผ้า อุปกรณ์การศึกษา ถ้าหนูได้รับทุนการศึกษาหนูจะตั้งใจเรียนและโตขึ้นหนูจะประกอบอาชีพสุจริตเพื่อเป็นกำลังของชาติค่ะ” ด.ช.จรรยวรรธ ญาต๊ะ น้องมอส อายุ 9 ปี เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 “ครอบครัวผมพ่อแม่หย่าร้าง ผมอาศัยอยู่กับตายาย แม่ต้องโทษคดีความอยู่ในเรือนจำ ตาทำงานก่อสร้างได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท ผมจะหารายได้พิเศษช่วยตาในวันหยุดคือไปรับจ้างรดน้ำต้นไม้ ได้วันละ 10 บาท เพื่อเป็นค่าขนมให้กับตัวเอง ถ้าผมได้รับทุนจากมูลนิธิฯ คงจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับตาได้มาก และเงินที่ได้รับผมจะใช้อย่างประหยัด” นอกจาก 2 โครงการหลักๆ ที่มูลนิธิฯ กำลังดำเนินการจัดหาทุนช่วยเหลืออยู่นั้น ยังมีโครงการอื่นๆ ที่เรายังได้ให้การช่วยเหลืออีกอาทิ - โครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ เป็นโครงการหนึ่งของมูลนิธิฯ ที่เปิดโอกาสให้ผู้มีจิตศรัทธาสนับสนุนเงินทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนที่มีความตั้งใจเรียนแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษา จะมีการเล่าเรื่องของตนเองเป็นจดหมายให้แก่พ่อแม่อุปถัมภ์ได้รับรู้ความเป็นไปในการดำรงชีพของเด็ก มีผู้บริจาคเข้าร่วมโครงการนี้แล้ว 20 คน แต่ขาดความต่อเนื่อง - โครงการกุศลเดินทาง เริ่มโครงการครั้งแรกในปี 2551 โดยจัดขึ้นเพื่อเยี่ยมนักเรียนทุนของมูลนิธิฯ พร้อมนำอาสาสมัครที่มีจิตอาสาร่วมกันบริจาคเครื่องนุ่งห่ม ผ้าห่ม ให้แก่ผู้ยากไร้ในถิ่นทุรกันดารปีละ 1 ครั้ง นอกเหนือจากการให้ทุนแก่เยาวชนผู้ยากไร้แล้ว มูลนิธิฯยังให้ความช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยยากไร้ในพื้นที่ดังกล่าวที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการจากภาครัฐ และเอกชน เนื่องจากอยู่ในถิ่นทุรกันดารและยากจน ความพยายามเหล่านี้เปรียบเหมือนแสงไฟดวงน้อยที่ส่องสว่างให้แก่เยาวชน และชุมชนที่ยากไร้ของประเทศไทย สอบถามรายเอียดเพิ่มเติม ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มูลนิธิเขมไชย รสานนท์ โทร.02-930-3191 หรือ 089-824-4849

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ