“โมโนมิวสิค” ข้ามขั้นลุยตลาดเพลงสากล เตรียมพร้อมศิลปินกางแผนรับ AEC ประเดิมขาย “อินโดฯ-เวียดนาม-ไทย”

ข่าวบันเทิง Thursday March 28, 2013 11:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--โมโนมิวสิค “โมโนมิวสิค” ในเครือ “โมโนกรุ๊ป” ผู้นำ “Entertainment Content Creator” ของเมืองไทย เตรียมสร้างสีสันของวงการเพลงเมืองไทย ประกาศลุยธุรกิจเพลงรับ AEC เตรียมเปิดตลาดเพลงสากล หลังพบปัจจัยเอื้อกับผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่มากกว่าไทยถึง 3 เท่า นำร่อง 2 ศิลปิน T POP ของค่ายโมโนมิวสิค กับ “EVO NINE” (อีโวไนน์) และ “CandyMafia” (แคนดี้มาเฟีย) ประเดิมขายอินโดนีเซีย เวียดนามและไทย เล็งพร้อมเปิดตลาดมีนาคมนี้ คุณนวมินทร์ ประสพเนตร ผู้ช่วยประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท โมโนเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ในเครือโมโนกรุ๊ป เปิดเผยว่า อีกไม่นานประเทศไทยก็จะเข้าสู่เวทีประชาคมอาเซียน หรือ AEC เชื่อว่าทุกองค์กรทุกธุรกิจต้องมีการขยับตัวเกี่ยวกับแผนงานธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับตลาด AEC ที่ผ่านมาโมโนกรุ๊ปเองก็มีการเตรียมแผนรองรับไว้แล้วเช่นกัน ด้วยลักษณะของธุรกิจที่เราเริ่มขยายไปสู่ต่างประเทศ ทั้งประเทศเกาหลี อินโดนีเซีย และอีกหลายๆ ประเทศที่กำลังมีการเจรจาพูดคุย ด้วยคอนเทนต์มากมายที่เรามี อาทิ เพลง ดูดวง คลิปวีดีโอ แฟชั่น หรือ Mobile Application ต่างๆ เราจึงกล้าที่จะกระโดดเข้าสู่ตลาดสากลโดยที่ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำมาก่อน โดยจับคอนเทนต์เพลงมาทำการตลาดอย่างจริงจังหลังจากนี้ไป ด้วยประสบการณ์ที่โมโนมิวสิคได้สร้างสรรค์ผลงานมานานกว่า 5 ปี กับทีมงานที่มีคุณภาพทั้งไทยและเทศ ล่าสุด เรานำ 2 ศิลปินบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ป คือ “EVO NINE” และ “CandyMafia” มาออกเป็นซิงเกิ้ลเพลงสากล พร้อมได้ทีมโปรดิวเซอร์จากอเมริกา Artisans Music (อาติซาน มิวสิค) ที่มีความพร้อมทั้งสตูดิโอและประสบการณ์การทำเพลง โดยที่ผ่านมาเคยสร้างสรรค์ผลงานเพลงให้กับศิลปินดังๆ จนประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย เช่น 2PM, ดงบังชินกิ ,เกิร์ลเจนเนอเรชั่น, เจมี่ฟ๊อกซ์, สนู๊ปด็อก ฯลฯ นอกจากนี้เรายังได้ทีมโปรดักซ์ชั่นมือดีจากประเทศเกาหลี คือ Zanybro (ซานี่โบร์ส) ที่จะมาร่วมผลิตมิวสิควีโดโอให้กับเรา ที่การันตีคุณภาพผลงานจากปีที่ผ่านมากว่า 120 เพลง จากศิลปินดัง เช่น Girls’s Generation เพลง I Got A Boy , The Boy / Beast เพลง Shock/ TVXQ เพลง Humanoid / Super Junoir เพลง Opera เวอร์ชั่นญี่ปุ่น/ ฯลฯ ในส่วนของการทำการตลาดต่างประเทศนั้น โมโนกรุ๊ปค่อนข้างได้เปรียบ เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมาเราได้มีการเปิดบริษัทเพื่อขายคอนเทนต์ในประเทศเกาหลีและอินโดนีเซียนำร่องไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเป็นผลทำให้เราต้องศึกษาลักษณะนิสัย ไลฟ์สไตล์และความต้องการของคนประเทศนั้นๆ โดยข้อมูลตรงนี้สามารถนำมาเป็นฐานข้อมูลในการทำการตลาดได้ดีทีเดียว ตัวอย่างเช่น ในประเทศอินโดนีเซียมีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ประมาณ 240 ล้านเลขหมาย ซึ่งมากกว่าประเทศไทยที่มีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ประมาณ 70 ล้านเลขหมาย หรือประมาณ 3 เท่า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงตลาดที่กว้างมากและยังแสดงถึงโอกาสที่ดีในการขยายธุรกิจของเราอีกด้วย ปัจจุบัน “โมโนมิวสิค” มีศิลปินที่เป็นทั้งบอยแบนด์, เกิร์ลกรุ๊ป , ศิลปินเดี่ยว ศิลปินแบบฟูลแบนด์ ที่รวมความหลากหลายของดนตรีไว้ที่นี่ไม่ว่าจะเป็นแนว ป๊อปแดนซ์, โซลป๊อป, ป๊อปร็อค, อาร์แอนด์บี ฯลฯ จากศิลปินกว่า 11 เบอร์ อาทิ แคนดี้มาเฟีย, จีทเวนตี้, อีโวไนน์, พีท-พีระ, แป้ง-ณัฐณิชา, สเตตัสซิงเกิล, เรดิโอการ์เด้น, เอสพีเอฟ,รันแรนรัน, ทเวนตี้ทาวน์, กฤต พรรณนา ซึ่งล้วนเป็นศิลปินคุณภาพของเมืองไทยทั้งนั้น ปัจจุบันธุรกิจเพลงของโมโนมิวสิคในเครือโมโน กรุ๊ป มีส่วนแบ่งการตลาดทั้งหมดประมาณ 30% จากทั่วประเทศ โดยมีรายได้ทั้งหมดจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่กว่า 100 ล้านบาท จากการขายคอนเทนต์และงานโชว์ ในส่วนของตลาดต่างประเทศนั้นเราเล็งเห็นว่าประเทศอินโดนีเซียมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ 240 ล้านคน และประเทศเวียดนามมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ 120 ล้านคน ถือเป็นตลาดที่ใหญ่มากสำหรับการส่งคอนเทนต์เพลงไปขาย โดยโมโนมิวสิคจะเริ่มขายเพลง “Make You Dance” (เมค ยู แดนซ์) ของอีโวไนน์ในเดือนมีนาคมนี้ทั้งในประเทศเวียดนามและประเทศอินโดนีเซียพร้อมกัน โดยตั้งเป้าจะผลิตคอนเทนต์เพลงป้อนตลาดสากลให้ได้ 10 เพลงภายในสิ้นปีนี้ และขยายไปอีกหลายๆ ประเทศที่เราได้มีการเจรจาทางธุรกิจกันมาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดเพลงในประเทศไทยเราก็ยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยศักยภาพของโมโน กรุ๊ป ไม่ว่าจะที่มีคอนเทนต์ที่แข็งแรง มีทีมงานที่มีศักยภาพ ประสบการณ์การทำงานกับต่างประเทศ ทำให้วันนี้ เราจะสามารถเปิดตลาดสากลได้อย่างมั่นใจ” กล่าวทิ้งท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ