กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--PRdd
สภาวะตลาดวันที่ 2 เมายน 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,598.99—1,603.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ13 อยู่ที่ 22,360 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,330 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVJ13 อยู่ที่ 845 โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 845 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.25 น.ของวันที่ 02/04/13)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 3 เมษายน 2556
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) เปิดเผยมาร์กิต แสดงให้เห็นว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของภูมิภาคที่หดตัวลง โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนมีนาคม ปรับตัวลงสู่ระดับ 46.8 สอดคล้องกับดัชนี PMI ของประเทศสมาชิกรายใหญ่ๆ ที่ต่างก็เผชิญกับภาวะหดตัวเช่นเดียวกัน โดยภาคการผลิตเยอรมนี ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซน อ่อนแรงลง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเยอรมนีหดตัวลงที่ 49.0 บ่งชี้ถึงความไม่แน่ใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแกนหลักในการพยุงเศรษฐกิจยูโรโซนให้ปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้นักลงทุนจะต้องจับตาว่าจะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของยูโรโซนมากน้อยเพียงใด ทั้งนี่ราคาทองคำตลาดโลกยังมีแนวโน้มทรงตัวโดยมีการเคลื่อนไหวในกรอบ ขณะที่นักลงทุนในประเทศกำลังติดตาม คณะกรรมการนโยบายการเงินประเทศไทย(กนง.)ที่จะประชุมกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยในวันพุธนี้ เพื่อเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางค่าเงินบาท โดยผลการสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.75% ในการประชุมวันพุธนี้ ซึ่งหากผิดความคาดหมายมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจะส่งผลให้สกุลเงินบาทอ่อนค่าซึ่งจะเป็นแรงหนุนราคาทองคำภายในประเทศให้มีการปรับตัวขึ้น นอกจากปัจจัยพื้นฐานที่เกิดขึ้นแล้ว ปัจจัยทางเทคนิคยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างแรงกดดันให้กับทองคำด้วย เนื่องจากราคาทองคำไม่สามารถผ่าแนวต้านในบริเวณ 1,610 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ ยังช่วยกดดันราคาทองคำด้วยเหมือนกัน เบื้องต้นแนะนำนักลงทุนเก็งกำไรในกรอบเพื่อหาจังหวะทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไป และนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบเพื่อสร้างฐานของราคา โดยราคาทองคำมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นไปได้ แต่จะขึ้นไปได้มากเพียงใด ขึ้นอยู่กับกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในขณะนั้นเป็นสำคัญ โดยหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,606 หรือ 1,610 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ราคาทองคำอาจมีย่อตัวลงมา โดยประเมินแนวรับที่ 1,590 หรือ 1,585 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สามารถทะยอยสะสมบ้างส่วน หรือ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงน้อยยังคงแนะนำลงทุนระยะสั้นโดยให้รอจังหวะเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,590 (22,090บาท) 1,585 (22,020บาท) 1,580 (21,950บาท)
แนวต้าน 1,606 (22,310บาท) 1,610 (22,370บาท) 1,616 (22,450บาท)
GOLD FUTURES (GFJ13)
แนวรับ 1,590 (22,250บาท) 1,585 (22,180บาท) 1,580 (22,110บาท)
แนวต้าน 1,606 (22,470บาท) 1,610 (22,530บาท) 1,616 (22,610บาท)
SILVER FUTURES (SVJ13)
แนวรับ 27.65 (835บาท) 27.30 (825บาท) 27.10 (819บาท)
แนวต้าน 28.45 (859บาท) 28.70 (866บาท) 29.15 (879บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com