สพธอ.เปิดเวทีสัมมนารับฟังความคิดเห็น การปรับปรุง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ความสมดุลระหว่างเสรีภาพ กับความมั่นคงปลอดภัย เพื่อเป็นข้อเสนอแนะ และผลักดันการแก้ไขกฎหมาย

ข่าวเทคโนโลยี Thursday April 4, 2013 14:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--Core&Peak สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. ซึ่งเป็นองค์การมหาชนภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จัดให้มีเวทีสัมมนารับฟังความคิดเห็น เรื่อง “การปรับปรุง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ: ความสมดุลระหว่างเสรีภาพ กับความมั่นคงปลอดภัย” เพื่อให้กฎหมายฉบับดังกล่าวมีความเป็นสากล และสอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมและบริบทของสังคมไทย โดยการเปิดเวทีสัมมนารับฟังความคิดเห็นจะมีการรวบรวมข้อคิดเห็นทั้งหมดและนำเสนอต่อกระทรวงไอซีทีเพื่อพิจารณาปรับปรุง และผลักดันการแก้ไขกฎหมายฉบับดังกล่าวต่อไป นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานสัมมนารับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ว่า เพื่อให้กฎหมายฉบับนี้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของกฎหมาย ไม่เป็นภาระแก่ผู้ประกอบการมากจนเกินไป และเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างสิทธิเสรีภาพและการเคารพสิทธิของบุคคลอื่น และเพื่อให้การปรับปรุงกฎหมายฉบับนี้มีความรอบคอบ และคำนึงถึงทุกภาคส่วนที่มีส่วนได้ส่วนเสียหรือได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ จึงได้จัดให้มีการสัมมนาลักษณะเปิดเวทีแสดงความคิดเห็นโดยเชิญบุคลากรจากทั้งกลุ่มผู้ให้บริการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียจากการบังคับใช้กฎหมายทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานสัมมนา เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างกัน และแบ่งปันมุมมองหรืออุปสรรคหรือปัญหาในทางปฏิบัติ และรวบรวมข้อเสนอแนะต่าง ๆ นำเสนอต่อกระทรวงเทคโนโลยรสารสนเทศและสื่อสารซึ่งมีบทบาทหลักในการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนในการนำไปใช้ปรับปรุงกฎหมายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป นางสุรางคณา กล่าวว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ บัญญัติขึ้นเพื่อรองรับการประกอบกิจการและการดำรงชีวิตของมนุษย์ที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอมพิวเตอร์ถือเป็นปัจจัยในการอำนวยความสะดวกมากขึ้น ดังนั้นหากมีผู้กระทำด้วยประการใด ๆ ให้ระบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานตามคำสั่งที่กำหนดไว้หรือทำให้การทำงานผิดพลาดไปจากคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือใช้วิธีการใด ๆ เข้าล่วงรู้ข้อมูล แก้ไข หรือทำลายข้อมูลของบุคคลอื่นในระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ หรือใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จหรือมีลักษณะอันลามกอนาจาร ย่อมก่อให้เกิดความเสียหาย กระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งความสงบสุขและศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงจำเป็นต้องมีมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำดังกล่าว โดยการตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่กฎหมายฉบับดังกล่าวได้ใช้บังคับในระยะเวลาหนึ่งปรากฏว่า มีการเรียกร้องจากหลายภาคส่วนให้มีการทบทวนหลักการของกฎหมาย รวมถึงเพิ่มเติมส่วนที่กฎหมายปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมหรือรองรับ ดังนั้น ทาง สพธอ. ในฐานะหน่วยงานทางวิชาการที่มีภารกิจหลักในการส่งเสริมเพื่อเพิ่มมูลค่าการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งสนับสนุนการผลักดันกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้เป็นปัจจัยหนึ่งในการผลักดันให้การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ตามนโยบายของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กรอนิกส์ จึงได้รับนโยบายจากรัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้ศึกษาถึงสภาพปัญหา ข้อขัดข้องและแนวทางการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมและบริบทของสังคมไทยเพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างถูกต้องตามเจตนารมณ์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในการติดต่อสื่อสารอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญประกอบ ซึ่งจากการศึกษาสภาพปัญหาและข้อขัดข้องในเรื่องดังกล่าว สพธอ. จึงเห็นควรเสนอให้มีการปรับปรุงกฎหมายเพื่อสร้างความสมดุลในเนื้อหาของกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของสิทธิเสรีภาพของประชาชนและการดูแลความมั่นคงปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศ ดังนั้นเพื่อให้การปรับปรุงกฎหมายในครั้งนี้ และเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทาง หรือหาแนวทางการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง จึงได้มีการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ