ผู้บริโภคสูญเงินมูลค่าเท่ากับทอง 1 แท่งทุกปีจากการใช้เงินสด!

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 5, 2013 16:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ คนไทยสูญเงินมากถึง 2,000 บาททุกปีจากเศษเหรียญและเงินตราต่างประเทศที่ไม่ได้ใช้ ผลการศึกษาที่ใช้ชื่อว่า Visa Payment Attitudes Studyระบุ ผู้คนส่วนใหญ่สูญเงินมากถึง365ดอลลาร์สหรัฐโดยเฉลี่ยในทุกปีจากเงินสดที่ลืมไว้ในบ้านหรือรถยนต์ หรือเงินตราต่างประเทศที่ไม่ได้ใช้จากการเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดหรือเพื่อติดต่อธุรกิจ จำนวนที่ดูเหมือนจะเล็กน้อยนี้มีมูลค่าเฉลี่ย 1 ดอลลาร์ต่อวัน หรือเทียบเท่าทอง 6.5กรัม วิถีชีวิตที่วุ่นวายทำให้หลายครั้งผู้คนส่วนใหญ่สูญเสียความสามารถในการติดตามควบคุมเรื่องเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวพวกเขา เช่น เศษเงินเหรียญ โดยพวกเขาทิ้งเงินเฉลี่ย 80 ดอลลาร์ไว้ในรถยนต์ บ้าน และสำนักงาน ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง โดยไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ ทั้งนี้ ในกลุ่มประเทศที่ทำการสำรวจ มีตัวเลขที่น่าตกใจ คือ ชาวญี่ปุ่นมักลืมหรือมีเศษเหรียญที่ไม่ได้ใช้เฉลี่ยถึง 337 ดอลลาร์ ขณะที่ชาวอินโดนีเซียใช้เงินระมัดระวังที่สุด เพราะไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม พวกเขาจะลืมเงินหรือเศษเหรียญไว้เพียง 21 ดอลลาร์เท่านั้น การกลับมาบ้านหลังจากท่องเที่ยวในวันหยุดโดยที่มีเศษเหรียญและธนบัตรที่เป็นเงินตราต่างประเทศเต็มอยู่ในกระเป๋านั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้น จากการศึกษาดังกล่าว คนทั่วไปเดินทางกลับถึงบ้านพร้อมเงินตราต่างประเทศที่ไม่ได้ใช้เฉลี่ย 285 ดอลลาร์[1] ส่วนคนไทยสูญเงินเฉลี่ย 66 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,980 บาท) ต่อปี ซึ่งมาจากเศษเหรียญต่างๆที่มีมูลค่าถึง42 ดอลลาร์ (1,260 บาท) และเงินตราต่างประเทศที่ไม่ได้ใช้ 24 ดอลลาร์ (720 บาท) "การตามเก็บเงินสดอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ยุ่งเหยิงและวิถีชีวิตที่ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่มากขึ้นทุกที เรารู้มานานแล้วว่าการพกพาเงินสดอาจไม่สะดวกและไม่น่าเชื่อถือ และตอนนี้เราได้ทราบจากการวิจัยครั้งนี้ว่า ผู้บริโภคเงินหมดกระเป๋าเนื่องจากการใช้จ่ายด้วยเงินสด ทั้งนี้ คนไทยควรตระหนักถึงจำนวนเงินที่อาจจะสูญไปจากการใช้เงินสด โดยหันมาเลือกใช้บัตรวีซ่าของตนมากขึ้นเมื่อเดินทาง" นายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศพม่าและไทยกล่าว ผลการศึกษาพบว่า โดยเฉลี่ยผู้บริโภคในภูมิภาคมีบัตรเดบิต 2 ใบ แต่พบว่าการรับรู้เกี่ยวกับการใช้บัตรเดบิตในต่างประเทศยังอยู่ในระดับต่ำ เพียงร้อยละ 42 รับรู้ว่าพวกเขาสามารถใช้บัตรเดบิตได้ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม บัตรเดบิต โดยเฉพาะบัตรเดบิตวีซ่า ได้รับการยอมรับกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก และสามารถนำไปใช้ในร้านค้า ใช้จับจ่ายออนไลน์ หรือแม้แต่การซื้อสินค้าที่ตามจริงต้องใช้เงินสดและการถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มในต่างประเทศ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวีซ่าและบัตรเดบิตวีซ่าได้ที่ www.visa-asia.com หรือ www.visacemea.com [1]เงินตราต่างประเทศที่จ่ายเป็นทิปภายในสนามบิน และ/หรือวางไว้ไม่เป็นที่

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ