ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการถือหน่วยลงทุนของผู้ลงทุนในกองทุนรวม

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 4, 2013 17:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--ก.ล.ต. ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (retail fund) เพื่อให้การถือหน่วยลงทุนมีการกระจายตัว และไม่เป็นช่องทางในการแสวงหาประโยชน์ของกลุ่มบุคคลใด ๆ นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า “ในการจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป ก.ล.ต. ต้องการให้มีการกระจายการถือหน่วยลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปได้อย่างทั่วถึง ไม่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเพียงรายใดรายหนึ่งใช้เป็นช่องทางแสวงหาประโยชน์หรือแทรกแซงการบริหารจัดการกองทุนรวมได้ ดังนั้น ก.ล.ต. ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ โดยกำหนดให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลเดียวกันสามารถถือหน่วยลงทุนได้ไม่เกิน 1 ใน 3 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด หากกองทุนรวมใดมีการถือหน่วยลงทุนเกิน 1 ใน 3 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จะต้องเปิดเผยข้อมูลให้ผู้ลงทุนทราบ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนในกองทุนรวมนั้น ๆ และจะต้องแก้ไขสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนภายใน 2 เดือน มิฉะนั้น บลจ. อาจถูกสั่งห้ามขยายการประกอบธุรกิจจัดการกองทุนรวม นอกจากนี้ หากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดลงทุนเพิ่มจนทำให้ถือหน่วยลงทุนเกิน 1 ใน 3 ห้าม บลจ. นับคะแนนในการออกเสียงลงมติของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลดังกล่าวในส่วนที่ถือเกินและห้ามจ่ายเงินปันผลในส่วนนั้นด้วย อย่างไรก็ดี จะผ่อนปรนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนบางประเภทสามารถถือหน่วยลงทุนเกิน 1 ใน 3 ได้ เช่น กองทุนที่มีผู้ลงทุนหรือผู้รับประโยชน์จำนวนมาก (กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และสำนักงานประกันสังคม ) หรือนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยซึ่งไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ (มูลนิธิและวัด )เป็นต้น”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ