รายงานตลาดรับสร้างบ้าน Q1 และแนวโน้ม Q2

ข่าวอสังหา Tuesday April 9, 2013 10:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--สมาคมไทยรับสร้างบ้าน ภาวการณ์ทั่วไป สมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Constructions Association: THCA) สำรวจภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งในต่างจังหวัดระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2556 พบว่าตลาดรับสร้างบ้านหรือความต้องการสร้างบ้านหลังใหม่กำลังซื้อฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะความต้องการสร้างบ้านในพื้นที่ที่เคยได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากมหาอุทกภัยเมื่อปี 2554 ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯ ตอนบน นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา ขณะที่ตลาดรับสร้างบ้านในพื้นที่ต่างจังหวัด ทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ก็มีการขยายตัวและมีกำลังซื้อเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ ในช่วงท้ายไตรมาสแรก บรรดาผู้ประกอบการได้ออกมาส่งสัญญาณให้ผู้บริโภคทราบว่า จะมีการปรับราคาบ้านเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 2-4 ในไตรมาสสองเป็นต้นไป เหตุเพราะได้รับผลกระทบจากการต้นทุนค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้น และมีแนวโน้มว่าผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุจะปรับราคาในช่วงครึ่งปีหลัง โดยคาดว่าจะมีดีมานส์หรือปริมาณความต้องการใช้วัสดุเพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากการลงทุนของภาคเอกชนและภาครัฐในช่วงครึ่งหลังปีนี้ สภาวการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ มียอดขายเติบโตกันทั่วหน้า โดยเมื่อเปรียบเทียบกับยอดขายไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วพบว่า มีสัดส่วนการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40 นอกจากนี้ ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ปริมาณและมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านขยายตัวได้ดีในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา เป็นเพราะ 1) กำลังซื้อในพื้นที่ที่เคยชะลอตัวกลับสู่ภาวะปกติ 2) ฐานลูกค้าบริษัทรับสร้างบ้านขนาดใหญ่ขึ้นจากการขยายการให้บริการออกไปยังภูมิภาคและ 3) ความกังวลของผู้บริโภคว่าราคาบ้านจะปรับตัวสูงขึ้นช่วยเร่งการตัดสินใจสร้างบ้านเร็วขึ้น การแข่งขัน ภาพรวมการแข่งขันของตลาดรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา โดยทั่วไปพบว่า การแข่งขันราคาไม่รุนแรงมากนัก โดยเฉพาะบรรดาผู้ประกอบการรายเล็กรายกลาง ที่ยังใช้ระบบก่อสร้างแบบเดิมๆ ซึ่งต้องเผชิญกับปัญหาแรงงานขาดแคลนและงานก่อสร้างล่าช้า ดังนั้นส่วนใหญ่จึงไม่พร้อมแข่งขันหรือไม่เร่งกระตุ้นกำลังซื้อใหม่ ในขณะที่ผู้นำตลาด 2-3 รายที่ใช้ระบบก่อสร้างสำเร็จรูป สามารถก่อสร้างได้รวดเร็วกว่า อาศัยความได้เปรียบในเรื่องนี้เร่งกระตุ้นยอดขายกันอย่างคึกคัก เพื่อให้สามารถเริ่มงานก่อสร้างและรับรู้รายได้ให้ทันในปีนี้ โดยพบว่ากลุ่มผู้นำนี้น่าจะมีการงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมารวมๆ กันแล้วเกือบ 20 ล้านบาท “ตลาดรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาสแรก ยังพบว่า การแข่งขันมีสีสันและมีความคึกคักขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ที่หันมาขยายไลน์สู่ธุรกิจรับสร้างบ้าน จากเดิมที่เคยเน้นจับกลุ่มระดับราคาบ้าน 10-20 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มเฉพาะและการแข่งขันไม่สูงมาก แต่มาปี 56 นี้ได้ประกาศรุกชิงแชร์ส่วนแบ่งตลาดบ้านระดับราคา 5-10 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จึงเท่ากับเป็นการลงมาแข่งขันกับรายเดิมในตลาดกลุ่มนี้โดยตรง” แนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีแรก สมาคมฯ ประเมินว่าทิศทางตลาดรับสร้างบ้านไตรมาส 2 อาจไม่เติบโตหรือแค่ทรงตัวเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรก ทั้งนี้เป็นเพราะกำลังซื้อส่วนหนึ่งตัดสินใจล่วงหน้าไปก่อนแล้ว รวมทั้งไตรมาสสองนี้มีช่วงวันหยุดเทศกาลติดต่อกันหลายวัน และตรงกับช่วงเปิดเรียนของบุตรหลาน ผู้บริโภคจึงน่าจะให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมากกว่า เรื่องการสร้างบ้านหลังใหม่ในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม ผลจากตลาดรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาสแรกมีการเติบโตสูง จึงน่าจะทำให้ภาพรวมตลาด 6 เดือนแรกปีนี้ ขยายตัวได้ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ 6 เดือนแรกของปีที่แล้ว คาดว่ามูลค่า “ตลาดรับสร้างบ้าน” ครึ่งแรกปีนี้น่าจะมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 45-50 ของมูลค่ารวมตลอดทั้งปีที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทเศษ สมาคมฯ ประเมินว่า แม้กำลังซื้อจะชะลอตัวบางส่วน แต่ยังเห็นว่าโอกาสที่ผู้ประกอบการจะมียอดขายเติบโตสวนทางก็เป็นไปได้ หากว่าสามารถกระตุ้นกำลังซื้อที่มีความพร้อมให้ตัดสินใจเร็วขึ้น หรือมีกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างจากคู่แข่งและโดนใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านใหม่ให้แก่ลูกหลานที่ย้ายสถานศึกษา กลุ่มลูกค้าครอบครัวใหม่ที่ต้องการสร้างเรือนหอ กลุ่มลูกค้าที่ไม่มีเงินออมแต่มีกำลังผ่อนชำระรายเดือน ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่กล่าวถึงนี้ จะตัดสินใจเลือกด้วยเหตุผลเพราะต้องการความสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ กระแสการอนุรักษ์พลังงานก็เป็นเรื่องที่ผู้บริโภคให้ความสนใจมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการเอง ควรหันมาใส่ใจและนำเสนอสิ่งที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น สรุป นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไตรมาสแรกขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจก่อสร้างก็เติบโตได้ดีเช่นกัน สำหรับไตรมาสสองนี้ประเมินว่า ภาพรวมอสังหาฯ จะยังมีการลงทุนเพิ่มทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง สำหรับตลาด “บ้านสร้างเอง” ในปี 2556 คาดว่ามีมูลค่ารวมทั่วประเทศประมาณ 1.2-1.3 แสนล้านบาท ขณะที่ตลาด “รับสร้างบ้าน” คาดว่าจะมีส่วนแบ่งประมาณ 1 หมื่นล้านบาทเศษ ซึ่งเติบโตกว่าปีที่แล้วประมาณร้อยละ 12-15 สำหรับภาวการณ์แข่งขันในช่วงไตรมาสสองนี้ ประเมินว่าจะเป็นการแข่งขันกันเฉพาะในกลุ่มผู้นำตลาด 3-4 ราย และเชื่อว่าจะมีการชิงแชร์ตลาดภูมิภาคหรือต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางและภาคอีสาน เช่น อยุธยา สระบุรี ลพบุรี ปากช่องหรือโคราช ฯลฯ เป็นต้น ขณะที่ผู้ประกอบการรายกลางรายเล็ก ส่วนใหญ่ไม่เน้นแข่งขันหรือทำตลาดในช่วงไตรมาสสอง แต่จะทำตลาดกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงครึ่งปีหลังมากกว่า สำหรับ ไตรมาสสองนี้ คาดว่าความต้องการสร้างบ้านหรือตลาดบ้านสร้างเอง ในต่างจังหวัดยังขยายตัวหรือเติบโตใกล้เคียงกับไตรมาสแรก หากผู้ประกอบการรับสร้างบ้านยังสามารถขยายการให้บริการ หรือเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้ดีขึ้น ก็เชื่อว่าจะสามารถแชร์ส่วนแบ่งตลาดบ้านสร้างเองได้เพิ่มตามกัน โดยเฉพาะระดับราคาบ้าน 1.5-3 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับราคาบ้านที่ผู้บริโภคต่างจังหวัดมีความต้องการมากที่สุด ปัจจุบันสมาชิกสมาคมฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 33 ราย แบ่งเป็นสมาชิกประเภทสามัญหรือรับสร้างบ้าน 28 ราย ที่เหลือเป็นสมาชิกประเภทวิสามัญ โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา กลุ่มสมาชิกรับสร้างบ้านมียอดขายบ้านแบ่งเป็น “ต่างจังหวัด” ร้อยละ 72 และ “กรุงเทพฯ และปริมณฑล” คิดเป็นร้อยละ 28 ทั้งนี้เหตุผลที่ยอดขายบ้านในต่างจังหวัดมีสัดส่วนมากกว่า เป็นเพราะสมาชิกสมาคมฯ ส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจอยู่ในต่างจังหวัด และมูลค่าและส่วนแบ่งตลาดของกลุ่มสมาชิกต่างจังหวัดมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หมายเหตุ: ตลาดบ้านสร้างเอง ได้แก่ - บ้านที่ประชาชนสร้างบนที่ดินของตัวเอง (ไม่ได้สร้างโดยผู้ประกอบการบ้านจัดสรร) โดยอาจว่าจ้างสถาปนิกออกแบบก่อน หรือซื้อแบบบ้านสำเร็จรูป หรือขอแบบบ้านฟรีจากส่วนราชการ จากนั้นจึงว่าจ้างช่างหรือผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป อาจเป็นการจ้างเหมาทั้งวัสดุและค่าแรง หรือจัดซื้อวัสดุเองแล้วว่าจ้างเฉพาะค่าแรง รวมทั้งใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านให้เป็นผู้ทำการก่อสร้าง ตลาดรับสร้างบ้าน ได้แก่ - บ้านที่ประชาชนสร้างบนที่ดินของตัวเอง (ไม่ได้สร้างโดยผู้ประกอบการบ้านจัดสรร) โดยว่าจ้างหรือใช้บริการเฉพาะกับบริษัทรับสร้างบ้านที่อยู่ในระบบและแข่งขันอยู่ในตลาดรับสร้างบ้านเท่านั้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ