กระทรวงเกษตรฯ วางกรอบยุทธศาสตร์ตั้งเป้าไทยไทยเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและการใช้เครื่องจักรกลด้านการเกษตรในภูมิภาคอาเซียน

ข่าวทั่วไป Tuesday April 9, 2013 15:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายและตั้งเป้าหมายที่จะผลักดัน ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการเกษตรในระดับอาเซียน โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลักในการผลักดันและส่งเสริมให้มีการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้านการเกษตรและมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางเครื่องจักรกลการเกษตรของอาเซียน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรขึ้น 1 คณะ เพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์และแนวทางการดำเนินงานในการผลักดันและขับเคลื่อนให้ประเทศไทยมุ่งไปสู่เป้าหมายดังกล่าว โดยที่ผ่านมาได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)หรือ สวก. ในฐานะ ที่ปรึกษาและเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการจัดทำยุทธศาสตร์ จัดเวทีเพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ในการวางกรอบของยุทธศาสตร์ฯ นายชวลิต กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์ด้านการส่งเสริมและพัฒนาการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรและอุปกรณ์การเกษตรใน 3 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ 1) ยุทธศาสตร์การผลิต เพื่อให้ผู้ประกอบการมีขีดความสามารถในการผลิตเครื่องจักรกลตรงตามความต้องการของลูกค้า 2) ยุทธศาสตร์การปรับแก้กฎระเบียบและนโยบายต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าเครื่องจักรกลการเกษตรในภูมิภาค และ 3) ยุทธศาสตร์การผลักดันธุรกิจ การวิจัย ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์เครื่องจักรกลตลอดสายการผลิต ทั้งนี้จะได้นำยุทธศาสตร์ดังกล่าวเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาและเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป “ภายใต้ยุทธศาสตร์ดังกล่าว จะให้ความสำคัญกับงานวิจัยเครื่องจักรกลการเกษตรสำหรับรายย่อยมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันรายใหญ่มีงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ค่อนข้างเข้มแข็งอยู่แล้ว แต่ที่ยังมีปัญหาในบ้านเราคือเครื่องจักรกลสำหรับรายย่อยซึ่งมีเป้าหมายกระจัดกระจายไม่คุ้มทุนในการจำหน่าย ทำให้งานวิจัยและพัฒนามีน้อยและไม่ต่อเนื่อง ขณะเดียวกันตลาดของเครื่องจักรกลขนาดเล็กยังมีอนาคตอยู่มากในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น รถไถเดินตาม เป็นที่ต้องการอย่างมากในพม่า ลาว และกัมพูชา ดังนั้นคงต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการตลาด ในประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น ซึ่งจะมีการกำหนดแผนงาน โครงการและรายละเอียดต่างๆ พร้อมที่จะเสนอครม. ในเดือนพฤษภาคมนี้” นายชวลิต กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ