กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--โบรเคด
"สถาปัตยกรรมไฮเปอร์เอดจ์ระบบใหม่ ผนึกการดูแลทั้งแบบเดิมและไร้สาย รองรับมาตรฐานการใช้งานเครือข่ายในอนาคต"
บริษัท โบรเคด (Nasdaq: BRCD) ภูมิใจนำเสนอสถาปัตยกรรมโบรเคดไฮเปอร์เอดจ์ Brocade? HyperEdge? Architecture เพื่อรองรับการใช้งานแคมปัสเน็ตเวิร์กที่เน้นเซอร์วิสและแอพพลิเคชั่น สร้างพัฒนาการปฏิวัติโฉมใหม่ของการออกแบบแคมปัสเน็ตเวิร์ก ใช้งานด้วยระบบอัตโนมัติ และการปรับโครงสร้างให้เรียบง่ายขึ้น ประสานการใช้งานโครงสร้างเน็ตเวิร์กทั้งแบบต่อสายและไร้สาย โดย Brocade? HyperEdge? Architecture จะช่วยให้บริษัทผู้ใช้งานสามารถเพิ่มผลิตภาพในการทำงานและการแข่งขันทางธุรกิจ ด้วยการใช้งานใหม่ที่รองรับการใช้งานโมบิลิตี้ คลาวด์เซอร์วิส และแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ
นอกจากนี้ ทางโบรเคดยังได้ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์การใช้งาน Brocade HyperEdge ต่างๆ เช่น ฟีเจอร์การดูแลจัดการรวมศูนย์และเซอร์วิสแบบกระจายตัว รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพด้านต่างๆ ให้กับชุดผลิตภัณฑ์แคมปัสของโบรเคด ทั้งในแบบต่อสายและไร้สาย ยิ่งไปกว่านั้นฟีเจอร์ไฮเปอร์เอดจ์ยังรวมการใช้งานระบบดูแลรวมศูนย์ของจุดเชื่อมต่อ AP การทำฟอร์วอร์ด AP แบบกระจาย ระบบรักษาตัวเองใน Brocade Mobility AP และการเชื่อมต่อแบบแอคทีฟต่อแอคทีฟภายในโดเมนไฮเปอร์เอดจ์เดียวกัน
ปัจจุบัน จากผลสำรวจของบริษัทวิจัย IDC จำนวนพนักงานนอกสถานที่จะเพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งในสามของจำนวนพนักงานทั้งหมดของโลกภายในเวลาไม่กี่ปีข้างหน้านี้ และการใช้งานเซอร์วิสและแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อช่วยการประสานการทำงานและเพิ่มผลิตภาพการทำงานจะยังขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ การใช้งาน VDI (Virtual Desktop Infrastructure) และ UC (Unified Communications) รวมทั้งการใช้วิดีโอเพื่อการสื่อสารธุรกิจที่มากขึ้นเรื่อยๆ จะไปเพิ่มภาระตามมาให้กับแคมปัสเน็ตเวิร์ก ซ้ำร้ายแล้ว ปัญหาที่ตามมาก็คือ แคมปัสเน็ตเวิร์กส่วนใหญ่มักจะเป็นเน็ตเวิร์กรุ่นเก่าที่ซับซ้อนดูแลยาก ปรับแต่งไม่ได้ และรองรับการติดตั้งใช้งานกับแอพพลิเคชั่นสมัยใหม่อย่างรวดเร็ว รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลและการใช้งานหลายอุปกรณ์ผสมกันไม่ได้
“ในเมื่อยูสเซอร์มากขึ้นเรื่อยๆ ต้องพึ่งเซอร์วิสที่ส่งผ่านเน็ตเวิร์กมา ดังนั้นระบบแคมปัสเน็ตเวิร์กต้องยืดหยุ่น ทนทาน จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะรักษาประสิทธิภาพการทำงานของธุรกิจ ถ้าแคมปัสเน็ตเวิร์กไม่สามารถสนับสนุนความต้องการใช้แอพพลิเคชั่นขององค์กร ก็จะกระทบกับทั้งการแข่งขัน การปรับเปลี่ยนและประสิทธิภาพทางธุรกิจได้ ในเรื่องนี้โซลูชั่นอย่าง Brocade? HyperEdge? Architecture จะช่วยทำให้เน็ตเวิร์กรวมเป็นหนึ่งเดียว และมีระบบจัดการอัตโนมัติที่ติดตั้งและดูแลง่าย ยืดหยุ่นสูง ทำให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นสำคัญๆ ทางธุรกิจได้สะดวก” โรหิต เมห์รา รองประธานฝ่ายโครงสร้างเน็ตเวิร์ก IDC เผย
หัวใจหลักของวิสัยทัศน์ The Effortless Network? ก็คือสถาปัตยกรรม Brocade? HyperEdge? Architecture ที่นำเสนอความยืดหยุ่นในการใช้งาน และระบบดูแลอัตโนมัติที่เหนือกว่าใคร ช่วยให้เปลี่ยนแคมปัสเน็ตเวิร์กให้สามารถปรับเปลี่ยนและขยายระบบเพื่อรองรับความต้องการในการใช้งานนอกสถานที่ของยูสเซอร์ ในขณะที่เข้าถึงเซอร์วิสและแอพพลิเคชั่นได้อย่างฉับพลันทันใจ
ฟีเจอร์ใช้งานต่างๆ ของระบบ Brocade? HyperEdge? Architecture มีดังนี้
- การใช้งานต่างสาขา (Distributed Services)
ฟีเจอร์ใช้งานและเซอร์วิสระดับสูงของแคมปัสที่เคยมีกับสวิตช์ระดับราคาพรีเมียมถูกนำมาเสนอในสวิตช์ระดับเริ่มต้นใช้งานใน HyperEdge Domain เดียวกันเป็นระบบอัจฉริยะกับทุกยูสเซอร์และพอร์ตของอุปกรณ์โดยลดค่าใช้จ่ายต่อพอร์ตลงได้มาก และแคมปัสสวิตช์ Premium Brocade ICX? ยังสามารถติดตั้งไว้ในสแต็ค Brocade ICX ที่มีอยู่เดิมใน HyperEdge Domain ได้ทุกเวลาเพื่ออัพเกรดระดับการบริการของโครงสร้างเน็ตเวิร์ก ไม่เสียเปล่ากับการลงทุนด้านไอทีเดิม
- ดูแลจัดการเป็นหนึ่งเดียว (Consolidated Management)
เมื่อหลายอุปกรณ์ถูกรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวในแบบโลจิคัลในแต่ละ HyperEdge Domain ก็จะทำให้การตั้งค่าดูแลเน็ตเวิร์กและบริหารจัดการงานอัพเดตทำได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้นผ่านการแชร์อิเมจซอฟต์แวร์และโพลิซีของเน็ตเวิร์กโดยมีจุดที่ต้องดูแลน้อยลง โดยโครงสร้างระบบ Brocade ICX แบบต่อสายจะสนับสนุนการยุบรวมและการเข้าถึงโดเมน นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ Brocade Mobility จะสามารถนำมารวมศูนย์การใช้ AP แบบไร้สาย หรือทางเลือกในการดูแลแบบใช้คอนโทรลเลอร์ได้เช่นกัน
- การส่งต่อตามAccess Point (AP) ต่างสาขา (Distributed Access Point (AP) Forwarding)
ทราฟฟิกผ่านระบบโมไบล์จะมีการรักษาความปลอดภัยและมีการกำหนดเส้นทางโดยไม่ย้อนกลับไปที่คอนโทรเลอร์กลาง ดังนั้นจึงป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาคอขวดของสัญญาณที่ตัวคอนโทรลเลอร์ ช่วยให้สมรรถนะการทำงานสูงขึ้น และเสถียรภาพในการใช้งานที่วางใจได้สูงขึ้น ในขณะที่มีการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อกับระบบโมไบล์ ยิ่งไปกว่านั้นฟังก์ชั่นการรักษาตัวเองในระบบ Brocade Mobility AP ยังช่วยให้วางใจได้ว่าทั้งระบบจะมีการเชื่อมต่อประสิทธิภาพสูงเป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
สถาปัตยกรรมเน็ตเวิร์ก Brocade? HyperEdge? Architecture จะรวมเอาการเข้าใช้งานและการรวมระบบของเลเยอร์ในเน็ตเวิร์กสำนักงานสาขาเข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้การใช้เซอร์วิสต่างๆ ทำได้ง่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ทั้งนี้ จุดเชื่อมต่อ AP แบบอัจฉริยะจะเชื่อมต่อโดยตรงกับโดเมนเน็ตเวิร์กแบบต่อสายเพื่อให้มีการรักษาความปลอดภัยของการเชื่อมต่อไวร์เลสโดยไม่ทำให้โครงสร้างระบบเน็ตเวิร์กแบบต่อสายเกิดโอเวอร์โหลดเกินการใช้งาน นอกจากนี้ทราฟฟิกทั้งหมดยังถูกจัดการภายใน HyperEdge Domain ดังนั้นลดความจำเป็นในการใช้งานโพรโตคอลเดิมที่ซับซ้อน เช่นSpanning Tree Protocol — STP และการใช้ทราฟฟิกไวร์เลสแบบเน้นคอนโทรลเลอร์ ยิ่งไปกว่านั้น HyperEdge Domains ยังสามารถขยายการใช้งานและเชื่อมต่ออย่างไร้รอยต่อกับเน็ตเวิร์กสำนักงานสาขาเดิมได้ด้วย ซึ่งดีไซน์การออกแบบระบบนี้ จะช่วยการบริหารจัดการอุปกรณ์ต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ยืดหยุ่นสะดวกใช้งาน เหมาะสำหรับโครงสร้างเน็ตเวิร์กที่ปรับแต่งเพื่อการใช่งานสูงสุดด้านแอพพลิเคชั่นและเซอร์วิสเช่นกัน
นอกจากนี้ Brocade Network Advisor ยังรวมศูนย์การจัดการอุปกรณ์ต่างๆ ในเครือโบรเคดทั้งหมดทั้งแบบต่อสายและไร้สาย โดยมีหน้าจอบริหารเดียวกัน รวมทั้งสนับสนุนการใช้ AP และคอนโทรลเลอร์แบบไร้สาย ผู้ใช้งานสามารถใช้ CLI Manager และฟีเจอร์การติดตามโพลิซีดูรวมทั้งเน็ตเวิร์กไร้สายและต่อสายเพื่อตรวจสภาพความต่อเนื่องของ VLAN ได้อย่างครบวงจรและรับทราบข้อมูลเชิงลึก นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ให้กับ Brocade Network Advisor เช่นหน้าจอแสดงประสิทธิภาพการทำงานที่ปรับแต่งได้ และผู้ดูแลระบบสามารถเลือกใช้งานหน้าจอแบบมาตรฐานหรือปรับแต่งเพื่อแสดงข้อมูลที่สำคัญๆ ทั้งหมดได้ครบในจอเดียวกัน ช่วยให้การดูแลระบบทำได้ง่ายขึ้น รับทราบปัญหาและหาทางแก้ไขได้ตั้งแต่ต้นมือ
เสริมทัพชุดผลิตภัณฑ์ Brocade Campus Network
โบรเคดได้ประกาศเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้กับชุดผลิตภัณฑ์ Brocade Campus Network โดยเพิ่มสวิตช์ตัวใหม่ จุดเชื่อมต่อ AP แบบไร้สาย และคอนโทรลเลอร์ไร้สายตัวใหม่ โดยเครื่องรุ่นใหม่ๆ นี้ได้รับการออกแบบมาให้รองรับการปรับขยายและสนับสนุนมาตรฐานใหม่ๆ อย่างเช่น มาตรฐาน 802.11ac ด้วย
- Brocade ICX 6430-C สวิตช์แบบกระทัดรัดมาครบทุกฟีเจอร์ใช้งานในรูปแบบกระทัดรัด ลดการใช้พลังงาน และทำงานเงียบกว่าด้วยดีไซน์ใหม่แบบไร้พัดลม โดยเป็นเวอร์ชั่น แบบ 12-พอร์ต ของเครื่อง Brocade ICX 6430 ตัวเต็มที่เป็นรุ่นยอดนิยมมีติดตั้งใช้งานตามไซต์ของลูกค้าไปแล้วหลายร้อยแห่งทั้งในการใช้งานของบริษัทระดับเอนเทอร์ไพรซ์ ภาคการศึกษา และสาธารณสุข ที่ผ่านมา
โดยเครื่อง Brocade ICX 6430-C แบบย่อขนาดนี้จะนำเสนอฟีเจอร์ระดับเอนเทอร์ไพรซ์ในตัวเครื่องกระทัดรัดประหยัดพื้นที่ เหมาะสำหรับการติดตั้งในห้องเรียน ห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาล หรืออาคารสำนักงานของหน่วยราชการต่างๆ โดยเครื่องแบบ Brocade ICX 6430-C นี้ยังมีทั้งระบบการรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพเทียบเท่ากับสวิตช์ Brocade ICX แบบขนาดเต็ม
- Brocade ICX 6650 มีการเพิ่มโปรดักต์ระดับไฮเอ็นด์ ความจุสูงให้กับชุดผลิตภัณฑ์นี้โดย เพิ่มทางเลือกการใช้แบบ 10 และ 40 GbE พอร์ต ซึ่งออกแบบมาสำหรับการใช้รวมระบบสาขาหรือการใช้ Top-of-Rack (ToR) ในศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่ไม่ได้ใช้เฟบริคที่ต้องการประสิทธิภาพสูง และการเชื่อมต่อที่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายต่ำำกว่า โดย Brocade ICX 6650 จะมีการใช้งานระบบ Ports on Demand หรือ PoD ที่ยืดหยุ่นกว่าและสามารถใช้ไลเซนส์พอร์ต 10 GbE ได้มากถึง 64 พอร์ต และ พอร์ต 40 GbE ได้สี่พอร์ตในแร็คเดียวกันเพื่อการใช้งานต่อเนื่องในระยะยาวและสามารถซื้อการใช้งานเพิ่มได้ตามการขยายตัวของการใช้งาน
- โบรเคดยังได้ประกาสเปิดตัว เครื่องจุดเชื่อมต่อ AP แบบไร้สายสามแบบ ที่นำเสนอทั้งประสิทธิภาพ ระยะทางและความวางใจได้ของการเชื่อมต่อแบบไร้สาย โดยเครื่อง Brocade Mobility 1220 และ Brocade Mobility 1240 Access Point มีประสิทธิภาพเพิ่มเติมทั้งในด้านระบบอัตโนมัติ ความคงทนของเน็ตเวิร์กและประสิทธิภาพที่สูงขึ้น โดยเครื่องแบบ Brocade Mobility 1240 จะสนับสนุนการส่งผ่านข้อมูลด้วยความเร็วสูงระดับ 450 Mbps ในขณะที่เครื่อง Brocade Mobility 1250 Access Point ที่จะมีวางตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี 2013 จะมีการเพิ่มมาตรฐานแบบ 802.11ac รองรับสปีดความเร็วสูงสุดถึง 1 Gbps สำหรับยูสเซอร์ที่ใช้งานไวร์เลส นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวเครื่อง Brocade Mobility RFS9510 Controller ใหม่ที่รองรับอุปกรณ์ AP ได้ถึง 10,240 ตัวและการใช้งานมากถึง 200,000 เครื่อง
- นอกจากนี้โบรเคดยังนำเสนออ็อปชั่นฮาร์ดแวร์ทางเลือกใหม่ให้กับเครื่องสวิตช์ Brocade FastIron? SX, Brocade FCX และ Brocade ICX โดยมีโมดูลการดูแลจัดการสำหรับสวิตช์ FastIron SX ที่เพิ่มประสิทธิภาพสูงกว่าถึง 8 เท่า เพิ่มขีดความสามาถในการปรับขยายระบบ และมีฟีเจอร์การใช้งานระดับสูงอย่างเช่น Virtual Routing and Forwarding (VRF) นอกจากนี้ทางBrocade ยังได้เพิ่มโมดูลอัพลิงก์ให้กับผลิตภัณฑ์สวิตช์ Brocade FCX รวมทั้งเพาเวอร์ซัพพลายไฟกระแสตรง (DC) ให้กับเครื่อง Brocade ICX 6610 Switch เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความพร้อมใช้งานของระบบ
ราคาและกำหนดการวางจำหน่าย
ฟีเจอร์การทำ Distributed Services และ Consolidated Management and Distributed AP Forwarding ของ Brocade? HyperEdge? Architecture มีพร้อมแล้วในขณะนี้กับการใช้งานรีลีสใหม่ของซอฟต์แวร์ Brocade FastIron 8.0 และ WiNG 5.4.2 โดยไม่จำเป็นต้องมีไลเซนส์การใช้งานเพิ่มเติมสำหรับการใช้เซอร์วิส
สำหรับเครื่อง Brocade ICX 6430-C จะมีวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน 2013 โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,095 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับเครื่อง Brocade ICX 6650 มีวางจำหน่ายแล้วในขณะนี้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 19,200 เหรียญสหรัฐฯ ส่วน Brocade Mobility 1220 และ 1240 Access Point จะมีจำหน่ายภายใน เดือนพฤษภาคมปี 2013 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 625 และ 1,245 เหรียญสหรัฐตามลำดับ นอกจากนี้ คอนโทรลเลอร์ Brocade RFS9510 จะมีวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายนด้วยราคาเริ่มต้นที่ 39,995 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนโมดูลดูแลจัดการ Brocade FastIron SX จะมีกำหนดออกมาในเดือนมิถุนายนปี 2013 นี้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 3,995 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับโมดูลเพาเวอร์ซัพพลาย DC ของ Brocade ICX 6610 และโมดูลอัพลิงก์ Brocade FCX มีจำหน่ายแล้วด้วยราคา 1,100 และ 1,795 เหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ