กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--IR network
ผู้ถือหุ้น“เสนาดีเวลลอปเมนท์” เป็นปลื้มรับเงินปันผลต่อเนื่อง อนุมัติจ่ายเพิ่มอีก 0.083 บาทต่อหุ้น แต่รวมทั้งปีจ่าย 0.165 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนร้อยละ 4.39% ต่อปี เตรียมรับเงินถ้วนหน้า 22 พ.ค.นี้ “ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” เผยเป็นการขอบคุณทุกคนที่ยืนเคียงข้าง เป็นกำลังใจ และให้การสนับสนุน SENA มาโดยตลอด และมีความตั้งใจที่จะสร้างผลงานที่ดีเพื่อให้สามารถตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้ทุกปี
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2556 ได้อนุมัติจัดสรรเงินสำรองตามกฎหมายจำนวน 4,015,172.09 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับทุนสำรองที่ได้จัดสรรไว้ในรอบปีบัญชีปี 2554 จำนวน 67,455,310.91 บาท บริษัทฯจะมีทุนสำรองตามกฎหมายเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น จำนวน 71,470,483 บาท คิดเป็นร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียนและอนุมัติการจ่ายปันผล สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2555 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทเป็นเงินสดอัตราหุ้นละ 0.165 บาท ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว ในอัตราหุ้นละ 0.082 บาท เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2555 ดังนั้นจึงเหลือ เงินปันผลที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมในอัตราหุ้นละ 0.083บาท โดยจ่ายผลกำไรภายใต้บัตรส่งเสริมการลงทุน 0.019 บาท และกำไรจากธุรกิจนอกกิจการบัตรส่งเสริมการลงทุน 0.064 บาท
กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2556 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันอังคารที่ 7 พฤษภาคม 2556 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯโดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันพุธที่ 8 พฤษภาคม 2556
“การจ่ายเงินปันผลเป็นเรื่องที่ทีมผู้บริหารของ เสนาดีเวลลอปเม้นท์ มีความตั้งใจที่จะทำให้ได้ทุกปี เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นทุกท่านที่สนับสนุนบริษัทมาโดยตลอด อีกทั้งยังยืนหยัดเคียงข้างกันอีกด้วย อัตราผลตอบแทนในแต่ละปีก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำกำไรในปีนั้นๆ ซึ่งทีมงานทุกคนได้พยายามอย่างเต็มที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาและก็เห็นผลงานที่เด่นชัดมาโดยตลอด ในอนาคตเราทุกคนก็ยังมีความมุ่งมั่นที่จะเติบโตไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงแข็งแกร่ง จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ถือหุ้นของ SENA ทุกท่านจะยังยืนเคียงข้างกัน เป็นกำลังใจให้กัน และคอยสนับสนุนบริษัทด้วยดีเหมือนเช่นที่ผ่านมาด้วย”
ผู้บริหารรายเดิมกล่าวต่อถึงแผนงานในปีนี้ว่า SENA เตรียมที่จะพัฒนาโครงการใหม่ประมาณ 12 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 6 โครงการ ซึ่งจะเน้นคอนโดมิเนียมในแบรนด์ “The Niche”, โครงการแนวราบ 4 โครงการ และโครงการประเภทไลฟ์สไตล์ 2 โครงการ ทั้งนี้ในส่วนของแนวราบนั้น จะเน้นเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับบน (พรีเมียม) ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2556 เอาไว้ประมาณ 2,500 ล้านบาท และยอดโอนประมาณ 2,000 ล้านบาท