บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลประกาศเพิ่มทุนกองทุน CIMB-PRINCIPAL iFIXED ตอบสนองนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ หนีความผันผวนของหุ้นและทองคำ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 24, 2013 15:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย นายเจิดพันธุ์ นิธยายน ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและการขาย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล คอร์ ฟิกซ์ อินคัม หรือกองทุน CIMB-PRINCIPAL iFIXED นั้น นักลงทุนให้ความสนใจลงทุนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเงินทุนจดทะเบียนใกล้เต็มแล้ว บริษัทจึงได้ขอจดทะเบียนเพิ่มทุนกองทุนดังกล่าวกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงานก.ล.ต.) และได้รับอนุมัติเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในการเปิดเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ) เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2555 นั้น กองทุน CIMB-PRINCIPAL iFIXED มียอดจองซื้อประมาณ 1,100 ล้านบาท และได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว จนทำให้มียอดจำหน่ายเต็มจำนวนโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจัดการได้จดทะเบียนเพิ่มทุนครั้งแรกในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556 จาก 2,000 ล้านบาท เป็น3,000 ล้านบาท หรือ 300 ล้านหน่วย และเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2556 มูลค่าทรัพย์สินกองทุนภายใต้การจัดการเพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 2,600 ล้านบาท หรือประมาณ 256 ล้านหน่วย เพื่อรองรับการเติบโตของกองทุนจึงจดทะเบียนเพิ่มทุนเป็นครั้งที่สอง โดยจดทะเบียนทั้งสิ้นเป็นจำนวน 4,000 ล้านบาท หรือ 400 ล้านหน่วย “สำหรับกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล คอร์ ฟิกซ์ อินคัม หรือกองทุน CIMB-PRINCIPAL iFIXED เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผลตอบแทนของกองทุนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 5.53 ต่อปี *” (ผลการดำเนินงานกองทุน ณ วันที่ 29 มีนาคม 2556) คุณเจิดพันธุ์กล่าว นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นและทองคำในช่วงที่ผ่านมามีความผันผวนเนื่องจากปัญหาการขอรับการช่วยเหลือทางการเงินของประเทศไซปรัส ความกังวลต่อปัญหาการเมืองระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ และปัญหาไข้หวัดนกที่ระบาดในประเทศจีน แต่อย่างไรตาม เศรษฐกิจไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตสูงกว่าเศรษฐกิจโลก ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับปานกลาง รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.75% โดยธนาคารแห่งประเทศไทยมีความเห็นว่าระดับดอกเบี้ยปัจจุบันยังคงเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ ปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เงินทุนไหลจากต่างประเทศเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ในประเทศเรา ดังนั้นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางในช่วงนี้น่าจะจัดอยู่ในช่วงที่ ถูกที่ ถูกเวลา “จากการศึกษาของบริษัทจัดการ พบว่าการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางอายุ 1 - 3 ปีสามารถให้ผลตอบแทนสะสมนับแต่ปี 2007 จนถึงปัจจุบันสูงถึง 28.3% หรือเฉลี่ยประมาณ 4.6% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยที่ 18.40% ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น (Money Market) และกองทุนตราสารหนี้แบบกำหนดอายุ 1 ปี (Term Fund) ให้ผลตอบแทนสะสม 16.80% และ 18.10% ตามลำดับซึ่งต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อสะสมตลอดช่วงดังกล่าว นอกจากนี้ข้อดีอีกประการหนึ่งของกอง CIMB-PRINCIPAL iFIXED คือ มีการกระจายการลงทุน (Diversification) ที่มากกว่ากองทุนตราสารหนี้แบบมีกำหนดอายุซึ่งมักจะลงทุนในตราสารหนี้แต่ละบริษัทประมาณ 20 — 25% และด้วยโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่า กับการกระจายความเสี่ยงที่ดีกว่านี้เองทำให้กองทุนเปิด ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล คอร์ ฟิกซ์ อินคัม (CIMB-PRINCIPAL iFIXED) เหมาะจะใช้เป็นสินทรัพย์หลักในการจัดพอร์ตลงทุน (Core Investment Portfolio)” นายเจษฎากล่าว CIMB-PRINCIPAL iFIXED กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท และผู้ลงทุนสามารถซื้อ — ขายได้ทุกวันและเวลาทำการ ผู้ที่สนใจสามารถซื้อและขอหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา ทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด 0 2686 9595 www.cimb-principal.com หรือ CIMB Thai Care Center 0 2626 7777 กด 0 www.cimbthai.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ